สวัสดีปีใหม่ครับ...

สุข สงบในที่ตั้งเพราะในห้วงรอยต่อระหว่างปีไม่ได้เดินทางไปไหนเท่ากับชีวิตอยู่กับตัวเองจึงต่างกับอีกหลายชีวิตที่โลดแล่นไปตามวิถีทาง

จะว่าเหงาก็คงพูดอย่างนั้นได้ แต่อีกด้านหนึ่งในความเหงาก็ได้โอสถทิพย์ทางปัญญาเมื่อมองย้อนกลับไปและก้าวไปสู่
อีกปีถัดไป

อย่างน้อยก็รับรู้ได้ว่า “นาฬิกาหรู” ที่ดูเหมือนจะจบแต่ก็ยังไม่จบก้าวข้ามเวลา ตามหลอกหลอนต่อไปแบบที่ว่าสุดท้ายแล้วจุดจบจะลงเอยอย่างไร

นี่ก็เป็นอีกทุกข์หนึ่งของ “พระเอก” ในท้องเรื่อง

มีแง่มุมหนึ่งหาใช่การเมืองแต่เป็นเรื่องของชีวิตผู้คนที่จะต้องเตรียมพร้อมให้กับโชคชะตาที่มากับความเปลี่ยนแปลงที่เป็นอนิจจัง

ไม่ต่างกับลิขิตชะตาคน

เมื่อมีการทำนายทายทักเพื่อเตือนให้รับรู้กันล่วงหน้าให้ระมัดระวัง “ภัยธรรมชาติ” ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้

ปีที่แล้วอิทธิฤทธิ์จากธรรมชาติหลายประเทศล้วนประสบกับความหฤโหดไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น อินโดนีเซีย ที่พบกับความ
ยากลำบากทั้งแผ่นดินไหว พายุมรสุม สึนามิ เป็นต้น

เมื่อโลกเปลี่ยนแปลงที่มองอย่างวิทยาศาสตร์เมื่อธรรมชาติถูกมนุษย์ย่ำยีจนเกิดผลต่อความหายนะเสียหายจนยากเกินกว่าจะแก้ไข นอกจากความพร้อมต่อการรับมือด้วยความไม่ประมาท

มีความรู้สึกดีอยู่อย่างหนึ่งที่ทำให้เห็นคุณค่าของการพยากรณ์อากาศด้วยความก้าวหน้าในด้านวิทยาการ

“กรมอุตุนิยมวิทยา” เจ้าภาพใหญ่ได้มีการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีและความรอบรู้ของผู้คนที่รับผิดชอบอย่างน่าชื่นชม

ทำให้รู้สึกโล่งอกขึ้นมาระดับหนึ่ง

ไม่ใช่ “ฟ้าหลัว คลื่นเล็กน้อยถึงปานกลาง” ที่ได้ยินได้ฟังมาเกือบครึ่งชีวิต นั่นแสดงถึงความใส่ใจต่อชีวิตของผู้คน

...

ช่วงก่อนปีใหม่ถึงวันปีใหม่ กรมอุตุนิยมฯพยากรณ์ด้วยเสียงเตือนล่วงหน้าว่าอากาศจะแปรปรวนให้พึงระมัดระวัง เพราะมีความกดอากาศเย็นจากจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมาถึงตอนล่าง

นั่นจะทำให้เกิดพายุ ฝนตก จากนั้นก็ทำให้อากาศเย็นลง 5-6 องศา

ครับ...ผลที่ออกมาเป็นจริงเช่นนั้นอันบ่งบอกได้ว่าความเที่ยงตรงในการพยากรณ์อากาศของไทยแม่นยำสร้างความ
น่าเชื่อถือเท่ากับสามารถเตรียมการป้องกันได้เป็นอย่างดี

เรื่องแบบนี้แหละครับ...ที่รัฐต้องพึงให้การสนับสนุนเครื่องมือเครื่องไม้ อุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งมีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าทันสมัย

สร้างภูมิปัญญาให้เจ้าหน้าที่ได้มีความรู้ทันกับการเปลี่ยนแปลงที่มาจากภัยธรรมชาติซึ่งรุนแรงและอันตรายยิ่ง

การเตรียมความพร้อมสอดส่องดูแลเครื่องเตือนภัยที่ติดตั้งตามจุดต่างๆ จึงจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อรักษาชีวิตผู้คน

ลดความสูญเสียได้อย่างชะงัด

ทุกวันนี้คนไทยประสบชะตากรรมบนท้องถนนเอาแค่ว่าเทศกาลต่างๆ เช่นว่าวันปีใหม่ไทย วันปีใหม่สากลที่สูญเสียชีวิตจำนวนมากจนรับรู้กันว่าไทยเป็นอันดับ 1 ของโลกก็แย่อยู่แล้ว

ผมยังมองไม่เห็นทางว่าเราจะแก้ไขอย่างไร บรรดาพรรคการเมือง นักการเมืองที่เข้ามารับผิดชอบบ้านเมืองจะหาทาง
แก้ไขกันอย่างไรเห็นก็แต่ “วิถีกรรม” ของพวกเขาเหล่านั้น

คุก หนีออกนอกประเทศที่เรียงลำดับกันมาโดยตลอด.

“สายล่อฟ้า”