ภท.ร้องเตือนที่เว็บ กกต.ล่มโดนฉกข้อมูล
พปชร.ได้ฤกษ์ 1 ก.พ.16.30 น. แห่ขันหมากเข้าทำเนียบฯ เชิญ “ประยุทธ์” ขึ้นบัญชีนายกฯ “อุตตม” ยึกยักยังไม่ได้ตัดสินใจร่วมแคนดิเดต “สมคิด” ก็อ้างยังไม่ได้ถูกทาบ “ประยุทธ์” ขอบคุณที่เชิญแต่จะรับหรือไม่ยังมีเวลาคิด อุ้มนาฬิกาหรู “บิ๊กป้อม” แค่เรื่องเล็กน้อยตัดสินแล้วให้จบๆไป “สมศักดิ์” ป้องนายกฯไม่ต้องไขก๊อกผวาลามถึง “สมคิด” พท.เขย่าใหม่ 3 ชื่อ “เจ๊หน่อย-ชัชชาติ-ชัยเกษม” ชิงนายกฯ “ภูมิธรรม” แจงไม่จัดลำดับใคร 1-2-3 “วิโรจน์” ถอนตัวลงปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 ปชป.เย้ย 4 กุมารลาออกกลัวผิดกฎหมายไม่ใช่มีสปิริต “ธนาธร” ท้าชน “บิ๊กตู่” ดีเบตทุกเวที กกต.เคาะจุดปิดป้ายหาเสียง ห้ามขาดถนนราชดำเนิน-ถนนรอบพระราชวัง ต้นไม้-เสาไฟเกาะกลางถนน
แม้แกนนำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เตรียมยกคณะส่งเทียบเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้อยู่ในบัญชีบุคคลที่จะเสนอเป็นนายกฯของพรรคในวันที่ 1 ก.พ. แต่ พล.อ.ประยุทธ์ยังคงสงวนท่าที อ้างยังมีเวลาคิดจนถึงวันที่ 8 ก.พ.
“บิ๊กตู่” โวผลงาน 4 เท่าของ 10 ปีก่อน
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 31 ม.ค. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานรับมอบสมุดปกขาวนโยบายเศรษฐกิจฐานรากสู่แนวทางการปฏิบัติ หลังรับฟังข้อเสนอจากตัวแทนกลุ่มต่างๆทั่วประเทศ พร้อมเป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ จากนั้นนายกฯกล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “นโยบายรัฐบาลในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากของประเทศไทย” ว่ามาพบปะกันวันนี้ดีกว่าไปอยู่นอกรั้ว ที่ต้องไม่เกิดขึ้นอีก วันนี้อย่าไปฟังคนที่พูดจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น 4 ปีที่คนเหล่านี้เป็นรัฐบาล ทำอะไรได้ไม่ครบถ้วนเหมือนกัน แต่รัฐบาลนี้ทำมากกว่าเดิม 4 เท่าของ 10 ปีที่ผ่านมา บางอย่างยังไม่ถึงมือชาวบ้าน บางอย่างจับต้องไม่ได้ อย่างอำนาจการรบของเรา อุปกรณ์การสู้รบ อำนาจการรบถือเป็นขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่แบบไม่มีตัวตน แต่ทำให้มีศักยภาพดูแลประเทศ เป็นศักดิ์ศรีเกียรติยศดูแลประเทศสงบสุข
...
