เหนือความคาดหมายทะลุออกเปลือกโลกกันไปเลย เมื่อคลิปข่าวเปิดตัวสมาชิกใหม่ของพรรคพลังประชารัฐ กลับมีรายชื่อของ นางจุรีพร สินธุไพร รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ร้อยเอ็ด อดีตแกนนำเสื้อแดงพัทยา ชลบุรี ผู้มีชื่อเสียงของภาคตะวันออก อีกทั้งยังเป็น น้องสาวของ "นายนิสิต สินธุไพร" อดีต ส.ส.จังหวัดร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย และแนวร่วมกลุ่มคนเสื้อแดง ภายหลัง นางจุรีพร สินธุไพร ได้เดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ พร้อมสวมเสื้อคลุมติดโลโก้เปลี่ยนค่ายซบอก ฝ่ายเผด็จการที่เคยตั้งป้อมต่อต้าน ท่ามกลางสื่อมวลชนหลายแขนงปักหลักทำข่าว ณ ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ  

นางจุรีพร สินธุไพร ภรรยาของ พ.ต.อ.ศุภชัย ผุยแก้วคำ อดีตผกก.สภ.เมืองพัทยา และ สภ.บางละมุง จังหวัดชลบุรี ซึ่งที่ผ่านมาครอบครัว "สินธุไพร" มีความสัมพันธ์อันดีกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และได้รับความไว้วางใจให้เป็นแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงพัทยา เป็นโต้โผจัดงานใหญ่งานยักษ์ เปิดเวทีปราศรัยในพื้นที่ภูธรภาค 2  นอกจากนี้ "นางจุรีพร สินธุไพร" ยังได้รับความไว้วางใจ เนื่องจากเป็นคนสนิทมากๆ คนหนึ่ง ที่เข้าถึงตัว "นายทักษิณ ชินวัตร" เดินทางไปพบทั้งในและต่างประเทศ ที่ผ่านมาจึงไม่แปลกที่เธอมักจะได้รับมอบหมายให้ดูแลงานใหญ่งานยากในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และเคยนำทัพจัดขบวนคนเสื้อแดงภาคตะวันออกเข้ามาชุมนุมร่วมกันในกรุงเทพมหานคร เกือบทุกครั้งที่ผ่านมา 

...

บุคลิกนิสัยของ "นางจุรีพร สินธุไพร" เป็นคนใจดี ใจกว้าง ใจถึงพึ่งได้ และรักพวกพ้อง ถึงไหนถึงกัน ด้วยความที่พื้นฐานครอบครัวมีธุรกิจส่วนตัวเป็นของตัวเอง เปิดร้าน "ตำนานคนอีสาน" 2 สาขา ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั้งกลางใจเมืองพัทยา และย่านถนนเจริญราษฎร์ กรุงเทพมหานคร รวมไปถึงธุรกิจที่ดิน ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจส่วนตัวอีกมากมาย "นางจุรีพร" จึงเป็นแกนนำเสื้อแดงที่ค่อนข้างมีฐานะ เป็นที่รู้จักของคนในภาคตะวันออก ช่วยเหลือเกื้อกูล ดูแลคนในพื้นที่อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง 

ไม่ใช่เฉพาะในภาคตะวันออกเพียงเท่านั้น ภาคอีสานในหลายๆ จังหวัด "นางจุรีพร สินธุไพร" ก็มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับของคนจำนวนมาก ถือเป็นหัวแรงหลัก เป็นต้นแบบผู้นำผู้หญิงเก่ง ประกอบกับเธอยังเป็นน้องสาวแท้ๆ ของ "นายนิสิต สินธุไพร" อดีต ส.ส.จังหวัดร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย จุดนี้เองจึงสร้างความเลื่อมใสศรัทธา ขับเคลื่อนประชาชนคนเสื้อแดงให้มีฐานเสียงเพิ่มจำนวนขึ้นในทุกๆ ปี อดีต นายกฯ ทักษิณ ให้ความไว้วางใจดูแลมวลชนกลุ่มใหญ่ และให้อำนาจในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจพื้นที่ภูธรภาค 2 เมื่อยุคสมัยที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล 

