รองเลขาฯ กกต.เผย บัตรเลือกตั้ง แบบมีโลโก้พรรค อาจยาวถึง 2 ฟุต แนะ พรรคการเมืองตกลงกันเอง ขอใช้เบอร์เดียวทั่วประเทศ ระบุ พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ประกาศภายในวันที่ 4 ม.ค.61 ถึงยืนยันได้ว่า เลือกตั้ง 24 ก.พ. 100 เปอร์เซ็นต์
วันที่ 11 ธ.ค. นายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการเลือกตั้ง หรือ กกต. กล่าวถึงปฏิทินการจัดการเลือกตั้ง ว่า ไทม์ไลน์ทั้งหมดขึ้นอยู่กับประกาศพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรี ในการที่จะประกาศวันที่ 2 มกราคม 2562 ซึ่งเมื่อมีการประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งแล้ว กกต.จะต้องประกาศวันเลือกตั้ง และวันรับสมัครในวันที่ 4 มกราคม 2562 เพื่อให้มีการจัดเลือกตั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 โดยผู้สมัครในจังหวัดต่างๆ สามารถสมัครได้ในสถานที่ที่ ผอ.กกต.จังหวัดกำหนด แต่หากในวันที่ 2 มกราคมนี้ ยังไม่มีการประกาศพระราชกฤษฎีกา ยังสามารถรอได้จนถึง 4 มกราคม ซึ่งเป็นวันสุดท้าย ที่จะทำให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ได้ทัน เพราะ กกต.ต้องมีกระบวนการต่างๆ ให้ดำเนินการ ดังนั้น สิ่งที่จะยืนยันได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ หรือไม่ คือ พระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง จะต้องประกาศภายในวันที่ 4 มกราคมนี้
รองเลขาธิการ กกต. ยังกล่าวถึงรูปแบบของบัตรเลือกตั้งว่า สำนักงานเตรียมเสนอให้คณะกรรมการการเลือกตั้งลงมติเลือกรูปแบบที่สำนักงานเสนอ โดยนอกจากบัตรเลือกตั้งที่มีแต่หมายเลขแล้ว ยังมีรูปแบบที่มีชื่อพรรคและโลโก้พรรคด้วย ซึ่งหากเลือกรูปแบบนี้ จะต้องจัดพิมพ์ทั้งสิ้น 350 แบบ เพื่อใช้กับ 350 เขต โดยจากการหารือกับโรงพิมพ์ที่มีมาตรฐานและคำนึงถึงความปลอดภัย สามารถจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งที่คาดว่าจะพิมพ์ 52-55 ล้านใบ ได้ทันตามกำหนดเวลา ส่วนระบบขนส่ง ที่จะส่งบัตรเลือกตั้งไปยัง 350 เขตนั้น คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาในเรื่องของการขนส่งให้ถูกต้องตามเขต เพราะใช้ระบบติดตามแบบ GPS ซึ่งจะทราบความเคลื่อนไหวและสถานะของบัตรเลือกตั้งที่ส่งออกไปจากส่วนกลาง และหากใช้รูปแบบบัตรเลือกตั้งเช่นนี้ คาดว่าบัตรเลือกตั้งจะมีความยาวประมาณ 2 ฟุต โดย กกต.ประเมินจากจำนวนผู้สมัครที่คิดว่าจะมากที่สุด 60 คนต่อเขต
...
รองเลขาธิการ กกต. ระบุอีกว่า รูปแบบบัตรเลือกตั้งทั้งหมด กกต.ไม่ได้คิดเอง แต่อยู่ในกรอบของกฎหมาย ทั้งนี้ในวันที่ 19 ธันวาคมนี้ ที่ กกต.นัดหารือกับพรรคการเมืองนั้น หากพรรคการเมืองทั้งหมดสามารถตกลงกันได้ว่าจะใช้เบอร์เดียวกันทั้งประเทศก็สามารถทำได้ แต่พรรคที่ส่งครบทุกเขตและส่งสมัครเพียงบางเขตจะต้องไปตกลงกันเอง ซึ่งกรณีที่พรรคส่งไม่ครบทุกเขต จะมีบางเขตที่ช่องลงคะแนนเว้นว่างเอาไว้ ซึ่งจะทำให้ประชาชนเกิดความสับสนได้