"อนุทิน" แนะ 6 วิธีแก้หนี้ กยศ.ช่วยเด็ก-เยาวชน 4.5 ล้านคน "พักชำระ 5 ปี-ไร้ดอกเบี้ย-ปลดล็อกผู้ค้ำประกันหลายล้านทั่วประเทศ" หวั่นกระทบความเป็นความตายอนาคตชาติ มั่นใจช่วยรัฐประหยัดงบ 1 พันล้าน หลังเสียค่าจ้างทนายฟ้องร้องลูกหลานติดหนี้เรียนหนังสือ
เมื่อวันที่ 9 ม.ค.62 นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงแนวทางการแก้ปัญหาหนี้กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ว่า หนี้ กยศ.หนี้ของเด็ก แต่เป็นปัญหาใหญ่ของชาติ ไม่แก้ไม่ได้แล้ว ซึ่งเงินของรัฐไม่ว่าจะเท่าไร ที่ใช้ไปเพื่อการเรียนการศึกษาของคนในชาติ ต้องนับเป็นเงินลงทุนเพื่อการพัฒนา การสร้างคน ต้องไม่นับเป็นเงินลงทุนในเชิงธุรกิจ ที่หวังผลตอบแทนหวังผลกำไรได้ และต้องไม่ทำให้ผู้เรียนที่เข้าสู่กระบวนการพัฒนาคนต้องเป็นหนี้ ต้องหนีหนี้เช่นทุกวันนี้
"ได้ติดตามการทำงานของ กยศ.มานาน และได้พูดคุยกับนักเรียน นักศึกษา หลายคน หลายรุ่น ที่เป็นลูกหนี้ กยศ. จนได้ข้อสรุปเป็นแนวทางที่จะนำมาใช้แก้ปัญหาหนี้ กยศ.ที่มีมูลหนี้มากกว่า 4 แสนล้านบาท ผูกพันอนาคตของเยาวชน มากกว่า 4.5 ล้านคน และผู้ค้ำประกันอีกหลายล้านคน ซึ่งหนี้ กยศ.เป็นหนี้ของเด็ก แต่เป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติ ที่จะชี้เป็นชี้ตายอนาคตของประเทศไทยได้ หากเราไม่ช่วยกันแก้ปัญหานี้ให้หมดไปเร็วที่สุด" นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ได้เสนอแนวทางแก้ปัญหาหนี้ กยศ. ดังนี้ 1. ปลดภาระผู้ค้ำประกันทันที ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกันอีกต่อไป ทั้งหนี้เก่าและหนี้ใหม่ 2. ไม่มีดอกเบี้ย กยศ.ไม่ใช่องค์กรธุรกิจ แสวงหากำไร 3. ไม่ต้องมีเบี้ยปรับ กยศ.ต้องช่วยหาทางให้ลูกหลาน มีความสามารถชำระหนี้ ไม่ใช่คิดหาประโยชน์สูงสุดจากลูกหนี้ ต้องมองเขาเป็นลูกหลานที่ต้องให้โอกาส 4. ใช้ภาษีเงินได้ประจำปี มาหักลดยอดหนี้เงินกู้ได้ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ทุกคนเข้าสู่ระบบภาษี และเงินรายได้จากภาษี มีความคุ้มค่ากว่าเงินกู้หลายเท่า 5. เอาคืนแค่เงินต้น กยศ.ไม่ใช่องค์กรแสวงหากำไร และสถาบันการเงิน 6. พักหนี้ 5 ปี สำหรับลูกหลานที่ไม่มีเงินจะชำระจริงๆ เพื่อเป็นการหยุดการดำเนินคดี ไม่ต้องฟ้องร้องบังคับคดี หรือฟ้องยึดทรัพย์ไว้สัก 5 ปี ให้ลูกหลานได้มีเวลาตั้งสติ ตั้งตัว กันอีกครั้ง
...
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า พักหนี้ 5 ปี กยศ.ไม่ต้องฟ้องคดี 5 ปี จะประหยัดงบประมาณไปปีละ 1,000 ล้านบาท ที่ผ่านมา กยศ.ฟ้องคดีปีละ 100,000 คดี จ้างทนายฟ้องคดีละ 10,000 บาท เราจึงสามารถเอาเงิน 1,000 ล้านบาท ไปทำอย่างอื่นที่มีประโยชน์มากกว่าจ้างทนายฟ้องลูกหลานได้มากมาย