บ่นยังไม่ทำการเมืองถูกด่าเอาเปรียบ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ส่วนการแก้ปัญหาทุจริตต้องกล้าแสดงออก กล้าแจ้งความ เราจะไปกลัวคนไม่ดีทำไม และไม่ต้องมากลัวตนเพราะทำให้พวกท่าน อย่าให้ใครมาใช้ประโยชน์จากความบริสุทธิ์ ใสซื่อของท่านไปเป็นประโยชน์ทางการเมืองเด็ดขาด วันนี้เสียงดังไปหน่อย ตอนแรกตั้งใจทำเสียงหล่อ แบบบางคนแต่ทำไม่ได้ เพราะงานมันท่วมท้นสมองทุกวัน ประชาชนบอกนายกฯประยุทธ์พูดไม่เพราะ แต่ทำจริงและกำลังทำอยู่ พอบอกอย่างนี้บอกว่าตนได้เปรียบ ทั้งที่ยังไม่ได้ทำอะไรทางการเมือง เขียนนิยายกันได้ทุกวัน เอาไว้ให้เข้าไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน ต้องระมัดระวังให้มากที่สุด วันนี้ได้เปรียบอย่างไร แต่ก่อนนั้นท่านเป็นรัฐบาลไม่ใช่ว่าได้เปรียบตนหรือ เป็นรัฐบาลมาก่อนทั้งนั้น รัฐบาลหน้าต้องเป็นรัฐบาลที่ปรองดองทุกพรรคได้ ทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ทุกคนต้องปรองดองกันหลังเลือกตั้ง จะเดินขบวนกันอีกไม่ได้ ตีกันอีกไม่ได้ และอยู่ที่ประชาชนเป็นผู้กำหนดทั้งสิ้น เพราะเป็นคนเลือกตั้ง พรรคใดมีนโยบายปรองดองมาทำงานเพื่อชาติ ปฏิรูปการเมืองใหม่ทั้งหมดควรสนับสนุน
ขอบคุณที่เชิญแต่มีเวลาคิดถึง 8 ก.พ.
ต่อมาเวลา 12.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐจะมาเทียบเชิญเป็นนายกฯในบัญชีพรรควันที่ 1 ก.พ.ว่า มาเชิญเมื่อไหร่ก็ยินดี ขอบคุณที่มาเชิญ ส่วนจะรับหรือไม่รับนั้นมีเวลาพิจารณา ประกาศเซ็นตอบรับในเอกสารจนถึงวันที่ 8 ก.พ.ไม่ต้องมาถามทุกวัน เมื่อถามว่า การตัดสินใจทางการเมืองครั้งนี้ คิดมาตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.57 เลยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่าไม่เคยคิดแม้แต่วันเดียว ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ก็เห็นปัญหาต่างๆ คิดว่าจำเป็นต้องทำต่อหรือไม่ ประชาชนอยากให้ทำต่อหรือไม่ อยู่ที่ประชาชน ไม่ได้อยู่ที่ตน และดูนโยบายพรรคใครเป็นอย่างไร จากนั้นตัดสินใจเลือกก็จบ
อุ้มนาฬิกาหรู “บิ๊กป้อม” เรื่องเล็กน้อย
เมื่อถามถึงองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ลดคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (ซีพีไอ) ปี 2018 ของไทย พล.อ.ประยุทธ์ ว่าต้องมาดูว่าอันดับตกเพราะอะไร สิ่งหนึ่งที่เขามองอยู่คือการเป็นรัฐบาลแบบนี้จะตรวจสอบได้หรือตรวจสอบไม่ได้ แต่ตนเห็นว่าตรวจสอบได้ทุกองค์กร เมื่อผลตรวจสอบออกมาอย่างไรต้องยอมรับกันบ้าง ถ้าไม่ยอมรับกันเลย คนตรวจสอบก็ทำงานไม่ได้ ตนไม่ได้ทำประโยชน์อะไรของตัวเองสักอย่าง อย่างน้อยคะแนนตนก็เต็มตรงนี้ ให้คะแนนตนไหมล่ะ เมื่อถามว่าส่วนหนึ่งที่อันดับของไทยตกลงผลมาจากกรณีนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม นายกฯตอบว่า “โอ๊ย เรื่องเล็กๆน้อยๆ เขาตัดสินหรือยัง เมื่อตัดสินแล้วก็จบ ให้จบๆไปเป็นเรื่องๆบ้างแล้วคดีใหญ่ๆบางคดีก็จบไม่ใช่หรือ ทั้งที่ขัดแย้งต่อสายตาประชาชน ก็จบใช่หรือไม่ ของไอ้คนหนีคดีหลายเรื่องก็จบ ทำไมไม่ดูตรงนู้น เชื่อมั่นกันหน่อยสิ”
