นายกฯ อุบตอบซบพรรคไหน แย้มประกาศชัดหลังปลดล็อก เผยยังไม่มีใครทาบทามจริงจัง ลั่นหนุนพรรคเดินหน้าประเทศอย่างมียุทธศาสตร์ เมินหลายพรรคไม่ร่วมวงถก คสช.7 ธ.ค.นี้ แนะพรรคการเมืองยึดกฎกติกา เตรียมพร้อมสู่การเลือกตั้ง
เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.61 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กล่าวถึงความชัดเจนกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ประกาศพร้อมส่งเทียบเชิญลงบัญชีผู้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ ของพรรค ว่า เป็นความชัดเจนของพรรคทำไมตนต้องไปชัดเจนกับเขาด้วย ทำไมอยากจะรู้กันเหลือเกิน ซึ่งทุกพรรคบอกจะเสนอ "ประยุทธ์" ทั้งนั้น แต่ก็ไม่เห็นใครมาเชิญตนเลย ซึ่งหากจะพูดก็พูดไป ตนยังไม่ตัดสินใจ และจะเลือกตั้งพรุ่งนี้กันหรืออย่างไร อยากรู้กันหรือ ก็รู้อยู่แล้วหรือเปล่า ซึ่งแม้อยากรู้ก็ยังไม่ให้รู้ แต่ถ้าไม่อยากรู้ตนก็จะพูดเอง ส่วนเหตุผลที่หลายพรรคถึงสนใจเสนอชื่อตนเองเป็นนายกฯ นั้น ตนก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะไม่อาจพิจารณาตัวเองได้ว่าเก่งหรือไม่เก่ง อีกทั้งจะเลือกตนเพราะอะไรก็ยังไม่รู้เหมือนกัน อาจเห็นว่าบ้านเมืองสงบเรียบร้อยดี คงหวังแค่นั้นหรือไม่ตนก็ไม่รู้ หรืออาจหวังอย่างอื่นด้วย
เมื่อถามว่า รู้สึกดีใจหรือไม่ที่หลายพรรคสนใจ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "เขาเรียกว่าต้องใช้บารมี 10 ประการ ขันติบารมี คือ ไม่ยินดียินร้ายต่อคำชมและคำติฉินนินทาและไม่ได้สนใจ เพราะยึดถือที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ รู้จักไหมบารมี 10 ประการ"
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ในฐานะพรรคพลังประชารัฐ เคยเป็นทีมงานที่ร่วมงานกันมาก่อน จะมีผลต่อการพิจารณาหรือไม่หากมาทาบทาม ว่า เป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณา ซึ่งพรรคใดก็ตามที่ทำงานสอดคล้องกับที่ทำอยู่วันนี้ หากตนตัดสินใจเข้าไปสู่การเมือง ก็ต้องสนับสนุนพรรคเหล่านี้ เพราะทำงานให้ตนทำต่อ แต่จะเป็นนายกฯ หรือไม่นั้น ก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะกลไกไม่ใช่เลือกตนแล้วจะได้เป็น เนื่องจากต้องมีการพิจารณาในสภา ซึ่งจะยอมรับกันหรือไม่ก็ยังไม่รู้เหมือนกัน ส่วนในใจของตนเองนั้น มีธงคือการสนับสนุนพรรคการเมืองที่เดินหน้าประเทศอย่างมียุทธศาสตร์ ดังนั้นพรรคอื่นหากมียุทธศาสตร์ที่อาจดีกว่าพลังประชารัฐก็ให้เสนอมา ไม่ใช่เพียงติฉินไปเรื่อยๆ แต่ไม่เคยพูดว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร มีแต่จะบอกให้ราคาสูงขึ้น ให้ยางสูงขึ้นแล้วจะทำอย่างไร แต่ตนพูดทุกอย่างว่าจะทำอย่างไร ดังนั้นต้องพูดกันด้วยว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้ประชาชนเปรียบเทียบ ถ้าพูดไม่ได้ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
...
เมื่อถามว่า นายกฯ สงสารประชาชนหรือไม่ ที่อยากฟังความชัดเจนอยู่ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "สงสารเพราะเขารอฟังเหรอ ก็ฟังคนอื่นเขาก่อนแล้วค่อยมาฟังผม ผมให้เวลาคุณฟังคนอื่น เดี๋ยวหาว่าผมปิดกั้นอีก เปิดดูสิทุกพรรคพูดกันโครมๆ ทุกวัน เดินสายทุกวัน ปลดล็อกแล้วยัง และส่วนตัวจะไม่มีการทำโพลสำรวจความเห็นประชาชน เพราะเชื่อว่าประชาชนเป็นคนแสดงออกมาอยู่แล้ว และประชาชนจะยอมรับหรือไม่ยอมรับใครก็ว่ากันมา วันนี้กระแสโพลก็ออกมาอยู่แล้วจะเลือกพรรคไหน หรือเลือกคนคุ้นเคย เลือกตัวบุคคลไม่เลือกพรรคหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ต้องสร้างการรับรู้สิ่งเหล่านี้ว่า ประชาชนจะได้อะไรและดีกว่าอย่างไร"
เมื่อถามว่า นายกฯ จะให้เวลาตัวเองจนถึงเมื่อไหร่ ถึงสามารถให้คำตอบและความชัดเจนกับประชาชนได้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ปลดล็อกเมื่อไหร่ก็ว่ากันตอนนั้น เพราะเมื่อมีการปลดล็อกทุกคนก็จะพูดได้เต็มปากเต็มคำ ตนก็จะฟังว่าพรรคนี้เสนออะไรมา มีประโยชน์ตรงไหน ถ้าเสนอเหมือนหาเสียงครั้งก่อนๆ มา เช่น จะทำให้ราคายางสูงขึ้น 3-4 เท่า ถามว่าทำได้หรือไม่ จึงต้องเรียนรู้เรื่องเหล่านี้
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ปฏิเสธเข้าร่วมพูดคุยในวันที่ 7 ธ.ค.นี้. ว่า ใครจะไม่มาก็แล้วแต่ แต่ตนคิดว่าการจะทำงานเพื่อชาติและประชาชนต้องเอากติกาต่างๆ มา ไม่ใช่สู้กับกติกา เหมือนนักมวยจะขึ้นชกก็ต้องฟังกติกา ซึ่งกติกาวันนี้มีความแตกต่างจากแต่ก่อนอยู่บ้าง เหมือนกติกามวย กติกากอล์ฟ หรือกติกาอื่นๆ ที่เปลี่ยนไปหมด เพราะหลายอย่างไม่เคยทำได้ก็ทำได้ หรือหลายอย่างเคยทำไม่ได้ก็ทำได้ แต่ไม่เคยมีใครไฟต์กันเรื่องนี้ ดังนั้นจึงควรเตรียมตัวเองให้พร้อมเข้ามาสู่การเลือกตั้ง เพื่อให้ประชาชนตัดสินจะดีกว่า อย่าเพิ่งมาอะไรกันเลย เพราะทำให้เสียเวลาและประเทศชาติก็เดินหน้าลำบาก