ภายหลังมีการเปิดตัวสมัครเข้าสมาชิกพรรคอย่างเป็นทางการ ทางทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ เป็นที่แรก โดยระบุกับเราว่า ตัวเธอเองตัดสินใจเข้ามาสมัครสมาชิกพรรคเป็นวันสุดท้าย เพราะบอกตรงๆ ว่าเรื่องนี้ค่อนข้างละเอียดอ่อน และเชื่อว่าต้องมีผลกระทบตามมาแน่นอน ถึงแม้คนในครอบครัวหลายคนจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับการตัดสินใจครั้งนี้ แต่ตัวเธอเองคิดไตร่ตรองมาสักพักใหญ่ และทั้งหมดก็เพื่อลดความขัดแย้งของสังคม อยากให้ประเทศชาติพัฒนาต่อไป 

"พูดไม่ออก ไม่รู้ต้องพูดอย่างไร เพราะพูดไปดูจะเหมือนแก้ตัวหรือเปล่า แต่ขอให้ประชาชนคนเสื้อแดง หรือทุกๆ คนทราบว่า ดิฉันเองใช้เวลาคิดมานานหลายเดือน และได้ปรึกษากับพี่ชายแล้ว ดิฉันเชื่อว่าการที่ได้มาเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ก็จะสามารถทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้ ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนคนไทยได้ พร้อมๆ กับความปรองดอง ขับเคลื่อนประเทศชาติให้พัฒนาไปสู่ทิศทางเดียวกัน มุ่งหวังประโยชน์สุขของประชาชนเป็นสำคัญ ลดความขัดแย้งแบ่งฝักฝ่าย และสัญญาว่า จะดำรงตนเพื่อชาติบ้านเมือง สู่ความสงบสุข" 

นางจุรีพร สินธุไพร บอกด้วยว่า เธอยังเป็นคนเดิม ที่มีหลักแนวคิดในด้านบวกและมุ่งมั่นพัฒนา เพราะไม่ว่าเธอจะอยู่พรรคไหน ตำแหน่งใด ก็ยึดหลักความเที่ยงธรรม พร้อมช่วยเหลือทุกๆ คนเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนไป อยากให้ทุกๆ คนเข้าใจ และเปิดรับบทบาทใหม่ของเธอในครั้งนี้ ซึ่งขอสัญญาว่า จะทำเพื่อประชาชนให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป  

"การเลือกตั้งที่จะถึงนี้ เชื่อว่าประชาชนจะแยกแยะได้ และขึ้นอยู่กับประชาชนจะตัดสินใจ ซึ่งดิฉันเคารพกับการตัดสินใจของประชาชน และพร้อมจะลงสมัครรับเลือกตั้งพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด ก็ขอฝากพรรคพปชร.เอาไว้ด้วยนะคะ" 

**และทั้งหมดนี้เป็นเหตุผลที่ทางอดีตแกนนำแดงภาคตะวันออก เปิดเผยกับเรา ขณะเดียวกัน แวดวงในมีข่าวสะพัดออกมาหนาหูก่อนหน้านี้ว่า เธอถูกล้อมกรอบด้วยกฎข้อเสนอให้ย้ายพรรค และไม่สามารถปฏิเสธได้ เพราะทั้งหมดนั้นคือการนำอนาคตของตัวเธอรวมถึงคนในครอบครัวมาเป็นเดิมพัน การตบเท้าก้าวข้ามฝั่งหันหลังให้ผู้มีพระคุณอย่าง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จึงกลายเป็นเรื่องที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ท่ามกลางกระแสต่อต้านของคนในครอบครัวเธอเอง