หน่อยแขวะเอาที่สบายใจ ปชป.ฉะไม่มีสิทธิผรุสวาท พปชร.โต้ไม่เคยชี้นำกกต.
พิษอารมณ์ “ทั่นผู้นำ” ออกฤทธิ์ สองพรรคใหญ่รุมตำหนิ “เจ๊หน่อย” ประชดอยากสืบทอดอำนาจนัก ก็เอาที่สบายใจ เอาให้เต็มที่ อ้อนชาวลำปางกาบัตรวัดใจกันไปเลย เอา-ไม่เอาเผด็จการ “หัวเขียง” กระทุ้งอย่าเจ้าอารมณ์นัก ขู่เข้าสภาฯรอบหน้าเจอ ส.ส.สวนแน่ “วรชัย” ให้ใจเย็นเอาปืนสั่งไม่ได้แล้ว “ชัยเกษม” เหน็บตีหน้ายักษ์ไม่เนียน “ภูมิธรรม” บอกใช้อารมณ์ทำให้เสื่อม ปชป.ดึงสติไม่มีสิทธิผรุสวาทใส่ประชาชน “อิสสระ” ตอกไม่ใช่เรื่องซังกะบ๊วย “นิพิฏฐ์” เชื่อสังคมดูออกภาวะผู้นำ พปชร.โต้ไม่เคยชี้นำ กกต.แบ่งเขต “สนธิรัตน์” ไม่มีเงื่อนไขถกปลดล็อก “จตุพร” ให้รอดูใบเสร็จวัน “ประยุทธ์” เปิดหน้า “เสรีพิศุทธ์” กร้าวไม่คุยเผด็จการอีแอบในคราบ ปชต. โวยทหารลักไก่แจ้งจับ
จากปัญหาการจัดแบ่งเขตเลือกตั้งของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ฝ่ายการเมืองพากันวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จนสร้างความไม่พอใจให้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ถึงกับกล่าวผรุสวาทตอบโต้ด้วยถ้อยคำรุนแรงนั้น
ประชด “บิ๊กตู่” เอาที่สบายใจ
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 1 ธ.ค. ที่สำนักสงฆ์ถ้ำผาบ่อง อ.เกาะคา จ.ลำปาง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ อดีต ส.ส.พะเยา และโฆษกพรรคฯ และคณะ เดินทางมาร่วมงานทำบุญครบรอบ 80 ปี วันคล้ายวันเกิดนางจุไรรัตน์ จันทรสุรินทร์ ภรรยานายพินิจ จันทรสุรินทร์ อดีต ส.ส.ลำปาง พรรคเพื่อไทย ท่ามกลางประชาชนหลายร้อยคนมาร่วมงานคับคั่ง จากนั้นเดินทางต่อไปยังโรงเรียนบ้านสามขา อ.แม่ทะ ร่วมฟังบรรยายและกิจกรรมศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านสามขา และพบปะนักเรียน คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ความพยายามในการสืบทอดอำนาจ เห็นได้ชัดเจนจากการใช้อำนาจเงิน อำนาจรัฐ ใช้มาตรา 44 ให้อำนาจ กกต.แบ่งเขตเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยทราบดีว่าต้องเผชิญกับการใช้อำนาจรัฐ ใช้อำนาจเงินอย่างไร ดังนั้นผู้มีอำนาจรัฐจะทำอะไรเอาที่สบายใจ เอาให้เต็มที่
...
วัดใจกันเอา–ไม่เอาเผด็จการ
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีหน้าที่พิสูจน์ตัวเองกับประชาชน มองการเลือกตั้งครั้งนี้แตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะเป็นการเลือกตั้งด้วยบัตรใบเดียว และนับคะแนนด้วยระบบจัดสรรปันส่วนผสม อาจไม่ได้บุคคลที่ตรงตามเจตนารมณ์ประชาชน แม้จะชนะการเลือกตั้งก็ตาม เมื่อกลไกเกิดความบิดเบือน ประชาชนจึงต้องใช้สติปัญญาในการกาบัตรอย่างมียุทธศาสตร์ ต้องคิดว่าจะเลือกใคร ให้ใครเข้ามาทำงาน เชื่อว่าท้ายที่สุดจะเหลือคนแค่ 2 กลุ่ม คือกลุ่มคนที่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจกับคนที่ไม่สนับสนุน ประชาชนต้องใช้พละกำลังออกไปกาบัตรให้มากที่สุด หากไม่สนับสนุนผู้มีอำนาจชุดปัจจุบัน และไม่มีความสุข ขอให้ตัดสินใจกาบัตรไปเลย
สะพัดลง ส.ส.เขตที่ดอนเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า การจัดวางตัวผู้สมัคร ส.ส. โดยเฉพาะพื้นที่ กทม. พรรคเพื่อไทยจัดวางตัวผู้สมัครที่ส่วนใหญ่เป็นอดีต ส.ส.เจ้าของพื้นที่เดิม ส่วนเขตที่ไม่มี ส.ส.จะเปิดโอกาสให้ผู้สมัครหน้าใหม่ ที่ทำพื้นที่ต่อเนื่องลงในบางเขต ที่น่าสนใจคือเขตดอนเมือง นายการุณ โหสกุล อดีต ส.ส.หลายสมัย เจ้าของพื้นที่เดิม ที่ถูกเพิกถอนสิทธิ เลือกตั้ง ตอนแรกมีกระแสข่าวจะผลักดันนางพิมพ์–ชนา โหสกุล ภรรยา ลงสมัครแทน แต่ล่าสุดเกิดการเปลี่ยนแปลงหลังจากคุณหญิงสุดารัตน์สนใจลงสนามในระบบเขตเลือกตั้งอีกครั้ง เนื่องจากประเมินว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคเพื่อไทยอาจไม่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเลย และเขตดอนเมืองนายการุณทำพื้นที่ไว้ดี ยากที่คู่แข่งจะเจาะได้ รวมทั้งนายการุณถือเป็นคนสนิทคุณหญิงสุดารัตน์ พร้อมสนับสนุนให้คุณหญิงสุดารัตน์ลงเขตดังกล่าว