1 ก.พ. พปชร.ยกขบวนทาบ “บิ๊กตู่”
เมื่อเวลา 11.00 น. ที่พรรคพลังประชารัฐ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคได้ประสานทีมงานนายกฯเรียบร้อยแล้วว่าหลังประชุมคณะกรรมการบริหารพรรควันที่ 1 ก.พ. จะนำคณะผู้บริหารพรรค 4-5 คนไปเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ที่ทำเนียบรัฐบาลเวลา 16.30 น. เพื่อเชิญให้มาอยู่ในบัญชีนายกฯลำดับที่ 1 พร้อมนำเอกสารนโยบายไปมอบให้ประกอบการตัดสินใจ ส่วนนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ พรรคยังไม่ได้ติดต่อเป็นทางการ เนื่องจากติดภารกิจอยู่ต่างประเทศกลับมาแล้วจะประสานไป ยังตอบไม่ได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์จะตอบรับเมื่อใด หวังว่าท่านจะตอบรับคำเชิญ ยังมีเวลาวันที่ 4-8 ก.พ. เพื่อยื่นชื่อต่อ กกต. ตนเป็น 1 ในรายชื่อจะเสนอเป็นนายกฯยังไม่ได้ตัดสินใจ ไม่ใช่ต้องรอ พล.อ.ประยุทธ์และนายสมคิดตัดสินใจก่อน ส่วนที่มีการหาเสียงให้เลือกพรรคทหารกับฝั่งประชาธิปไตย เป็นเหมือนวาทกรรมทางการเมืองป้ายสี บางคนพูดเรื่องประชาธิปไตยเป็นประชาธิปไตยแบบไหน แต่พรรคไม่ได้เจาะจงว่าต้องเป็นแบบไหน แต่ต้องเป็นประชาธิปไตยของคนไทย
เปิดห้องสีม่วงให้สื่อตีข่าวขันหมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลได้เตรียมห้องม่วง ตึกไทยคู่ฟ้าไว้รอต้อนรับ พร้อมเปิดให้สื่อมวลชนเข้าทำข่าวได้ ก่อนหน้านั้นเวลา 09.30 น. นายกฯจะแถลงผลการดำเนินงานปีที่ 4 ของรัฐบาล โดยนายกฯจะเป็นผู้แถลงเพียงคนเดียว ไม่มีการตอบคำถามสื่อมวลชน
“สมคิด” ยักท่ากลับจากญี่ปุ่นว่ากัน
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 16.30 น. ที่ประเทศญี่ปุ่น (ตามเวลาท้องถิ่นเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ เปิดเผยว่า ยังไม่ได้รับการติดต่ออย่างเป็นทางการใดๆ กลับไปค่อยว่ากัน หวังเป็นอย่างยิ่งว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะตอบรับตามที่เห็นสมควร เคยประกาศไว้แล้วว่าประเทศไทยเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านสำคัญ พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้นำเหมาะที่สุด ส่วน 4 อดีตรัฐมนตรีที่ออกไปตั้งพรรค ต้องให้กำลังใจเขา มีความรู้ มีการศึกษาดี เมื่อกล้าเสียสละไปทำให้การเมืองดีขึ้น ควรอย่างยิ่งต้องสนับสนุน การลาออกของทั้ง 4 คนถือเป็นตัวอย่างที่ดี
“สมศักดิ์” หวั่นแรงบีบลามถึง “สมคิด”
ที่ จ.พิษณุโลก นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคพลังประชารัฐไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ ได้บุคลากรสำคัญต่อยอดนโยบายได้ทันที พล.อ.ประยุทธ์ลาออกไม่ได้ เพราะมาในฐานะแคนดิเดตนายกฯ คงไม่ได้ออกมาช่วยหาเสียง ไม่จำเป็นต้องลาออก ที่ผ่านมาไม่มีประเพณีปฏิบัติที่ไหน ฝ่ายตรงข้ามวิจารณ์แนวเลือกข้างขอให้นำประเด็นอื่นมาพูดบ้าง เดี๋ยวลามไปถึงนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯอีก การเชิญ พล.อ.ประยุทธ์มาเพราะมีผลงาน ต้องการนำนโยบายมาต่อยอด และที่ พล.อ.ประยุทธ์มาร่วมถือเป็นการประกันความมั่นคง และเป็นสายกลางไม่มีแบ่งสี
