ข้อเรียกร้องต้องการของข้าราชการบำนาญในเรื่องการใช้สิทธิขอรับบำเหน็จดำรงชีพเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็นกรณีที่มองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แล้ว

เมื่อ กรมบัญชีกลาง ได้เผยแพร่เอกสารข่าวฉบับที่ 25/2542 ประจำวันที่ 25 มกราคม 2562 เมื่อวันศุกร์ที่แล้วในเรื่องกรมบัญชีกลางเร่งเครื่อง ปรับระบบการจ่ายเงินบำเหน็จดํารงชีพ

โดยมีรายละเอียดว่า กรมบัญชีกลางร่างหลักเกณฑ์การขอรับเงินบำเหน็จดํารงชีพ และประสานความร่วมมือกับสถาบันการเงินเพื่อผู้รับบำนาญได้รับความสะดวกในการใช้สิทธิขอรับบำเหน็จดำรงชีพเพิ่ม เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับกฎหมายเกี่ยวกับเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับบำนาญ (ช.ค.บ.) และการจ่ายบำเหน็จดำรงชีพ

ทั้งนี้ เป็นการเปิดเผยของ นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง ถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย เกี่ยวกับเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับบำนาญ (ช.ค.บ.) และการจ่ายบำเหน็จดำรงชีพ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

โดยกรมบัญชีกลางได้ร่างหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการขอรับบำเหน็จดำรงชีพที่ได้ขยายเพดานของวงเงินบำเหน็จดำรงชีพให้แก่ผู้รับบำนาญซึ่งมีอายุตั้งแต่ 70 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป เพิ่มอีก 100,000 บาท จากเดิมที่ให้ขอรับได้ในอัตรา 15 เท่าของบำนาญรายเดือนที่ได้รับ แต่ไม่เกิน 400,000 บาท เป็นให้ขอรับได้ในอัตรา 15 เท่าของบำนาญรายเดือนที่ได้รับ แต่ไม่เกิน 500,000 บาท

ทั้งนี้ ผู้รับบำนาญที่มีสิทธิขอรับบำเหน็จดำรงชีพเพิ่มให้ติดต่อส่วนราชการต้นสังกัดเพื่อกรอกแบบฟอร์มการขอรับเงินและยินยอมให้หักเงินชําระหนี้

จากนั้นกรมบัญชีกลางจะประสานความร่วมมือกับธนาคารทุกแห่ง ขอให้ธนาคารตรวจสอบข้อมูลผู้รับบำนาญที่ได้ยื่นใช้สิทธิบำเหน็จค้ำประกันในการกู้เงินกับสถาบันการเงินว่า ผู้มีสิทธิแต่ละรายที่ยื่นความประสงค์ มียอดเงินกู้คงเหลือจำนวนเท่าใด และส่งข้อมูลกลับมายังกรมบัญชีกลาง เพื่อนำข้อมูลหนี้คงเหลือมาหักกลบลบกันกับบำเหน็จดำรงชีพที่มีสิทธิได้รับ เพื่อชําระหนี้บำเหน็จค้ำประกันคืนให้กับธนาคารก่อน

...

ในกรณียอดหนี้เกินกว่าจำนวนเงินบำเหน็จดำรงชีพที่ได้รับเพิ่ม เงินจำนวนดังกล่าวจะถูกนำมาหักชําระหนี้ที่คงเหลือทั้งหมด

แต่ถ้ายอดหนี้ไม่เกินจำนวนเงินบำเหน็จดำรงชีพที่ได้รับเพิ่ม จะนำเงินดังกล่าวไปชําระหนี้ให้กับธนาคารก่อนแล้วจึงจะได้รับเงินส่วนที่เหลือ

เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้รับบำนาญ กรมบัญชีกลางได้ขอให้ธนาคารเปิดบัญชีให้กับผู้รับบำนาญตามข้อมูลที่กรมส่งให้โดยไม่ต้องไปติดต่อกับธนาคารด้วยตนเอง ในเรื่องของการเปิดบัญชีธนาคาร กรมบัญชีกลางจะหารือกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ดำเนินการผ่อนคลายเงื่อนไขนี้เช่นเดียวกับการเปิดบัญชีให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เคยดำเนินการไปก่อนหน้านี้

อธิบดีกรมบัญชีกลางแจ้งด้วยว่า ในส่วนของผู้รับบำนาญที่ประสงค์ขอรับบำเหน็จดำรงชีพเพิ่ม ขอให้ไปติดต่อส่วนราชการต้นสังกัดของผู้รับบำนาญ และกรอกแบบฟอร์มการขอรับเงินบำเหน็จดำรงชีพ เมื่อตรวจสอบข้อมูลแล้ว กรมบัญชีกลางจะดำเนินการจ่ายเงินดังกล่าวเข้าบัญชีธนาคารโดยตรง

กฎหมายดังกล่าวต้องการช่วยเหลือผู้รับบำนาญ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่มีรายได้คงที่ได้บรรเทาความเดือดร้อนจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น ให้สามารถดำรงชีพอยู่ได้อย่างเหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันและสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ

นี่นับเป็นข่าวดีต้อนรับต้นปีสำหรับผู้ทำงานรับใช้ราชการและประชาชนมาตลอดชีวิต.

“ซี.12”