พท.เตือน “บิ๊กตู่” อย่าเจ้าอารมณ์
นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ กรรมการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวผรุสวาทตอบโต้เสียงวิพากษ์วิจารณ์การแบ่งเขตเลือกตั้งของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ของฝ่ายการเมือง ว่า พล.อ.ประยุทธ์ต้องสุขุมเยือกเย็นมากกว่านี้ หากยังเป็นคนเจ้าอารมณ์แบบนี้ ถ้าได้เป็นนายกฯอีกรอบตามที่ท่านต้องการ จะเจอปัญหาความร่วมมือและการยอมรับ ถ้ายังใช้ภาษาที่ใช้อยู่แบบนี้ ส.ส.ก็จะพูดกับท่านด้วยภาษาเดียวกัน เพราะทุกคนมีสิทธิเท่ากันในสภาฯ ไม่เหมือนปัจจุบันที่ท่านมีอำนาจเหนือคนอื่น ปัญหาความวุ่นวายจะเกิดขึ้นตามมา จึงอยากเตือนให้ พล.อ.ประยุทธ์ทบทวนตัวเอง ถ้าคิดมาเล่นการเมืองต้องปรับเปลี่ยน ที่พูดทั้งหมดนี้ด้วยความเป็นห่วง
ใจเย็นๆ เอาปืนสั่งไม่ได้แล้ว
นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอให้นายกฯ ใจเย็นๆ ตอนนี้ไม่สามารถทำทุกอย่างได้เหมือนก่อน การเลือกตั้งไม่ใช่เอาปืนมาสั่งได้ แต่ต้องเป็นความพร้อมใจของประชาชน การที่ พล.อ.ประยุทธ์คิดว่าการตอบรับให้เดินทางไปเยือนเยอรมนี จะเป็นฮีโร่โกอินเตอร์ แต่พอกลับมามีข่าวว่านายกฯเยอรมนีขอให้ปลดล็อก และจัดเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรม การเจรจาทวิภาคีจะเกิดหลังเลือกตั้งเสร็จ พล.อ.ประยุทธ์จึงไม่ใช่ฮีโร่ แต่ทางเยอรมนีให้ไปคุยเรื่องเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริตยุติธรรม ดังนั้นขอเรียกร้อง คสช. เร่งยกเลิกคำสั่งที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชน ปิดกั้นไม่ให้พรรค การเมืองทำกิจกรรมขับเคลื่อนประชาธิปไตยทุกคำสั่ง การปลดล็อกเป็นขยักทำให้ต่างชาติเห็นว่าไม่มีความจริงใจ และ คสช.ไม่ควรแทรกแซงองค์กรอิสระ ขอให้ กกต.ทำตามหน้าที่อย่าให้คนมีอำนาจเข้ามาแทรกแซงการทำงาน
“ชัยเกษม” เหน็บตีบทไม่เนียน
นายชัยเกษม นิติสิริ อดีต รมว.ยุติธรรม และแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การแบ่งเขตของ กกต.ต้องบอกว่าสุดยอด ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ ที่ทำเป็นโมโหโกรธาไม่รู้เรื่อง ทั้งที่มาจาก คสช.ทั้งสิ้น ข้อสำคัญคือทำไม่เนียน ปล่อยให้เขาทำจนเสร็จ คนรับกติกาก็บื้อตามไปด้วย บ้านเมืองมันแย่ ทำอย่างไรได้ถ้าเราไปคัดค้านเกิดบอกไม่ต้องเลือกตั้งแล้วอยู่ต่อเราจะทำอย่างไร คนเป็นนักการเมืองเขาไม่ได้ทำการเมืองแค่ 1-2 วันก่อนเลือกตั้ง เขาต้องทำมาตลอด ต้องเข้าไปพูดคุยประชาชน แต่คุยประชาชนไว้เขตพื้นที่หนึ่ง พอถึงเวลาให้เขาไปหาเสียงอีกพื้นที่หนึ่ง จะได้เรื่องอะไร เชื่อว่าสิ่งที่เขาทำไม่ใช่ไม่รู้ ล้วนแต่เจตนาทั้งสิ้นและพรรคการเมืองร้องศาลปกครองไม่ได้แล้ว นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ก็เพ้อไปเรื่อย เพราะคำสั่งมาตรา 44 สูงกว่าศาลปกครองอีก จะไปร้องอะไร
ต้องมีสติใช้อารมณ์ทำให้เสื่อม
นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองขณะนี้มีแรงกดดันทั้งจากในประเทศและต่างชาติค่อนข้างมาก การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นคำตอบและเป็นทางออกของประเทศ ดังนั้นอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์อย่าหงุดหงิด เข้าใจว่าคนที่อยู่ในอำนาจนานๆ เมื่อมาถึงจุดที่ต้องเปลี่ยนผ่านอำนาจ จะออกอาการแบบนี้ได้ พล.อ.ประยุทธ์ต้องมีสติ ในฐานะเป็นผู้นำรัฐบาลและหัวหน้า คสช.เป็นธรรมดาที่ต้องถูกถามเรื่องแบ่งเขต เพราะออกคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 16/2561 เอง ท่านคือต้นทางของปัญหาจึงต้องหนักแน่น การโมโหหรือใช้อารมณ์ไม่อาจกลบปัญหา หรือสร้างความเข้าใจให้ประชาชนได้ ต้องใช้เหตุผล การใช้วาจาหรือถ้อยคำที่รุนแรงจะทำให้ตัวท่านเองเสื่อมลง ความเสื่อมเกิดจากตัวเองทั้งสิ้น
เรียกประชุมตั้งตัวแทนจังหวัด
นายภูมิธรรมกล่าวอีกว่า วันที่ 3 ธ.ค. พรรคเตรียมจัดประชุมใหญ่เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจในข้อกฎหมาย และรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำตัวแทนพรรคประจำจังหวัดทั้ง 77 จังหวัด เมื่อได้ครบแล้วจะสามารถส่งผู้สมัครได้ครบทั่วประเทศ ช่วงที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยได้ผ่านวิกฤติดูดมโหฬารมาแล้ว แต่ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพรรคยังมั่นคงแข็งแรง และพร้อมทำงานการเมืองเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง
ส่งลูกน้องขอโทษแทนไม่จริงใจ
ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ถ้า พล.อ.ประยุทธ์รู้สึกสำนึกผิดจริง ที่กล่าวคำหยาบคายและแสดงอารมณ์เกรี้ยวกราด ทำไมไม่ออกมากล่าวขอโทษประชาชนด้วยปากตัวเอง ไม่ใช่ปล่อยให้ลูกน้องออกมาพูดแทน มันดูไม่จริงใจ เรื่องสำคัญแบบนี้ให้คนอื่นออกโรงแทนได้อย่างไร ที่ผ่านมาได้แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายครั้ง และอย่ามาอ้างว่ารัฐบาลไม่เกี่ยวข้องกับการแบ่งเขตของ กกต. เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้า คสช. เป็นคนเซ็นคำสั่งให้อำนาจ กกต.แบ่งเขตเลือกตั้งเอาเองตามใจชอบ นี่คือเหตุผลว่าทำไมชาวบ้านถึงโจมตีรัฐบาลว่าอยู่เบื้องหลังการแบ่งเขตเลือกตั้งเละเทะไม่เป็นธรรม ยกเว้นพรรคที่ได้ประโยชน์ ก็คงเชียร์ สะท้อนพฤติกรรมอยู่แล้วว่าใครเป็นอย่างไร
ปชป.ดึงสติไม่มีสิทธิผรุสวาท
ขณะที่นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่มีสิทธิใช้ประชาชน หรือข้าราชการประจำเป็นที่ระบายอารมณ์ ไม่ว่าจะทำงานหนักแค่ไหน เครียดเรื่องอะไร ไปโกรธใครที่ไหนมา คนเป็นนายกฯมีหน้าที่ต้องแก้ไขปัญหาประเทศ แบกรับปัญหาประชาชน ต่อให้งานหนักมีปัญหามาก ก็ต้องก้มหน้าปฏิบัติและแก้ไขเท่านั้น ถ้าถึงที่สุดจริงๆทำได้อย่างเดียว คือเล่าความจริงเกี่ยวกับการทำงานให้ประชาชนฟัง แต่ไม่มีสิทธิมาใช้คำผรุสวาท ด่ากราด ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ไปทบทวนไตร่ตรองให้ดี ว่าการมีพฤติกรรมแบบนี้ เหมาะสมแล้วหรือที่จะอาสาตัวมาทำหน้าที่นายกฯต่อ ถ้ายังควบคุมอารมณ์ หรือเห็นประชาชนเป็นที่ระบายอารมณ์ คิดว่าไม่เหมาะสมที่จะนั่งในตำแหน่งนี้ หรือหวังเข้ามานั่งในตำแหน่งนี้ต่อไป
“อิสสระ” ตอกไม่ใช่เรื่องซังกะบ๊วย