“สุวิทย์” ห้าวจะถอดเสาไฟฟ้าภาคใต้
ที่โรงแรมบุรีศรีภู อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พรรคพลังประชารัฐ เปิดตัว 50 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐทั้ง 50 เขต 14 จังหวัดภาคใต้ มีนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐและผู้บริหารพรรคเข้าร่วม นายสุวิทย์เปิดเผยว่าพรรคต้องการเสียงในภาคใต้ 2 ล้านเสียงจากกว่า 5 ล้าน 3 แสนเสียง เป้าหมายเปลี่ยนแปลงภาคใต้ให้เป็น 26 ปีแห่งความหลังที่ขาดโอกาสมาตลอด จะถอดเสาไฟฟ้าออกทั้งหมด ภาคใต้ครั้งนี้รับรองมีหนาว ส่วนบัญชีนายกฯของพรรคพลังประชารัฐชัดเจนแล้วมี 3 คน คือ พล.อ.ประยุทธ์ นายอุตตม และนายสมคิด จะชัดเจนในวันที่ 8 ก.พ. พรรคประชาธิปัตย์อ้างว่าก๊อบปี้นโยบายบัตรคนจนนี่คือนโยบายของรัฐบาลลุงตู่ที่ทำได้จริง ตรงเป้ากลุ่มเป้าหมาย ไม่ใช่การหาเสียง ไม่ได้พูดอย่างทำอย่างเหมือนบางพรรค ขอให้หาเสียงสร้างสรรค์ นี่คือเหตุผลที่พรรคพลังประชารัฐต้องการก้าวข้ามความขัดแย้งจากการเมืองเดิมๆ
สรุปชงชื่อ “เจ๊หน่อย–ชัชชาติ–ชัยเกษม”
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย และประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค พิจารณารายชื่อบุคคลที่พรรคจะเสนอเป็นนายกฯ จากนั้นเวลา 17.30 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า มติกรรมการบริหารพรรคอนุมัติผู้สมัคร ส.ส. 250 เขต ภาคเหนือ 51 เขต อีสาน 112 เขต กลาง 55 เขต ใต้ 10 เขต กทม. 22 เขต เชื่อว่าจะชนะทั้ง 250 เขต ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคส่ง 100 คน พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรค เป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่หนึ่ง ขอให้เลือกให้ได้เขตละเกิน 7 หมื่นคะแนน พรรคจะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเพิ่มขึ้น
นายภูมิธรรมกล่าวอีกว่า ส่วนแคนดิเดตนายกฯ ได้ประชุมตัวแทนจังหวัด หัวหน้าทั้ง 4 สาขา ฟังความเห็นสมาชิกผ่านเว็บไซต์ มีเสนอมา 5 รายชื่อคือคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง นายชัยเกษม นิติสิริ และ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ซึ่งถอนตัวไป กรรมการบริหารพรรคมีมติส่ง 3 รายชื่อคือคุณหญิงสุดารัตน์ นายชัชชาติ และนายชัยเกษม โดยไม่จัดลำดับทั้ง 3 ชื่อ ไม่ว่าใครเป็นแคนดิเดตนายกฯ ร่วมมือกันทำงานได้ และทั้ง 3 คน จะอยู่ในบัญชีรายชื่อ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อทั้งหมด
ปชป.หยัน 4 กุมารออกไม่ได้มีสปิริต
