พรรคเพื่อไทย ประชุมจัดตั้งสาขาและเลือกคณะกรรมการสาขาพรรคเพื่อไทย สาขาลำดับที่ 2 จังหวัด เชียงใหม่ (ภาคเหนือ) แกนนำพรรค เผยผู้สมัครเขตของเชียงใหม่ ยังคงเหมือนเดิม
เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ศูนย์พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ล้านนา เลขที่ 120/3 หมู่ 3 ต.แม่ปูคา อ.สันกำแพง เชียงใหม่ ได้มีการประชุมสมาชิกพรรคเพื่อไทย และรับสมัครสมาชิกเพิ่ม พร้อมทั้งมีการเลือกตั้งลงคะแนนเลือกคณะกรรมการสาขาพรรค และหัวหน้าสาขาพรรค ที่ เชียงใหม่ มีสมาชิกร่วมประมาณหลายร้อยคน โดยมี แกนนำพรรคเพื่อไทยคนสำคัญ ประกอบด้วย นายจาตุรนต์ ฉายแสง, คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รรท.หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย จังหวัดพะเยา รวมทั้งลูกชายของ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ และเหล่าอดีต ส.ส.ของพรรคคนเก่าแก่มาร่วมประชุมเลือกตั้งคณะกรรมการในครั้งนี้อย่างคับคั่ง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภาค 5 หน่วยข่าวกรอง และ กกต.จังหวัดมาร่วมสังเกตการณ์ด้วย
การเลือกตั้งคณะกรรมการและหัวหน้าสาขาครั้งนี้ ได้มีการให้สมาชิกเก่าได้ลงคะแนนเลือก ส่วนสมาชิกใหม่ที่เพิ่งสมัครวันนี้ ยังไม่ให้เข้าห้องประชุม ตามกฎระเบียบกฎหมายใหม่ของ กกต. นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม อายุ 39 ปี (ท็อป) ลูกชายนักธุรกิจใหญ่ในเชียงใหม่ เป็นเจ้าของโรงแรมพิงพยอม และเป็นเจ้าของตลาดต้นพยอม อ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งถูกเป็นตัวเลือกให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในเขต 3 พื้นที่ของเชียงใหม่ ได้เปิดเผยว่า ผมได้ถูกเลือกให้ลงสมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทยเขต 3 ประกอบด้วย อ.สันกำแพง อ.แม่ออน อ.ดอยสะเก็ด การเลือก ส.ส.พรรคเพื่อไทย ลงสมัครในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เขต 2 ถึง เขต 9 เป็นอดีต ส.ส.ท่านเดิมทั้งหมด ส่วนเขต 1, 3, 7 เป็น ผู้สมัคร ส.ส.คนใหม่ รุ่นใหม่ ส่วน นายสมชาย วงค์สวัสดิ์ กับ นางเยาวภา วงค์สวัสดิ์ คงไม่ลงมาเล่นการเมืองแล้ว รวมทั้งไม่ส่งลูกหลานมาลงสมัครด้วย ลักษณะเป็นที่ปรึกษาอะไรทำนองนั้น
...
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้เดินทางมาดูการเลือก ตั้งคณะกรรมการสาขาและหัวหน้าสาขาพรรคเพื่อไทย ภาคเหนือ ที่เชียงใหม่ วันนี้ก็มีการลงเลือกคณะกรรมการ และรับสมัครสมาชิกพรรค เพราะสมาชิกพรรคเราถูกเซตซีโร่ไปหมด เราก็ต้องมาเริ่มต้นกันใหม่ สำหรับการคัดเลือกผู้ลงสมัคร ส.ส.ในพื้นที่แต่ละแห่งนั้น เราก็จะให้ ส.ส.เก่าได้มีสิทธิลงสมัครในพื้นที่ ต้องยอมรับภาคเหนือ ภาคอีสาน มีคนลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทยจนล้น แต่ละจังหวัดมีการส่ง ชื่อรับการแข่งขันมากกว่า 1 คน เราก็ต้องให้ผู้สมัครเดิมก่อน ยกเว้นผู้สมัครเดิมอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง ส่วนเรื่องของการเช็กชื่อนั้น เราจะไม่ทำ ภาคเหนือพวก ส.ส.ที่ย้ายพรรค ก็จะมีภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งน้อยมาก ไม่มีอะไรในส่วนการเลือกตั้ง
"จำนวน ส.ส.ที่เราได้ทำโพลสำรวจ เราก็จะพบว่าประชาชนให้ความนิยม และจากเราที่ ได้ดูโพลของสถาบันการศึกษา หรือว่าหน่วยงานต่างๆ ทำ ก็จะเห็นว่าคะแนนนิยมความต้องการของประชาชนมากขึ้นๆ เพราะมาจากความเดือดร้อนของประชาชน ประชาชนสะท้อนถึงความเดือดร้อนว่า ในห้วงที่ผ่านมาเขามีความเดือดร้อน และเขาก็คาดว่า พรรคเพื่อไทยจะเข้าไปแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเขาได้ ตอนนี้เราคิดว่าเราจะมุ่งมั่นทำงานเอาจุดแข็งของเราในอดีต เป็นพรรคการเมืองที่ศึกษาปัญหาของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง และพยายามที่จะแสวงหาวิธีการแก้ไขปัญหาที่เป็นไปได้และลงมือทำลงมือปฏิบัติ คือ เป็นพรรคที่คิดเป็นทำเป็นและทำสำเร็จ สิ่งเหล่านี้เราถือว่าเป็นจุดแข็งที่ทำให้ประชาชนกว่า 10 ปี ยังให้ความนิยม ยังให้ความเมตตา เพราะว่าเรามีความตั้งใจ มีความซื่อสัตย์ ที่จะทำงานแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน และประชาชนก็มั่นใจว่า คนกลุ่มนี้ถ้าได้ทำงานเขามีหลักคิดอยู่บนวิทยาศาสตร์"