นายอิสสระ สมชัย รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นการทำหน้าที่ตามธรรมชาติของสื่อมวลชนที่ต้องถามปัญหาที่สาธารณชนหรือสังคมสนใจ นายกฯควรควบคุมอารมณ์ให้มากกว่านี้ เป็นผู้นำอินเตอร์แล้ว การใช้อารมณ์กับคนในประเทศ โดยเฉพาะกับปัญหาเรื่องแบ่งเขตเลือกตั้งที่ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ที่นำไปสู่การเลือก ส.ส.เข้าไปทำหน้าที่เป็นปากเสียง และเป็นคนเลือกนายกฯ จึงไม่ใช่เรื่องซังกะบ๊วยอย่างที่นายกฯเข้าใจ หากนายกฯไม่ทราบเรื่องการแบ่งเขตก็ควรบอกดีๆว่าให้ไปถาม กกต. ส่วนที่นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า นายกฯกล่าวขอโทษประชาชนแล้วนั้น ส่วนตัวเห็นว่ายังไม่พอ ไม่รู้ว่าขอโทษจริงหรือไม่ หากออกมาขอโทษด้วยตัวเองจะสง่างาม เห็นถึงความจริงใจกว่านี้ การฝากขอโทษกันในสังคมโลกไม่มีใครเขาทำ
ยันอีสานส่งลงครบ 116 เขต
นายอิสสระยังกล่าวถึงการแบ่งเขตเลือกตั้งของ กกต. ว่า 20 จังหวัดภาคอีสาน ถูกแบ่งออกเป็น 116 เขตเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์มอบหมายให้นายวิฑูรย์ นามบุตร รองหัวหน้าพรรคภาคอีสาน นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรค คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช กรรมการสรรหาผู้สมัครในนามพรรค และตน ร่วมรับผิดชอบดูแลเขตพื้นที่ภาคอีสาน ขณะนี้วางตัวผู้ลงสมัครครบ 116 เขต ภาคอีสานมีปัญหาไม่มากเหมือนที่ จ.สุโขทัย และกาญจนบุรี เดิมการแบ่งเขตที่ จ.อุบลราชธานีมีปัญหา จะผ่า อ.พิบูลมังสาหาร เป็นสองเขต แต่ประชาชนลงชื่อคัดค้านกว่า 10,000 คน ที่สุด กกต.กลางจึงมีมติแบ่งเขตตามแบบที่ 2 การต่อสู้ในสนามเลือกตั้งควรอยู่ภายใต้กฎกติกาที่เป็นธรรม ไม่ใช่เอื้อให้ผู้สมัครคนใดคนหนึ่ง หรือพรรคใดพรรคหนึ่งเป็นพิเศษ
เชื่อประชาชนดูออกภาวะผู้นำ
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่อยากแสดงความคิดเห็นกรณี พล.อ.ประยุทธ์ปล่อยให้ประชาชนและสังคมดูกันเอง เชื่อว่าชาวบ้านเห็นก็คิดได้เอง ขอเอาเวลาไปคิดนโยบายพรรคและการแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนหลังการเลือกตั้ง ส่วนการที่รัฐบาลคสช.เร่งอัดฉีดเงินชดเชยช่วยเหลือชาวสวนยางพารา และปาล์มน้ำมันช่วงก่อนเลือกตั้งนั้น ขอตั้งข้อสังเกตว่าพรรคประชาธิปัตย์ยื่นเรื่องให้รัฐบาลตั้งแต่ปี 2557 รัฐบาลรับปากแต่ก็ไม่เคยทำ จึงน่าสังเกตว่าทำไมถึงมาอัดฉีดในช่วงนี้ เชื่อว่าประชาชนคงดูออก
ปชป.วางตัว 8 เขตนครศรีฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้วางตัวผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ใน จ.นครศรีธรรมราช ทั้ง 8 เขตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้แก่ นายเทพไท เสนพงศ์ นายวิทยา แก้วภราดัย น.ส.นริศา อดิเทพวรพันธ์ นายประกอบ รัตนพันธ์ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ นายชัยชนะ เดชเดโช นายสุรเชษฐ์ มาศดิตถ์ และ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ทั้งนี้ รายชื่อดังกล่าวต้องส่งให้คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครของพรรคพิจารณาอีกครั้ง
“มาร์ค” สอนมารยาทการเมือง
ต่อมาช่วงค่ำ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ลงไลน์ออฟฟิเชียล “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ระบุว่า “เข้าใจได้ครับว่าทำไม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องสบถ เมื่อถูกถามเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้ง หากไม่มีคำสั่ง คสช. ไม่มีนักการเมือง จ.สุโขทัย ที่ประกาศสนับสนุนท่าน ผมมั่นใจว่าการแบ่งเขตตามรูปข้างล่างไม่มีทางเกิดขึ้น เพราะไม่อยู่ในแบบที่ กกต.จังหวัดเสนอมาครับ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ไม่อยากหงุดหงิดอีก ก็ควรแสดงให้เห็นว่าจะทำอะไรให้ทุกฝ่ายมั่นใจว่าจะไม่ใช้อำนาจก้าวก่ายแทรกแซงในเรื่องการเลือกตั้ง โดยเฉพาะหากตนเองมีส่วนได้เสียกับการเลือกตั้งครั้งนี้”
พปชร.ปัดไม่เคยชี้นำ กกต.
ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนพรรค กล่าวว่า การแบ่งเขตเลือกตั้ง 350 เขต เป็นหน้าที่และอำนาจของ กกต. ตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ พรรคการเมืองต่างๆ รวมถึงพรรคพลังประชารัฐ ได้ร่วมเสนอความเห็นไปแล้ว การตัดสินใจอย่างไรเป็นดุลพินิจของ กกต. ไม่ขอก้าวล่วงการตัดสินใจ และยืนยันว่าพรรค พปชร.ไม่ได้กดดัน หรือชี้นำสั่งการองค์กรอิสระได้ ที่เป็นข่าวมีเพียงจังหวัดเดียวควรรอการประกาศแบ่งเขตทั้งหมดดีกว่า และใครที่วิจารณ์ว่าพลังประชารัฐเตรียมผู้สมัคร ส.ส. วางครบทุกเขตแล้วนั้นไม่เป็นความจริง ยังอยู่ในขั้นตอนดำเนินการ แค่เรามีความพร้อมในตัวบุคลากร และไม่เกิดปัญหาพื้นที่ทับซ้อนแน่
จ่อตั้ง กก.สรรหาผู้สมัคร ส.ส.
นายวิเชียรกล่าวว่า ในช่วงสุดสัปดาห์นี้จนถึงช่วงกลางเดือน ธ.ค. พปชร.จะลงไปสนับสนุนสมาชิกของพรรคที่ จ.ร้อยเอ็ด กระบี่ ลำปาง ประชุมจัดตั้งสาขาของพรรคในภาคต่างๆตามกฎหมาย เมื่อมีสาขาภาคครบถ้วนแล้วจะเป็นขั้นตอนการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส. คาดกลางเดือน ธ.ค.พรรคจะจัดประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2 เพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส. จำนวน 11 คน ประกอบด้วย กรรมการบริหารพรรค 4 คน และสมาชิกพรรค 7 คน ส่วนคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 13/2561 ให้ยกเว้นการทำไพรมารีโหวต แต่กำหนดให้คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครต้องเปิดรับฟังความเห็นจากหัวหน้าสาขาภาค ตัวแทนพรรคประจำจังหวัดและสมาชิกพรรค ก่อนนำเสนอให้พรรคพิจารณา เราให้ความสำคัญขั้นตอนนี้มาก แสดงให้เห็นถึงกระบวนการมีส่วนร่วมของสมาชิกอย่างแท้จริง
“สนธิรัตน์” ไร้เงื่อนไขปลดล็อก
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การหารือร่วมพรรคการเมือง คสช. และ กกต. ในวันที่ 7 ธ.ค. พรรคไม่มีประเด็นหรือเงื่อนไขที่จะเสนอ แต่เข้าร่วมเพื่อเดินตามโรดแม็ปสู่การเลือกตั้ง พรรคพร้อมเดินตามแบบไม่เงื่อนไข ส่วนที่มีการวิจารณ์การแบ่งเขตเลือกตั้งของ กกต.เอื้อให้พรรคพลังประชารัฐได้เปรียบพรรคการเมืองอื่นนั้น ความจริงมีหลายพื้นที่ที่พลังประชารัฐเสียเปรียบ เพียงแต่ไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเหมือนที่หลายพรรคที่ออกมาแสดงความไม่พอใจ ขณะที่การคัดเลือกผู้สมัครลงเลือกตั้ง ส.ส. ระบบแบ่งเขต พรรคจะจัดสรรตามระบบ และคำนึงความนิยมของประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นอดีตรัฐมนตรี อดีต ส.ส. หรือคนรุ่นใหม่ ส่วนชื่อนายกฯที่พรรคจะเสนอมีที่น่าสนใจหลายคน รวมถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.ที่เห็นว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่พรรคยังไม่ได้หารือเพราะยังมีเวลา
บุกขอนแก่นขอเสียงชาวอีสาน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วันที่ 2 ธ.ค.นี้ นายสนธิรัตน์เตรียมลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น เพื่อชี้แจงแนวนโยบายของพรรค แนวทางการปฏิรูปประเทศ ให้บรรดาอดีต ส.ส.ภาคอีสาน 12 จังหวัดกว่า 50 คน ที่โรงแรมโฆษะ โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และนายอนุชา นาคาศัย เข้าร่วม จากนั้นจะลงพื้นที่พบประชาชนที่แก่งน้ำต้อน อ.เมืองขอนแก่น เพื่อรับฟังปัญหาและรับข้อเสนอนำมาจัดทำนโยบายภาพรวม เช่น การต่อยอดโครงการประชารัฐ โครงการบัตรสวัสดิการภาครัฐ การยกระดับราคาสินค้าเกษตร และนโยบายระดับภาค เช่น โครงการสร้างแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร ระบบขนส่งในจังหวัดหัวเมือง เชื่อมต่อจังหวัดในภูมิภาค นับเป็นการลงพื้นที่ภาคอีสานต่อเนื่องเป็นสองสัปดาห์ติดกัน หวังสร้างฐานคะแนนนิยมของพรรคเต็มที่
“ธนกร” โต้แบ่งเขตสุโขทัย