นายธนา ชีรวินิจ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า 4 อดีตรัฐมนตรีลาออกก่อนรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.เพียง 4 วัน เชื่อว่าไม่ได้ลาออกด้วยสปิริตการเมือง แต่กลัวทำให้พรรคพลังประชารัฐมีปัญหา อาจถูก กกต.ดำเนินการทางกฎหมายได้ใช่หรือไม่ อยากถามนายอุตตม สาวนายน ว่า 4 ปีที่รัฐบาลนี้บริหารราชการแผ่นดิน เป็นรัฐบาลที่มีอำนาจพิเศษสูงสุด มาตรา 44 แต่กลับไม่สามารถนำพาประเทศให้ก้าวไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน มีปัญหาเศรษฐกิจ คนจนเพิ่มมากขึ้นทั้งประเทศ คนเดือดร้อนถ้วนหน้า ออกกฎกติกาเอื้อให้แม่น้ำห้าสายกับพรรคตัวเองทำลายการปกครองระบอบประชาธิปไตย ให้มี 250 ส.ว.แต่งตั้งเอาเปรียบการเมือง เพื่อสืบทอดอำนาจหลังเลือกตั้ง ห้ามพรรคอื่นทำกิจกรรมทางการเมือง แต่พวกตัวเองทำได้
“ธนาธร” ท้าชน “บิ๊กตู่” ขึ้นเวทีดีเบต
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ชัดเจนแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นแคนดิเดตนายกฯเบอร์ 1 ของพรรคพลังประชารัฐ เหลืออีก 50 กว่าวันก่อนถึงเลือกตั้ง ในฐานะตัวแทนแคนดิเดตนายกฯฝั่งประชาธิปไตย อยากดีเบตกับ พล.อ.ประยุทธ์ฝั่งเผด็จการ ให้ประชาชนตัดสินใจว่าต้องการอนาคตแบบไหน วันนี้ศักดิ์และศรีเราเท่ากันแล้ว มาดีเบตวิสัยทัศน์บริหารประเทศ องค์กรใดจัดให้ได้พร้อมไป
ชพน.ชู “9 หน้า 9 ไกล ไทยไร้ปัญหา”
เมื่อเวลา 09.00 น. ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ พรรคชาติพัฒนา จัดการประชุมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศ แถลงร่างนโยบายพรรคและปฐมนิเทศว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. โดยมีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรค นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรคและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ร่วมงาน ทั้งนี้ นายสุวัจน์แถลงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 279 คน และนโยบายของพรรคว่า นโยบายระดับประเทศของพรรคคือ “9 หน้า 9 ไกล ไทยไร้ปัญหา” คือ 1.นโยบายด้านการศึกษา จัดหลักสูตรให้ทันสมัย 2.เศรษฐกิจรากหญ้า แก้ปัญหาเกษตรกร ตั้งกองทุนสวัสดิการและเพิ่มเทคโนโลยีที่ทันสมัย สนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางให้เข้มแข็ง จัดตั้งกองทุนพัฒนาท่องเที่ยวประจำตำบล 3.ด้านสังคมตั้งโครงการบ้านเกษียณสำราญเพื่อผู้สูงอายุ ปรับปรุงบ้านพักคนชรา เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุเป็น 2,000 บาท ให้ทุนรับน้องใหม่เด็กแรกเกิด เพิ่มช่วยเหลือคนพิการและช่วยเหลือผู้ใช้แรงงาน 4.โครงสร้างพื้นฐานพัฒนาเศรษฐกิจ พัฒนาเส้นทางคมนาคมทั้งภายในประเทศและเชื่อมโยงเพื่อนบ้าน
ดันสุดตัวท่องเที่ยวและกีฬา
