เมื่อเร็วๆนี้ บรรดาพ่อค้าแม่ค้า ที่ได้รับความเดือดร้อนจาก โครงการก่อสร้างตลาดน้ำ ขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร หรือ อ.ต.ก. ที่มี กมลวิศว์ แก้วแฝก เป็น ผอ. ทำหนังสือร้องเรียนไปถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม เพื่อ ทบทวนโครงการดังกล่าวที่จะส่งผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง โครงการใช้งบประมาณกว่า 13 ล้านบาท ด้วยเหตุผลที่ว่า เดิม โครงการตลาดน้ำ ตามที่รัฐบาลมีนโยบายให้ อ.ต.ก. ร่วมกับ กทม. ดำเนินโครงการตลาดน้ำ คลองสวยน้ำใส โดยมีเงื่อนไขดังนี้
ให้ จัดทำเขื่อนทางเดินริมคลองบางซื่อ และ ทำท่าเรือเป็นทางขึ้นลง ขายของตลาดน้ำจริงๆ ซึ่งมีเรือขายของอยู่ในคลองบางซื่อโดย กทม.ใช้งบประมาณแล้ว 37 ล้านบาท แต่การเลือกพื้นที่ก่อสร้างในตลาด อ.ต.ก.ปัจจุบันส่งผลกระทบกับ พ่อค้าแม่ค้า ที่ทำการค้าขายอยู่มาเป็นเวลานานโดยตรง
การทำอุโมงค์ลอดใต้คลองบางซื่อ ขณะนี้ กทม.ได้ดำเนินการแล้ว อยู่ในขั้นตอนขุดลอกคลองที่ตื้นเขิน ทั้งหมดนี้กลายเป็นความสูญเปล่าของงบประมาณรัฐที่ให้ กทม.ไปหลายร้อยล้านบาท เป็นการดำเนินการที่ผิดจากนโยบายเดิมของรัฐที่ให้ดำเนินโครงการคลองสวยน้ำใส แต่ไปบิดเบือนนโยบายที่จะให้เกิดตลาดน้ำบนบก
นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวยังไม่มีการสำรวจถึงความเหมาะสมในการลงทุนหรือผลประโยชน์ที่จะได้รับอย่างเป็นรูปธรรม เพียงแต่ กทม. เอาโครงการตลาดน้ำไปสวมในโครงการคลองสวยน้ำใสเท่านั้น
ทำให้ประชาชนบริเวณใกล้เคียงได้รับความเดือดร้อนจากการซื้อสินค้าบริเวณตลาด อ.ต.ก. เกิดปัญหาด้านคมนาคม การจราจรติดขัด ซึ่งปกติตลาด อ.ต.ก.เดิมก็มีปัญหาเรื่องของพื้นที่การจราจรอยู่แล้ว
กรณีดังกล่าวกลุ่มประชาชนและผู้ประกอบการค้าในตลาด อ.ต.ก. จึงขอให้ มีการปรับเปลี่ยน ผอ.อ.ต.ก. เพื่อความเหมาะสมในการบริหารกิจการภายในตลาด อ.ต.ก.ให้เกิดความโปร่งใส และขอให้ออกคำสั่ง ระงับโครงการตลาดน้ำ อ.ต.ก. เอาไว้ก่อนเพื่อนำไปพิจารณา ทบทวนปรับปรุงให้มีความเหมาะสมและไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนต่อไป
...
สำหรับประเด็นโครงการคลองสวยน้ำใสนั้น กทม.ควรจะให้ความสำคัญของโครงการมากกว่าประโยชน์ตอบแทน เพราะคลองบางคลองที่มีความสำคัญกับการคมนาคมและสิ่งแวดล้อมกลับไม่ได้รับความใส่ใจจาก กทม. อาทิ คลองแสนแสบ หรือคลองราษฎร์บูรณะ ที่ปล่อยให้ชาวบ้านปลูกสิ่งก่อสร้างบุกรุกเข้ามาในลำคลอง ปล่อยน้ำเสีย และสิ่งปฏิกูลลงมาจนไม่สามารถที่จะใช้เป็นเส้นทางคมนาคมทางเรือได้สะดวก เกิดปัญหาน้ำเน่าเสียตามมา
อันที่จริง ผังเมือง กทม.ที่วางเอาไว้ใน สมัยรัชกาลที่ 5 เป็นผังเมืองที่สามารถรองรับการจราจรและชีวิตความเป็นอยู่ของคน กทม.ในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี แต่เพราะการปล่อยปละละเลยของ กทม. เพราะประโยชน์ของหมู่บ้านจัดสรรและคอนโดใน กทม. ที่เพิ่มขึ้น เป็นดอกเห็ด ปล่อยให้มีการก่อสร้างปิดทางน้ำรุกล้ำแม่น้ำลำคลองเลยทำให้ กทม.เป็นเมืองที่มีการจราจรติดขัดที่สุดในโลก.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th