"ประชาธิปัตย์" ชี้วงถก คสช.ให้พรรคการเมืองร่วม แค่ไม้ประดับ ท้วงสถานะ "บิ๊กตู่" ผลประโยชน์ทับซ้อน อาจไม่ร่วมวงพูดคุย ปัดข่าว คสช.ทาบ ปชป.ผ่าน "เฉลิมชัย" ร่วมรัฐบาล
เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.61 นายธนา ชีรวินิจ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณี กกต.มีหนังสือเชิญพรรคประชาธิปัตย์ ลงวันที่ 30 พ.ย.61 ให้เข้าร่วมการประชุมชี้แจงแผนและขั้นตอนการดำเนินการทางการเมือง เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งทั่วไป โดยอ้างว่า คสช.แจ้งกำหนดการจัดการประชุมดังกล่าว และเชิญผู้เข้าร่วมประชุม ในวันที่ 7 ธ.ค.นี้ ที่สโมสรกองทัพบก พรรคเห็นว่าคำเชิญนี้ไม่ได้เชิญไปให้ร่วมหารือ เพื่อจัดทำแผนหรือขั้นตอนดำเนินการสู่การเลือกตั้ง แต่เป็นกรณีที่ คสช. กกต.และ สนช.ได้จัดทำแผนและขั้นตอนดำเนินการทางการเมืองสู่การเลือกตั้งแล้ว เพียงแต่เชิญพรรคการเมืองไปเป็นไม้ประดับเพื่อร่วมฟังด้วยเท่านั้น การหารือครั้งนี้ จึงไม่เป็นไปตามข้อ 8 ของคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 53/60 นอกจากนี้ มีบางพรรคการเมืองใช้ชื่อนโยบายรัฐบาลเป็นชื่อพรรคการเมือง โดยประชาชนเข้าใจว่าเป็นพรรคการเมืองที่รัฐบาลอยู่เบื้องหลัง ซ้ำยังมีการกล่าวอ้างถึงนโยบายที่จะทำต่อ โดยที่รัฐบาลไม่ปฏิเสธความเกี่ยวข้อง อีกทั้งมีการใช้คำสั่งหัวหน้า คสช.หลายครั้งที่พรรคการเมืองมีความหวาดระแวงว่า เป็นการแทรกแซงการเลือกตั้ง ลดทอนความน่าเชื่อถือของ กกต. และมีพฤติกรรมหลายเรื่องแสดงว่า คสช.กำลังเปลี่ยนสถานะเป็นพรรคการเมือง เพื่อสืบทอดอำนาจหลังการเลือกตั้งปีหน้า ยิ่งเห็นชัดว่าการเข้ามาของ คสช.ไม่ได้ยุติความขัดแย้งที่เกิดขึ้น หรือแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน ตามที่ให้คำมั่นกับประชาชนว่า จะนำประเทศออกจากความขัดแย้ง เพราะ คสช.ก็เป็นหนึ่งในพรรคการเมืองที่ลงสนามเลือกตั้ง 24 ก.พ.62 ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีหลายสถานะ คือ 1. เป็นหัวหน้า คสช. 2. เป็นนายกฯ และ 3. เป็นว่าที่ผู้ที่จะถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ด้วย
...
"จากเหตุผลทั้งหมด จึงขอตั้งคำถามไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ ว่า หากท่านจะเป็นผู้สมัครในฐานะนายกบัญชีพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประยุทธ์ จะมีผลประโยชน์ขัดแย้งกันในฐานะ คสช. รัฐบาล และผู้ที่จะเข้าสู่การเลือกตั้งวันที่ 24 ก.พ. 62 มีความเหมาะสมหรือไม่ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะนั่งเป็นประธานการประชุมวันที่ 7 ธ.ค.นี้ ซึ่งหาก พล.อ.ประยุทธ์ ยังนั่งเป็นประธานต่อไป พรรคจะไม่เข้าร่วมประชุม เพราะเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเลือกตั้งและมีผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะการจัดการเลือกตั้งเป็นหน้าที่ กกต. ไม่ใช่เรื่องของ คสช.และรัฐบาล ดังนั้น คสช.ต้องถอยห่างจากกระบวนการจัดการเลือกตั้งให้มากที่สุด จึงขอให้ชี้แจงสังคมก่อน พรรคจะพิจารณาว่าจะเข้าร่วมหรือไม่ ส่วนที่นายกฯ ระบุว่า คนที่ไม่เข้าร่วมประชุมวันที่ 7 ธ.ค. เป็นพวกไม่อยากเลือกตั้งนั้น ก็แล้วแต่จะมอง แต่พรรคยืนยันว่าเราพร้อมเลือกตั้ง แต่การประชุมครั้งนี้ไม่เป็นไปตามข้อ 8 และสถานะ พล.อ.ประยุทธ์ ในอดีตกับปัจจุบัน ต่างกันเพราะมีผลประโยชน์ทับซ้อน ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้พรรคไม่เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ แต่ยังรอคำตอบว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะถอนตัวจากการเป็นประธานที่ประชุมหรือไม่ หากถอนตัวพรรคก็จะนำมาพิจารณาอีกครั้ง"
เมื่อถามว่า มีการทาบทาม นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตเลขาธิการพรรคให้ร่วมรัฐบาลกับ คสช.โดยเสนอกระทรวงเกรดเอให้ นายธนา กล่าวว่า ไม่เป็นจริง และตั้งข้อสงสัยว่าเป็นความพยายามที่จะดิสเครดิตพรรค เพราะในการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยืนยันชัดเจนว่าการเป็นรัฐบาลหลังเลือกตั้ง จะไม่มีการพิจารณาต่อรองเรื่องตำแหน่งการเมือง แต่จะพูดถึงนโยบายที่จะทำให้ประชาชนและประเทศชาติได้ประโยชน์สูงสุด ขอให้การเลือกตั้งเสร็จสิ้น แล้วดูว่า ประชาชนให้เจตจำนงในการเลือกตั้งอย่างไร