ผบ.ทหารสูงสุด ลั่นอย่ากังวลทหารปฏิวัติ หากทุกฝ่ายประคอง พาประเทศให้สงบ ย้ำงานรับผิดชอบ ทำทุกพื้นที่ให้อยู่ในบรรยากาศสงบ ด้าน "บิ๊กแดง" ไม่หวั่น "เอกชัย" แจ้งจับข้อหากบฏ 

เมื่อวันที่ 19 ต.ค.2561 ที่กองบัญชาการกองทัพไทย พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผบ.ทหารสูงสุด กล่าวถึง จุดยืนการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปีหน้าว่า ภารกิจการเตรียมการเลือกตั้ง สิ่งที่เราจะสามารถทำได้คือการให้ความรู้ความเข้าใจในกฎกติกาของการเลือกตั้ง งานที่เรารับผิดชอบคือ การทำให้บรรยากาศในทุกพื้นที่อยู่ในความสงบ คืองานสำคัญของพวกเราทุกคน

ส่วนการเน้นย้ำกำลังพลนั้นเพื่อเป็นแนวปฏิบัติต้องยึดมั่นในกรอบหน้าที่ของทหารและตำรวจคือการทำให้ประเทศชาติ ประชาชนเกิดความสงบ ให้ความรู้ความเข้าใจจะต้องมีจุดสมดุล เพื่อไม่ให้ข้อมูลใดๆ ก็ตามที่นำไปสู่ความเข้าใจคลาดเคลื่อน

พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวว่า สถานการณ์ในปีหน้าหากย้อนไปเมื่อช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ตนเชื่อว่าคนไทยทุกคนได้เห็นว่าใน 4 ปีนี้ เป็น 4 ปี ที่มีแต่ความสงบ ไม่มีการเดินขบวนประท้วง จนทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเกิดปัญหา คนไทยก็อยู่อย่างมีความสุข ทำมาหากินอย่างปกติ การติดต่อค้าขาย เศรษฐกิจไปได้ด้วยดี กฎหมายมีการบังคับใช้ ทุกคนเคารพกฎหมาย ถือว่าสังคมอยู่ในสภาวะปกติ ไม่มีอะไรต้องกังวล

เมื่อถามว่า จุดยืนของทหารยังอยู่เคียงข้างประชาชนใช่หรือไม่ อย่างไรก็ตามจุดยืนของเหล่าทัพตรงนี้ จุดใดก็ได้ที่ประเทศมีความสงบประชาชนมีความสุข พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวว่า จุดยืนของทหารตำรวจ คือ จุดใดก็ได้ที่ประเทศชาติมีความสงบ

เมื่อถามย้ำว่า หากในอนาคตเกิดวิกฤติการเมืองอีกครั้ง บทบาทของทหารจะเป็นอย่างไร หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลงจากอำนาจ พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวว่า หากเราไม่ไปพยากรณ์ว่าจะเกิดการจลาจล ขณะนี้การเดินทางของประเทศไทย 4 ปีที่ผ่านมา ถือว่ามีพัฒนาการดี ก้าวหน้าและมีการเตรียมการไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยมาด้วยดีตลอด แทนที่เราจะคิดว่าจะเกิดการจลาจล แต่ถ้าหากเราร่วมมือการตัดสินใจให้ถูกต้อง ทุกคนมีจุดยืนที่เหมาะสมรวมกัน เราก็คงไม่ต้องไปคิดว่าจะเกิดการจลาจลหรือไม่ในอนาคต และไม่ต้องไปคิดว่าทหารจะต้องมาทำอะไรหรือไม่ในวันนั้น

...

"สิ่งที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. และ
พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ผบ.ทอ. พูดนั้น ท่านพูดด้วยประสบการณ์ คือแผนเผชิญเหตุสุดท้าย แต่ในขณะที่กลไกกฎระเบียบของบ้านเมืองยังใช้บังคับได้ และผู้คนเคารพกฎหมาย ความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่จะนำไปสู่ความขัดแย้ง ก็ยังไม่เห็นปรากฏว่ามีนัยยะสำคัญ จนถึงขนาดที่ต้องน่ากังวล การที่เราไปพูดถึงเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้น และไม่มีทีท่าว่าจะเกิดจะทำให้สังคมเกิดความกังวลได้ ผมคิดว่าเราทุกคนต้องยืนหยัดอยู่กับการรับข้อมูลและการตัดสินใจจากข้อมูลนั้นให้เกิดความสงบ อย่าไปตื่นตามประเด็นที่เฉี่ยวไปเฉี่ยวมาเล็กๆน้อยๆ และคิดว่าจะเป็นเช่นนั้น" พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าว และย้ำว่า จุดยืนของกองทัพ และ สตช. คือจุดที่ประชาชนมีความสุขและประเทศชาติมีความสงบ

เมื่อถามว่าหากมีการรัฐประหารเป็นทางเลือกสุดท้ายใช่หรือไม่ พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นโอกาสที่จะเกิดความไม่สงบและยังไม่เห็นว่าจะต้องไปแก้ปัญหาความไม่สงบด้วยวิธีใด ในเมื่อกฎหมายยังบังคับได้ปกติ ไม่มีเหตุผลใดที่ทำให้คนไทยต้องกังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น ยังมีหนทางอื่นที่ใช้มากกว่าหนทางรัฐประหาร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว พล.อ.อภิรัชต์ เดินไปจับมือกับ พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ก่อนจะไปไหว้ป้ายชื่อของ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุดและหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ที่ติดอยู่บนป้ายรายชื่อนายทหารที่ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้เป็นบิดา

นอกจากนี้หลังการประชุม พล.อ.อภิรัชต์ ได้เดินไปดูรูปภาพของบิดาภายในห้องรับรองนเรศวรพร้อมบันทึกภาพอีกด้วย

ทั้ง พล.อ.อภิรัชต์ ยังกล่าวถึง กระแสโจมตีจากฝ่ายการเมือง หลังให้สัมภาษณ์ว่า การรัฐประหารจะไม่เกิด หากฝ่ายการเมืองไม่เป็นต้นเหตุจลาจลว่า เป็นเรื่องธรรมดา ส่วนที่นายเอกชัย หงส์กังวาล จะไปแจ้งความเอาผิดในข้อหากบฏนั้นก็ว่าไป

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า นอกจากนี้ในงานเลี้ยงอาหารกลางวันของผู้บัญชาการเหล่าทัพ และ สตช. พล.อ.พรพิพัฒน์ ได้จัดเซอร์ไพรส์วันคล้ายวันเกิดครบ 59 ปี ในวันที่ 19 ต.ค. โดยมอบเค้ก ให้กับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้เป่าอีกด้วย.