“อลงกรณ์ พลบุตร” ชี้ ปมใช้รถหลวง ทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวง จี้ สตง.และสำนักงบฯ สอบซื้อ ฮ.ทหารแพง โว ฟื้นตั้งเครือข่าย“ คอร์รัปชันวอท์ช” จับโกง
วันที่ 2 พ.ย. นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กรณีการใช้รถหลวงบริการคณะเอกชน ว่า ถือเป็นการคอร์รัปชันรูปแบบหนึ่ง ซึ่งเป็นความผิดตามระเบียบของทางราชการและเข้าข่ายการฉ้อราษฎร์บังหลวง แม้จะเป็นการให้บริการในการทำกิจกรรมมอบทุนการศึกษาก็ตาม แต่มีการใช้รถหลวงเพื่อการอื่นด้วย ภาพที่ปรากฏแสดงว่า คณะเอกชนไม่ทราบว่า เป็นการกระทำผิด แม้แต่หัวหน้าหน่วยงานก็เหมือนลืมไปว่า เป็นการกระทำที่ผิดต่อวัตถุประสงค์ของทางราชการ ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเหมือนยอดของภูเขาน้ำแข็งของการฉ้อราษฎร์บังหลวง ยังมีการกระทำผิดในหลายรูปแบบ ตั้งแต่ใช้เวลาหลวง ใช้รถหลวง ใช้น้ำมันหลวง ใช้ของหลวง ใช้งบเดินทางดูงานจัดประชุม จัดอีเวนต์ ฟุ่มเฟือยไม่คุ้มค่า โดยลืมไปว่า แต่ละบาทมาจากภาษีของประชาชน เราหย่อนยานในวินัยและไม่เคร่งครัดต่อการปฏิบัติตามกฎระเบียบ มาเนิ่นนานจนเข้าใจผิดคิดว่า ทำได้ไม่ผิด ตนจึงเสนอกฎเหล็กปราบคอร์รัปชัน 5 ข้อ และใช้เครื่องมือทางกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติว่าด้วยความขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนรวมของรัฐกับผลประโยชน์ส่วนตัว หรือ ที่เรียกว่ากฎหมาย 3 ชั่วโคตร กับศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบ จัดการขั้นเด็ดขาดกับปัญหาการเบียดบังการใช้ทรัพยากรของรัฐทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและเอกชน เราอาจผิดพลาดมานาน วันนี้ต้องเริ่มต้นทำในสิ่งที่ถูกต้อง เมื่อจะปฏิรูปต้องทำจริงทำทันที
ส่วนกรณีที่กองทัพ ซื้อเฮลิคอปเตอร์แพงกว่าเอกชน ตามที่เป็นข่าว นายอลงกรณ์ กล่าวว่า สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และสำนักงบประมาณ ต้องเร่งตรวจสอบการจัดซื้อดังกล่าว และแถลงข้อเท็จจริงให้ประชาชนทราบมิใช่ให้หน่วยจัดซื้อ คือ กองทัพชี้แจงฝ่ายเดียว หากพบว่า มีการกระทำผิดต้องส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.เอาผิดขณะเดียวกันก็ต้องปฏิรูปราคากลางของพัสดุที่จะจัดซื้อทุกหน่วยงานไม่ว่าจะเป็นกองทัพ หรือส่วนราชการไหนต้องไม่ละเว้น ตัวอย่าง ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ปกครองคนจีน 1,370 ล้านคน ยังปราบคอร์รัปชันได้ ทำไมประเทศไทยมีเพียง 69 ล้านคน จะทำไม่ได้ ทั้งที่เป็นมะเร็งร้ายเกาะกินศักยภาพประเทศมานานแล้ว ถึงเวลาต้องระดมสรรพกำลังจัดการขั้นเด็ดขาดสร้างการเมืองสีขาวราชการสีขาวธุรกิจสีขาวและการปราบปรามคอรัปชั่นเป็นหน้าที่ของทุกคน
...
“ผมจะจัดตั้งเครือข่าย “คอร์รัปชันวอท์ช”(corruption watch)ร่วมมือกับทุกภาคีภาคส่วนร่วมทำสงครามปราบปรามคอร์รัปชัน ทำหน้าที่รับแจ้งและชี้เบาะแสการทุจริตและประพฤติมิชอบของภาครัฐและภาคเอกชน เป็นการรื้อฟื้นกลุ่มคอร์รัปชันวอท์ชที่ตนเคยร่วมก่อตั้งเมื่อ 10 กว่าปีก่อนสมัยเป็นประธานตรวจสอบการทุจริต คราวนี้จะใช้ไอทีเทคโนโลยีมาเป็นรูปแบบใหม่ของคอร์รัปชันวอท์ชยุคใหม่