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกคณะกรรมการเฉพาะกิจในการรณรงค์การหาเสียงเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์การแบ่งเขตเลือกตั้งไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะที่ จ.สุโขทัย ว่า การแบ่งเขตของ กกต. ใกล้เคียงกับเมื่อปี 2554 ไม่ได้แบ่งตามอำเภอใจ ทำสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ตอนเลือกตั้งปี 2554 หรือปี 2557 คนที่ได้ประโยชน์ไม่เห็นร้องเรียนอะไร กลับเห็นดีเห็นงามด้วย พอคราวนี้ตนเองไม่ได้ประโยชน์ไม่ได้เปรียบ ถึงออกมาโวยวายหรือ โดยมารยาทไม่น่าทำ เอาเวลาไปคิดวิธีการหาเสียงดีกว่า ตอนนายสมชัย ศรีสุทธิยากร เป็น กกต.ขณะนั้น ไม่เห็นโวยวายอะไร หรือเพราะตอนนั้นยังไม่แสดงตัวชัดเจน แต่ตอนนี้เปิดตัวเป็นทางการแล้ว
ทษช.ชวนแสดงเจตจำนง
ด้านนายพงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ โฆษกพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าวว่า คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งพรรคไทยรักษาชาติ ได้ประกาศให้สมาชิกพรรคที่ประสงค์จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ทั้งในระบบแบ่งเขต และระบบบัญชีรายชื่อ ทราบถึงคุณสมบัติของผู้ลงสมัคร และวิธีการแสดงความจำนง โดยสมาชิกที่ต้องการลงสมัครรับเลือกตั้ง สามารถยื่นหนังสือแสดงความจำนงต่อคณะกรรมการสรรหาฯได้ด้วยตนเองที่ทำการพรรค ถนนแจ้งวัฒนะ ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 15 ธ.ค. จึงขอเชิญชวนสมาชิกพรรคที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ แนวนโยบาย มาร่วมแสดงความจำนงลงสมัครรับเลือกตั้ง เพื่อสร้างความเข้มแข็ง พร้อมทั้งขับเคลื่อนพรรคไทยรักษาชาติ เดินหน้าสู่สนามเลือกตั้งไปพร้อมๆกัน
“ตู่” ไม่สนขอลุ้นวันเข้าคูหา
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. และกองเชียร์พรรคเพื่อชาติ กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ แสดงอาการไม่พอใจกับการตั้งคำถามถึงการแบ่งเขตเลือกตั้งว่า เรื่องนี้เป็นข้อคลางแคลงใจตั้งแต่มีคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 16/2561 แต่ไม่กังวลเพราะถ้าพรรคใดส่ง 350 เขต ก็ต้องสู้เท่ากันทุกเขตจึงไม่มีผล เพียงแต่เป็นการสะท้อนให้เห็นความไม่ยุติธรรมตั้งแต่เริ่มต้นของกระบวนการ เรื่องนี้จะไปออกดอกออกผลในวันที่ พล.อ.ประยุทธ์ตัดสินใจให้ตัวเองเป็นหนึ่งใน 3 ผู้ถูกเสนอตัวเป็นนายกฯ ทุกอย่างจะเป็นเหมือนใบเสร็จว่าทำเพื่อตัวเอง จะเป็นวันที่ พล.อ.ประยุทธ์มีทุกขลาภมากที่สุด คนไทยจะรู้สึกได้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ถูกออกแบบเพื่อคน คนหนึ่ง และฝ่ายที่ใช้ความอยุติธรรมมักเป็นฝ่ายพ่ายแพ้เสมอ ไม่ว่ากติกาจะเป็นอย่างไรสำคัญที่สุดคือพาประเทศให้เดินไปถึงวันเลือกตั้งให้ได้
ชพน.ห่วงคนสับสนกติกาใหม่
นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา กล่าวว่า เรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งเชื่อว่าในที่สุดแล้วทุกฝ่ายในฐานะผู้เล่นตามกติกา น่าจะยอมรับกันได้ แต่เป็นห่วงเรื่องความสับสนที่อาจเกิดขึ้นของประชาชนเกี่ยวกับเขตเลือกตั้งที่ปรับเปลี่ยนหลายครั้ง รวมทั้งกฎกติกาที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งที่เป็นสิ่งใหม่ตามรัฐธรรมนูญที่เปลี่ยนแปลงจากเดิมมาก อาทิ บัตรเลือกตั้งมีแค่ใบเดียว เบอร์ผู้สมัครแต่ละพรรคไม่ใช่เบอร์เดียวกันทุกเขตเลือกตั้งทั้งประเทศ วิธีการคำนวณจำนวนที่มา ส.ส. จึงขอฝากข้อคิดเห็นไปยังกกต. เพื่อพิจารณาในเรื่องการประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมอย่างจริงจัง เน้นย้ำเรื่องเขตเลือกตั้งที่แบ่งใหม่ และกติกาใหม่ เพื่อทำให้กระบวนการเลือกตั้งเรียบร้อย ไม่สับสน ได้รับการยอมรับ
ชทพ.พร้อมลุยสนามปักษ์ใต้
