"อภิสิทธิ์" ชี้ กำหนดวันเลือกตั้งอยู่ที่ กกต. ของานพระราชพิธีสมพระเกียรติ ย้ำต้องมี พ.ร.ฎ.เลือกตั้งออกมาก่อนค่อยกำหนดวัน โวจัดทัพลงสนามเสร็จแล้วกว่า 90% ห่วงทุนหาเสียงพรรคน้อย เหตุมีค่าใช้จ่ายโซเชียล พร้อมกำชับลูกพรรคให้ความช่วยเหลือชาวบ้านรับมือ "ปาบึก"
เมื่อวันที่ 4 ม.ค.62 ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงห้วงเวลาที่เหมาะสม หากจะมีการเลื่อนวันเลือกตั้ง หลังจาก นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เข้าหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยมีข้อสรุปว่า จะให้เกิดขึ้นก่อนงานพระราชพิธีฯ ว่า สิ่งที่ทุกคนต้องการคือการมีพระราชพิธีที่สมพระเกียรติ โดยให้มีบรรยากาศที่ดีและราบรื่น ซึ่งบรรยากาศในช่วงเดือน เม.ย. และ พ.ค. ต้องจบเรื่องการเลือกตั้งไปแล้ว เพื่อไม่ให้มีประเด็นเรื่องการหาเสียง หรือป้ายหาเสียงติดเต็มถนน ส่วนการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อใดนั้น ต้องรอให้พระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งประกาศบังคับใช้ก่อน จากนั้นแล้วก็จะกำหนดวันเลือกตั้งภายใน 60 วัน ซึ่งตนไม่สามารถตอบได้ว่าสิ่งที่นายวิษณุพูดว่าอยากให้เป็นวันนั้นวันนี้ เป็นความเห็นของรัฐบาลหรือของนายวิษณุ ทั้งที่ข้อเท็จจริงมันต้องเป็นไปตามกฎหมาย แต่ถ้าสมมติว่ามีพระราชกฤษฎีกาบังคับใช้สัปดาห์นี้ ก็ต้องเลือกใน 60 วัน ไม่สามารถไปเลือกตามวันที่นายวิษณุพูดก็ได้ ซึ่งตรงนี้เป็นขั้นตอนที่อยู่ในระหว่างที่ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัย ทุกคนก็ควรจะรอพระราชกฤษฎีกาประกาศให้มีการเลือกตั้งก่อน และจากนั้น กกต.ต้องพิจารณาว่าจะกำหนดวันเลือกตั้งอย่างไร หรือวันที่เท่าไหร่
เมื่อถามว่า ที่มีการตั้งวันเลือกตั้งว่า อาจจะเป็นวันที่ 10 มี.ค. หรือ 24 มี.ค.นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สิ่งที่นายวิษณุให้ความเห็นเป็นความกังวลกระบวนการหลังการเลือกตั้งมากกว่า ไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง แต่กระบวนการหลังการเลือกตั้ง กกต.ต้องพิจารณา สมมติว่าถ้าเลือกตั้ง 24 ก.พ.เหมือนเดิม คาดว่าจะสามารถรับรอง ส.ส.ได้ภายในกี่วัน เมื่อรับรองผลการเลือกตั้งเสร็จต้องเรียกประชุมสภาภายใน 15 วัน หลังจากนั้นสภาจะนัดเลือกนายกรัฐมนตรีหรือจะตั้งรัฐบาล ก็สามารถดูได้ว่าจะใช้เวลาภายในกี่วัน ซึ่งมีหลายทางเลือก และจังหวะเวลาที่เลือกต่างกันแค่ 15 วัน เพราะถ้าพระราชกฤษฎีกาลงมาวันไหน จะไปเลือกภายใน 45 วันก็ไม่ได้ ต้องพ้น 45 วันไปก่อน แล้วก็ต้องไม่เกิน 60 วัน ขณะนี้จึงต้องรอพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ซึ่งรัฐบาลเป็นผู้ทูลเกล้าฯ ถวายพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งไปแล้วตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ธ.ค.61
...
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการจัดสรรตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งในนามพรรค ว่า ในรอบที่แล้วอนุมัติไป 340 เขต ก็จะเหลือประมาณ 10 เขตเลือกตั้ง คาดว่าจะเสร็จภายในวันที่ 6 ม.ค.นี้ จากนั้นก็จะดูเรื่องบัญชีรายชื่อ 150 คน เพราะเดิมมีอยู่แล้ว 128 คน ส่วนการจัดโปรแกรมปราศรัยหาเสียง ต้องรอดูจังหวะเวลาที่เหมาะสม ขณะเดียวกันก็กำลังรอระเบียบเรื่องการจัดทำป้ายและติดป้ายหาเสียง เพราะยังไม่ประกาศราชกิจจานุเบกษา แต่ค่าใช้จ่าย 35 ล้านบาท สำหรับการทำรณรงค์ทั่วประเทศมีข้อจำกัดมาก เพราะมีค่าใช้จ่ายในส่วนของโซเชียลและต้องนำงบประมาณส่วนนั้นมารวมกับการทำป้ายด้วย ซึ่งก็เป็นเรื่องที่พรรคกังวลอยู่ เพราะเดิมที่มีการประชุมพรรคการเมืองตกลงกันอยู่ที่ 70 ล้าน
นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ ที่จะได้รับผลกระทบจากพายุปาบึก เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ที่พรรคประชาธิปัตย์มีอดีต ส.ส.อยู่ และอาจถูกมองว่าเป็นการหาเสียงว่า คงไม่มีปัญหาเรื่องการถูกมองว่าเป็นการไปหาเสียง เพราะตัวเองได้กำชับอดีต ส.ส.และว่าที่ผู้สมัครให้ช่วยติดตามประชาสัมพันธ์และประสานงานข้อมูล และช่วยประสารกับส่วนราชการก่อนเข้าช่วยเหลือประชาชนแล้ว อีกทั้งทางพรรคก็ได้ช่วยประชาสัมพันธ์เรื่องหมายเลขโทรศัพท์ที่จะเป็นประโยชน์กับประชาชน แต่ก็เป็นห่วงอยู่บ้าง เพราะการเข้าไปให้ความช่วยเหลือยังมีน้อย เพราะคนส่วนใหญ่ยังมองว่าไม่มีอะไร ยังไม่เกิดเหตุ ดังนั้นอยากให้ประชาชนติดตามข่าวสารและทำตามคำแนะนำของราชการ ทั้งนี้ตนได้รับรายงานที่ จ.สงขลา ว่า มีบางพื้นที่คลื่นลมแรงและน้ำท่วมบางจุด แต่ความสูญเสียชีวิตยังไม่มี ส่วนหลังเหตุการณ์ผ่านไปแล้วในนามมูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ก็จะเข้าไปให้ความช่วยเหลือตามปกติ.