นายสุวัจน์กล่าวอีกว่า 5.ด้านอุตสาหกรรม พลังงานและสิ่งแวดล้อม ลดมลภาวะเน้นการใช้พลังงานทดแทนที่สะอาด 6.ด้านท่องเที่ยว ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ส่งเสริมเอกชนสร้างแหล่งท่องเที่ยวคล้ายดิสนีย์แลนด์ ผลักดันโครงการไทยแลนด์ริเวียร่า พัฒนาชายฝั่งอ่าวไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ควบคู่ฝั่งอันดามัน 7.ด้านเศรษฐกิจดิจิทัล พัฒนา การขายของออนไลน์ ระบบโมบายแบงกิ้ง 8.กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ปรับค่าตอบแทนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และ 9.นโยบายกีฬา สร้างมินิสปอร์ตคอมเพล็กซ์ทุกพื้นที่ หาอีเวนต์ใหญ่ๆมาจัดที่ประเทศไทย หลังแถลงนโยบายเสร็จได้เปิดตัวเพลงประจำพรรคเวอร์ชันใหม่ชื่อเพลง “ชาติพัฒนา โนพรอบแบลม” แต่งและขับร้องโดยแอ๊ด คาราบาว
เพื่อชาติจัดเต็มลดเหลื่อมล้ำ-เลิกจน
นายรยุศด์ บุญทัน รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ เปิดเผยว่า วันที่ 1 ก.พ. เวลา 09.00 น. นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ จะแถลงเปิด ตัวผู้สมัครของพรรคระบบเขตเลือกตั้งทั้ง 350 เขต และระบบบัญชีรายชื่อจำนวน 150 คน ที่ห้องอภิวันท์ วิริยะชัย ห้างอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว พร้อมแถลงนโยบายหาเสียงทั้ง 9 ด้าน เพื่อลดความเหลื่อมลํ้าทางสังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน สร้างโอกาสให้คนจน ส่งเสริมเกษตรกรฐานราก สร้างมาตรฐานสาธารณสุขให้คนไทยและใส่ใจชีวิตคนเมือง มีการปาฐกถาพิเศษ “บทเรียนกับการเลือกตั้งของประเทศไทย” โดยนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช.ผู้ช่วยหาเสียงของพรรคเพื่อชาติ
ภท.ห่วงเว็บ กกต.ล่มข้อมูลถูกฉก
พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกพรรคภูมิใจไทยและอดีตรองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า หลังเว็บไซต์ กกต. เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนขอเลือกตั้งล่วงหน้าล่ม กังวลมากที่สุดว่าระบบอาจถูกโจมตีจนระบบทำงานช้าลงจนล่ม ถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูล หรือขโมยข้อมูล เว็บไซต์ กกต.ล่มทำให้เห็นว่าประชาชนตื่นตัวอยากใช้สิทธิเลือกตั้ง จึงไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆประชาชนจะหมดความเชื่อถือ เบื่อหน่ายจนไม่อยากจะลงทะเบียนใช้สิทธิลงทะเบียนล่วงหน้า ที่น่ากลัวที่สุดคือจะส่งผลให้มีผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งน้อยกว่าเป้าที่วางไว้
กกต. กทม. เคาะจุดปิดป้ายหาเสียง
เมื่อเวลา 10.30 น. ที่สำนักงาน กกต. น.ส.วิชชุดา เมฆานุวงศ์ ผอ.สำนักงาน กกต. ประจำ กทม. กล่าวถึงการกำหนดพื้นที่ปิดประกาศแผ่นป้ายหาเสียงในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า วันที่ 31 ม.ค. ลงประกาศใน www.ect.go.th/bangkok และที่สำนักงานเขตทุกเขต ขอให้ผู้สมัครระมัดระวังการจัดทำแผ่นป้ายหาเสียง ต้องมีจำนวนและขนาดตามกฎหมายกำหนด กกต. กทม.จะมีคณะทำงานและผู้ตรวจการเลือกตั้งตระเวนตรวจสอบ หากพบความผิดจะแจ้งให้ปลัด กทม.หรือ ผอ.เขต สั่งให้ผู้สมัครแก้ไขในกำหนดเวลา หากพ้นกำหนดเวลา กกต.จะเข้ารื้อถอน และคิดค่าใช้จ่ายกับผู้สมัคร รวมทั้งส่งเรื่องให้วินิจฉัยไต่สวนชี้ขาดความผิดตามกฎหมายต่อไป
ห้ามราชดำเนิน-ถนนรอบราชวัง