นายธีระ วงศ์สมุทร ที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า วันที่ 6-7 ธ.ค. ตนและ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ที่ปรึกษาพรรค จะลงพื้นที่ จ.ปัตตานี และยะลา เพื่อหาสมาชิกพรรค พบปะว่าที่ผู้สมัครของพรรคในพื้นที่ภาคใต้ ในพื้นที่ภาคใต้มีตนและพล.อ.สนธิร่วมกันดูแล เราคาดหวังว่าจะได้รับคะแนน นิยมพอสมควร แต่รับว่าเป็นงานยาก เนื่องจากมีพรรคที่ครองพื้นที่อยู่ แต่ขอทำงานตามหน้าที่ให้ดีที่สุด ขณะนี้ต้องคัดเลือกผู้สมัครที่ดีที่สุดให้ประชาชนพิจารณาเป็นตัวเลือก
“เสรีพิศุทธ์” กร้าวไม่คุยเผด็จการ
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงกรณีรัฐบาล-คสช.และ กกต.เชิญพรรคการเมืองหารือเรื่องการปลดล็อกพรรค การเมืองในวันที่ 7 ธ.ค.ว่า ได้รับหนังสือเชิญแล้วแต่ผู้บริหารพรรคประชุมกัน เห็นตรงกันว่าเราอยู่ในฝ่ายประชาธิปไตย รัฐบาลมาจากการยึดอำนาจ เผด็จการ ยังเป็นอีแอบสร้างพรรคอ้างเป็นประชาธิปไตย คิดว่าคุยกับคนแบบนี้เสียเวลา คุยไม่รู้เรื่อง การเลือกตั้งตามกฎหมายเป็นหน้าที่ของ กกต. แต่ คสช. นายกฯ และ ครม.ไม่เกี่ยว ใช้อำนาจอะไรมาเชิญ บ้าอำนาจมากกว่า ตนไม่ใช่ลูกน้องไม่ยินดีพบ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช.จะพบกับตนไหม ขอท้าลงเลือกตั้งตัวต่อตัวให้ประชาชนเลือก ถ้า พล.อ. ประยุทธ์ชนะตนจะเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต แต่ถ้าตนชนะ พล.อ.ประยุทธ์เลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิตเอาไหม
โวยทหารแอบลักไก่แจ้งจับ
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ยังกล่าวว่า ทราบว่าถูกทหารแจ้งจับดำเนินคดีข้อหานำความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ กรณีที่ตนและตัวแทนหลายพรรคการเมืองไปออกรายการทางสถานีวอยซ์ทีวี พูดเรื่องประชาธิปไตย มีการบีบตำรวจไปขอหมายศาลมาจับตนวันที่ 30 พ.ย. ตรงกับวันศุกร์ตอนบ่าย ทั้งที่ไม่เคยส่งหมายเรียกมาให้ตนเลย ถ้าเจอก็จับได้เลย หรือถ้าไปมอบตัวก็ต้องไปนอนในห้องขัง เพราะศาลหยุดวันเสาร์-อาทิตย์ จึงอยากรู้ว่ารัฐเสียหายตรงไหน ผ่านมา 5 เดือนไม่เห็นรัฐเสียหายอะไร แต่มาแอบตั้งข้อหาตน ตอนนี้ผลโพลเลือกตน เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ในอันดับ 4-5 หรือต้องการสกัดตนหรือไม่ อย่าถึงทีบ้างกฎหมายเขียนไว้ไม่มีอายุความ จะล่อให้ บ้าอำนาจมา 4-5 ปี มีมาตรา 44 ในมือ ยังแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ ฝากถามว่าจะเป็นต่อไปทำไม ไม่อายชาวบ้านหรือ
เปิดโต๊ะเฟ้น ผอ.เขตเลือกตั้ง
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า ได้ลงนามในประกาศสำนักงาน กกต.เรื่องกำหนดวันรับสมัครบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง และคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง ตั้งแต่วันที่ 3-7 ธ.ค. เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะมีขึ้น ผู้สนใจสมัครสามารถยื่นใบสมัครต่อ ผอ.เลือกตั้งประจำจังหวัด โดยต้องมีสัญชาติไทยโดยการเกิด อายุไม่ต่ำกว่า 35 ปี มีภูมิลำเนาในจังหวัดนั้นๆ ไม่มีลักษณะต้องห้าม อาทิ เป็นสมาชิกหรือผู้ดำรงตำแหน่งอื่นของพรรคการเมือง อยู่ระหว่างห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
คนยังมึนวิธีกาบัตรเลือกตั้ง
วันเดียวกัน กรุงเทพโพล โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศจำนวน 1,200 คน เรื่องเลือกตั้งครั้งใหม่ อะไรที่คนไทยอยากรู้ พบว่า ร้อยละ 69.6 อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูลการเลือกตั้งเกี่ยวกับวิธีการลงคะแนนเสียง ร้อยละ 68.1 อยากได้ข้อมูลด้านตัวผู้สมัคร และร้อยละ 59.8 อยากได้ข้อมูลของพรรคการเมืองต่างๆ ส่วนช่องทางในการติดตามข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส่วนใหญ่บอกว่า จะติดตามผ่านสปอตทีวี รองลงมาคือตามสื่อโซเชียล Facebook Youtube Line ป้ายโฆษณา หนังสือพิมพ์ วิทยุ เมื่อถามว่าขณะนี้ข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกตั้งในด้านต่างๆเพียงพอหรือไม่ ส่วนใหญ่ร้อยละ 70.3 ระบุว่าไม่เพียงพอ มีเพียงร้อยละ 20.3 ระบุว่าเพียงพอแล้ว