คุณหญิงสุดารัตน์ เปิดเผยอีกว่า ตอนนี้กฎหมายใหม่ ทำให้การทำงาน การรวบรวมสมาชิกการทำอะไรต่างๆ ของพรรคนั้นยากขึ้น เราก็ต้องพยายามทำไม่ให้ผิดกฎหมาย สำหรับการส่ง ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยนั้น เราจะส่งให้ครบทุกเขต อีกเรื่องที่มีสื่อบางสื่อออกข่าวว่า ท่านทักษิณ จะกลับมาเป็นนายกฯ คนนอกที่ประเทศไทยอีก ไม่เป็นความจริง ท่านทักษิณ ท่านพูดชัดเจนว่าท่านจะไม่กลับมายุ่งเกี่ยวทางการเมืองของประเทศไทยอีก แต่ในฐานะที่ท่านเป็นคนไทย อะไรเห็นว่ามีประโยชน์ แน่นอนคนเราจะอยู่ตรงไหน เราก็ย่อมมีความรักและห่วงใยในประเทศชาติของเรา ให้เข้าใจตรงกัน สำหรับพรรคที่ผ่านการยุบพรรคมาแล้วถึง 2 ครั้ง ก็ต้องระวัง เราทำตามระเบียบกฎหมายทุกอย่างเหมือนทุกพรรค เราทำตามกฎระเบียบ
นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวอีกว่า สาขาพรรคและคณะกรรมการสาขาพรรคเป็นกำลังสำคัญอย่างยิ่งในการที่จะผลักดันและสนับสนุนการทำงานของพรรคในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนือถือเป็นพื้นที่สำคัญที่ประชาชนให้การสนับสนุนพรรคมาตลอด และเชื่อมั่นว่าจะยังคงให้การสนับสนุนเช่นเดิมในการผลักดันให้พรรคเพื่อไทย ได้ ส.ส.เข้าไปทำหน้าที่ในสภา เพราะตัวแทนของพรรครู้ปัญหาของประชาชนเป็นอย่างดี และมีปัญญาความสามารถที่จะช่วยแก้ไขปัญหาให้ได้ หากได้รับโอกาสและการสนับสนุน ทางด้าน นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ อดีต ส.ส.พะเยา พูดในห้องประชุมว่า พรรคเพื่อไทยคงชนะทั่วประเทศอย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเลือกตั้งหาคณะกรรมการพรรค และหัวหน้าสาขาพรรคเพื่อไทยภาคเหนือ ผลสรุป นายบุญธรรม บุญหมื่น ได้รับคะแนนจากสมาชิกให้เป็น ประธานสาขาพรรคเพื่อไทย ภาคเหนือ พร้อมคณะกรรมการแผนกต่างๆ อีก 8 คน นางวิทยาลักษณ์ สามใจ รองหัวหน้าสาขาพรรค, นางสาวสกาวเดือน เวชสัมพันธ์ เลขานุการสาขาพรรค, นางพันชญา สุภาพ รองเลขานุการสาขาพรรค, นางสาวอรวรรณ จันระวังยศ เหรัญญิกสาขาพรรค, นายประวิทย์ วงศ์อ้าย นายทะเบียนสาขาพรรค, ว่าที่ร้อยตรีจักราวุฒิ ไชยา โฆษกสาขาพรรค และนายจิรพงษ์ วรรณะกลาง กรรมการสาขาพรรค
ขณะที่ พลตำรวจโทวิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การประชุมสมาชิกพรรคเพื่อจัดตั้งสาขาพรรค และเลือกตั้งคณะกรรมการสาขาพรรคเพื่อไทย สาขาลำดับที่ 2 จังหวัดเชียงใหม่ (ภาคเหนือ) ในวันนี้เป็นไปตามมติของคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ที่จะตั้งสาขาพรรคให้ครบทั้ง 4 ภาคของประเทศ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย และสามารถส่งตัวแทนลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ได้ครบทุกเขต ทุกภาค ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่นั้น ยังคงเป็นเมืองหลวงของพรรคเพื่อไทยเช่นเดิม
รักษาการแทนหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยอีกว่า สำหรับจังหวัดเชียงใหม่นั้น ยังคงเอาอดีต ส.ส.เดิมเป็นหลัก จะมีใหม่ไม่กี่เขต ส่วนเขต 1 ที่มีกระแสข่าวว่ามีการย้ายไปสังกัดพรรคอื่นนั้น คงเป็นแค่ข่าวลือ ส.ส.เขต 1 ของเชียงใหม่ ยังคงเป็นคนเดิม คือ นางสาวทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ แม้ญาติของเขาจะย้ายไปสังกัดพรรคอื่นแล้วก็ตาม
หลังวันที่ 28 ต.ค.นี้ จะได้มีการประชุมพรรคเพื่อไทย ที่สำนักงานใหญ่ กทม. คงจะรู้แน่ชัดว่าใครจะลง ส.ส.ในนามพรรคเพื่อไทย และคงทราบชื่อ ส.ส.ทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังใช้ สำนักงานพรรคเพื่อไทย ที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นที่ทำการพรรคเพื่อไทยทั่วภาคเหนือ 18 จังหวัด ทั้งนี้ในการประชุมในครั้งนี้ มี ส.ส.เก่ามาจากหลายจังหวัดทั่วภาคเหนือ.