น.ส.วิชชุดากล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่ปิดแผ่นป้ายหาเสียง ให้คำนึงถึงความเหมาะสม ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความสะอาด มีทัศนียภาพ ทัศนวิสัยที่ดีไม่เป็นอันตรายต่อประชาชนและยานพาหนะ ไม่กีดขวางทางสัญจร การจราจร ไม่ติดทับซ้อนแผ่นป้ายหาเสียงผู้สมัครรายอื่น ให้ติดเฉพาะพื้นที่ที่กำหนดคือถนนและซอยเชื่อมต่อถนน ห้ามติดหน้าปากซอย ห้ามติดบนผิวการจราจร บนเกาะกลางถนน สะพานลอย รั้วหรือกำแพง ผนังอาคารของทางราชการ ต้นไม้และเสาไฟฟ้าบริเวณเกาะกลางถนน ศาลาที่พัก ผู้โดยสารและบริเวณโดยรอบในระยะ 10 เมตร ตู้โทรศัพท์ ตู้ไปรษณีย์ อนุสาวรีย์ ป้อมตำรวจ สุขาสาธารณะ สวนหย่อม สวนสาธารณะ วงเวียนทุกวงเวียน ถนนโดยรอบพระบรมมหาราชวัง ถนนโดยรอบพระราชวังสวนจิตรลดา ลานพระบรมรูปทรงม้า ถนนราชดำเนินทั้งสาย
“ทูตวีรชัย” หวังคนไทยใช้สิทธิหลักแสน
นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.สหรัฐอเมริกา ให้สัมภาษณ์สำนักข่าววอยซ์ ออฟ อเมริกา ยืนยันความพร้อมรับลงทะเบียนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรของคนไทยในสหรัฐฯ โดยเปิดให้ลงทะเบียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.khonthai.com/TH หรือ election.bora.dopa.go.th/ectabroad/ ผู้ลงทะเบียนต้องเลือกหน่วยเลือกตั้ง 4 แห่ง คือสถานทูตกรุงวอชิงตัน ดีซี. สถานกงสุลนครลอสแอนเจลิส สถานกงสุลนครชิคาโก และสถานกงสุลนครนิวยอร์ก จากนั้นจะได้รับจดหมายซองบัตรเลือกตั้ง ลงคะแนนนำบัตรใส่ซองที่ส่งกลับที่จะจ่าหน้าสถานที่ส่งกลับไว้เรียบร้อยตามที่ลงทะเบียนไว้ ให้ถึงผู้รับภายในวันที่ 15 มี.ค.
ชง ครม.ออกมติ ขรก.วางตัวเป็นกลาง
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้เชิญ กกต.มาหารือข้อกำหนดการวางตัวของข้าราชการ รัฐมนตรี และนายกฯ ช่วงเลือกตั้ง ส่วน พล.อ.ประยุทธ์หากตอบรับให้เสนอชื่อเป็นนายกฯ ในบัญชีพรรคพลังประชารัฐ ไม่สามารถหาเสียงได้ทั้งในและนอกเวลาราชการ
นายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการ กกต. กล่าวว่า กกต.ได้ขอให้ ครม.ออกเป็นมติเกี่ยวกับการวางตัวของข้าราชการ โดยจะยกร่างขึ้นมาใหม่ เสนอเข้าที่ประชุม ครม. คาดว่าจะเป็นวันที่ 5ก.พ.
“นายกฯตู่” งดโซเชียลช่วงเลือกตั้ง
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า หากนายกฯตอบรับลงบัญชีรายชื่อให้กับพรรคการเมือง การประชุม ครม.สัญจรหรือการลงพื้นที่ตามกฎหมายยังทำได้ แต่ต้องระวังเรื่องการพูดคุยกับประชาชน การให้สัมภาษณ์ต้องไม่ไปกระทบกับการเลือกตั้งหรือพรรคการเมือง รวมถึงรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนก็ทำได้ตามปกติ แต่ทุกอย่างที่ทำก็ต้องหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะให้คุณให้โทษกับพรรคที่เสนอชื่อเป็นนายกฯ เรื่องรูปสามารถขึ้นรูปคู่บนป้ายหาเสียงได้ ขณะที่การใช้โซเชียลมีเดียทั้ง 3 ช่องทางของนายกฯ เพื่อความปลอดภัยอาจจะส่งหนังสือถึง กกต.หยุดใช้ชั่วคราวเพราะไม่สามารถควบคุมผู้ที่มาแสดงความเห็นได้