สุดกร่อยยอดสมัคร ส.ว.แค่ 7 พัน
ช่วงเย็นวันเดียวกัน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. เปิดเผยถึงจำนวนผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็น ส.ว.ว่า ตัวเลขอย่างเป็นทางการยังไม่แล้วเสร็จ แต่ข้อมูลเบื้องต้นมีผู้สมัครประมาณ 7,000 คนทั่วประเทศ มีบางอำเภอไม่มีผู้สมัคร สำหรับความล่าช้าการสรุปจำนวนผู้สมัครมาจากข้อมูลการขอใบสมัครกับผู้มาสมัครจริงไม่ตรงกัน โดยมีผู้มาขอใบสมัครมากกว่า 1 หมื่นคน แต่มาสมัครจริง 7,000 คน ทำให้สำนักงานต้องตรวจสอบ รายละเอียดที่ถูกต้องจากหน่วยรับสมัครตามอำเภอต่างๆให้ครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุด คาดว่าจำนวนผู้สมัครในแต่ละกลุ่มจะสรุปอย่างเป็นทางการได้ภายใน 1-2 วัน
“บิ๊กป๊อก” ยันเลือก ส.ว.โปร่งใส
ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการดำเนินการของกระทรวงมหาดไทย ในการเลือก ส.ว.ตามแบบกลุ่มอาชีพ ไม่น่ามีปัญหาเรื่องความโปร่งใส และเข้าสู่การเลือกระดับจังหวัด 200 คน เพื่อส่งให้ คสช.พิจารณาเหลือ 50 คนต่อไป ส่วนบทบาทในการสร้างการรับรู้เรื่องประชาธิปไตยของกระทรวงมหาดไทย ต้องดูจังหวะที่เหมาะสม อย่างน้อยคงต้องรอให้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มีผลบังคับใช้คงเป็นหลังวันที่ 11 ธ.ค. ขณะนี้เป็นการเตรียมความพร้อม โดยจะได้หารือกับ กกต.อีกครั้งว่ากระทรวงมหาดไทยต้องดำเนินการอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา หรือมีข้อวิพากษ์วิจารณ์ตามมา
แนะรัฐบาลคุย บ.ยางรถยนต์
อีกเรื่องนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวว่า การแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ที่รัฐบาลใช้เงินแก้โดยไม่ใช่สมองคิด ทำให้เห็นว่านายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ ไม่มีความรู้เรื่องเกษตร โดยเฉพาะปัญหายางพารา น้ำมันปาล์ม ขณะที่นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ และเลขาธิการพปชร. ก็เอาแต่หาเสียงหาสมาชิกพรรค จึงไม่มีเวลาทำงานให้เกษตรกรเต็มที่ ถึงเวลาแล้วที่นายกฯต้องกำจัดเนื้อร้าย ปรับบุคคลเหล่านี้ออกไป ดึงคนที่มีความสามารถมาทำงานแทน การแก้ปัญหายางพารารัฐบาลควรไปเจรจากับประเทศผู้ผลิตยาง เพื่อร่วมกันกำหนดราคา และไปเจรจาต่อรองกับบริษัทต่างชาติ หรือไปหาตลาดเพิ่ม โดยเฉพาะการเจรจากับบริษัทผลิตยางรถยนต์ของไทย 6 บริษัท ให้ช่วยรับซื้อในราคาสูง เพราะวันนี้ราคายางรถยนต์มีแต่แพงขึ้น ขณะที่ยางพารากลับราคาตกต่ำ
โยกเลขาฯ สศก.แก้สินค้าเกษตร
ขณะที่นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้ลงนามในคำสั่งให้ น.ส.จริยา สุทธิไชยา เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ไปช่วยราชการสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในตำแหน่งหัวหน้าคณะทำงานจัดทำแผนการผลิตพืชหรือสินค้าเกษตรเป็นเวลา 3 เดือนเป็นการชั่วคราว เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค.นี้ และให้ น.ส.ทัศนีย์ เมืองแก้ว รองเลขาธิการ สศก. รักษาราชการแทนฯ สาเหตุเพราะต้องการเร่งรัดการทำแผนการผลิตพืชหรือสินค้าเกษตร อาทิ ข้าว ข้าวโพด ยาง ปาล์ม และพืชอื่น ตามนโยบาย รมว.เกษตรฯในการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ก่อนจะมีการเลือกตั้ง
ด้าน น.ส.จริยา สุทธิไชยา กล่าวว่า ไม่ได้กังวลใจกับคำสั่งย้าย เป็นข้าราชการจะย้ายไปอยู่ไหนก็ได้ ต้องทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาอยู่แล้ว และจะทำหน้าที่ในตำแหน่งที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด