สมศักดิ์ ควง ธรรมนัส หาเสียง มั่นใจ คนเหนือเลือก "ประยุทธ์" ส่งผลพรรคเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล โว ได้ ส.ส.เหนือมากกว่า 30 คน ด้าน "ธนกร" ย้อน "อภิสิทธิ์" จ่ายเงินสดบัตรคนจนเริ่มจาก "สามมิตร"

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ยังคงลงพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้ ไปยังตำบลหนองหญ้าป้อง จังหวัดสุโขทัย เพื่อพบปะประชาชน และเดินหน้าเรียกคะแนนนิยม ซึ่งแต่ละจุดที่ลงพื้นที่ มีประชาชนกว่า 1,000 คน ให้การต้อนรับ นอกจากนี้ ยังได้แนะนำว่าที่ผู้สมัคร เขต 2 ชูศักดิ์ คีรีมาศทอง

โดยนายสมศักดิ์ ขึ้นเวทีปราศรัย ย้ำว่า จะต่อยอดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้ครอบคลุม รวมถึงนโยบายของพรรค ได้ให้ความสำคัญกับเกษตรกร โดยเฉพาะราคาข้าว นอกจากนี้ ยังสนับสนุนอาชีพเสริมด้วยนโยบายโคบาลประชารัฐ พร้อมเดินหน้านโยบาย ส.ป.ก. และการพักหนี้กองทุนหมู่บ้าน 3 ปีไม่มีดอกเบี้ย

นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ ถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องว่า การโจมตีเป็นเรื่องปกติทางการเมือง เพราะคนที่โจมตีจำนวนมากจะเป็นพรรคที่ไม่มีคะแนนเสียง ซึ่งชี้ได้ว่าคนที่โจมตีตกใจกับคะแนนที่ไม่มี และจากการลงพื้นที่ภาคเหนือมั่นใจว่า เขตภาคเหนือจะไม่ผิดเพี้ยน และที่พรรคอื่นออกมาพูดว่า จะได้ส.ส.ภาคเหนือ 40-50 คนนั้น เป็นการพูดเท็จ เพราะพรรคพลังประชารัฐ จะได้ส.ส.ภาคเหนือจำนวนมาก จากผลงานที่ดำเนินการมาตั้งแต่ต้น และยิ่งนำเสนอนโยบายที่ชัดเจนทั้งหมดในวันที่ 2 ก.พ.ด้วยแล้ว เชื่อว่าคะแนนนิยมจะดีขึ้น รวมถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็น่าจะรีบตัดสินใจร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐเร็วขึ้น

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ผู้สมัครที่ไม่คิดว่าจะเข้ามาชิงคะแนนได้ แต่วันนี้กลับสามารถชิงพื้นที่ได้ จากการทำงานตามยุทธศาตร์ภาคเหนือ จากเดิมโพลที่สำรวจภาคเหนือจะได้ ส.ส.ประมาณ 30 คน แต่วันนี้มั่นใจว่าดีกว่าเดิม และเชื่อว่า พรรคพลังประชารัฐ จะเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลอย่างแน่นอน เพราะแค่ภาคเหนือยังนำขนาดนี้ ส่วนหลังจากพรรคมีมติเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในบัญชีนายกฯของพรรคนั้น ยืนยันว่าประชาชนสนับสนุนเต็มที่ เพราะจากการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่เวทีภาคเหนือตอนล่าง ประชาชนทุกคนสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ อีกครั้ง

...

ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคเหนือ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่มาเกือบ 6 เดือน พบประชาชน 17 จังหวัด ทำให้มีข้อมูลเพื่อนำมาแก้ไขปรับยุทธศาสตร์การหาเสียง ทำให้กระแสตอบรับพรรคพลังประชารัฐดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเดิมภาคเหนือเป็นพื้นที่ของพรรคเพื่อไทย แต่จากการเดินทางไปปราศรัยหลายจังหวัด ได้เห็นกระแสที่เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ส่วนที่เคยอยู่พรรคเพื่อไทยมีผลกระทบต่อการหาเสียงหรือไม่นั้น ยืนยันว่า กระแสตอนแรกถูกโจมตีในขณะลงพื้นที่ แต่ส่วนตัวไม่เคยเป็นหนี้บุญคุณพรรคใด ซึ่งมีแต่หลายพรรคที่เป็นหนี้บุญคุณตนเอง โดยที่ไม่เคยไปรับตำแหน่งใคร ดังนั้นคำว่า หักหลังคงมาใช้กับตนไม่ได้

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวอีกว่า ประชาชนภาคเหนือ ไม่ต้องการเห็นคนไทยทะเลาะกัน ชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอน เรียก พล.อ.ประยุทธ์ว่า "พ่อตู่" เพราะทำให้เห็นว่า นโยบายหลายเรื่องจับต้องได้ และได้ใช้ประโยชน์ ซึ่งสะท้อนว่า กระแสตอบรับพรรคพลังประชารัฐ เป็นไปในทิศทางบวก ยืนยันว่า ไม่เคยวิตกที่ถูกโจมตีว่าหักหลัง นอกจากนี้ มั่นใจว่า ภาคเหนือตอนบนจาก 31 เขต พรรคพลังประชารัฐ มีโอกาส 18-20 เขต เพราะจากการลงพื้นที่ ประชาชนต้องการเปลี่ยน และเรียกร้องให้พรรคพลังประชารัฐเป็นรัฐบาล รวมถึงประชาชนต้องการก้าวข้ามความขัดแย้ง ซึ่งถ้า พล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นนายกฯ จะทำให้มีความมั่นคงของรัฐ และก้าวข้ามความขัดแย้ง โดยส่วนตัวเชื่อว่า คนเหนือเลือกพล.อ.ประยุทธ์


นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายธนา ชีรวินิจ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่า การที่นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีไม่ได้สร้างบรรทัดฐานใหม่ทางการเมืองว่า นายธนาหมดความชอบธรรมที่จะมาพูดเรื่องนี้ เพราะในอดีตพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่เคยลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีเลย แล้วจะมาวิจารณ์คนอื่นได้อย่างไร ทั้งนี้ ต้องชื่นชมนายอุตตมและอีก 3 รัฐมนตรีที่สร้างบรรทัดฐานที่ดีทางการเมือง ซึ่งแทนที่จะเอาเวลาไปหาเสียง แต่กลับมานั่งดิสเครดิตพรรคอื่น และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็เรียกร้องให้ทำการเมืองอยู่ในกติกา อย่าใส่ร้ายกัน ดังนั้นนายธนาก็ควรเริ่มต้นที่การเคารพกติกาตามที่หัวหน้าพรรคตัวเองพูดไว้ก่อนจะดีกว่า

นายธนกร กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องการลอกนโยบายนั้น โครงการบัตรสวัสดิการในช่วงแรกอดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เองก็ยังออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ใครกันแน่ที่ลอก และที่สำคัญคือ การที่นายอภิสิทธิ์ระบุว่า รัฐบาลจ่ายเป็นเงินสดหลังจากที่นายอภิสิทธิ์พูดนั้นก็ไม่เป็นความจริง เพราะกลุ่มสามมิตรเป็นคนเสนอไปยังรัฐบาลให้จ่ายเงินสดส่วนหนึ่งให้ชาวบ้าน ซึ่งสามารถไปดูข่าวย้อนหลังได้ เพราะกลุ่มสามมิตรลงพื้นที่กว่า 7 เดือน ชาวบ้านเขาก็เสนอมา อย่างไรก็ตาม จริงๆ แล้วนโยบายดีๆ ของรัฐบาลหากพรรคการเมืองไหนจะเอาไปทำต่อนั้นคงไม่มีปัญหา เพราะพี่น้องประชาชนได้ประโยชน์ แต่ต้องให้เครดิตคนคิดด้วย ไม่ใช่ว่าพอประชาชนชอบนโยบายนี้ เลยหน้ามืด ทำตีมึน อ้างว่าตัวเองเป็นคนทำนโยบายก่อน แบบนั้นมันไม่ถูก ขนาดเด็กจะลอกข้อสอบกันยังทำได้เนียนกว่านี้เลย