"สนธิรัตน์" ลั่นรู้จักแยกแยะบทบาทนักการเมืองกับ รมต.ดี ยันเข้มกติกาไม่คิดใช้ตำแหน่งหาเสียงล่วงหน้า เอาเปรียบเทียบนักการเมือง พ้อวางตัวลำบากกว่านักการเมืองด้วยซ้ำ พร้อมย้ำยุติบทบาท รมต.เมื่อถึงเวลาเหมาะสม
เมื่อวันที่ 15 ต.ค.61 ที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยม นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ว่าที่เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการวางตัวในบทบาทรัฐมนตรีและผู้บริหารพรรค หลังที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุว่า ไม่ควรใช้ที่และเวลาราชการในการสัมภาษณ์การเมือง ว่า เราเข้าใจบทบาทตัวเองอยู่แล้ว จึงใช้โอกาสในวันหยุดมารับฟังประชาชน เพราะภาคประชาชนและหัวหน้าพรรคสนใจมาก เราเป็นพลังประชารัฐต้องฟังทุกภาคส่วน ยืนยันว่าไม่ได้ใช้เวลาหรือทรัพยากรของรัฐมาใช้ ในเวลาราชการจะไม่คุยเรื่องการเมือง เราระมัดระวังมากเรื่องการตอบคำถาม เพราะอยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎกติกา จึงขอให้สบายใจได้ว่าจะเข้มงวด ไม่คิดจะใช้ความได้เปรียบของตำแหน่งและบทบาทหน้าที่รัฐมนตรีไปสร้างผลประโยชน์ทางการเมือง แต่จะเดินหน้าทำงานโดยไม่เอาบทบาทรัฐมนตรีไปสร้างประโยชน์
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ 4 รัฐมนตรีเข้าไปพูดคุยกันที่ห้องทำงานของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นสถานที่ราชการ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ไปคุยกันเรื่องงาน ต้องดูว่าทำในบทบาทใด ถ้าคุยการเมืองเราจะไปประชุมข้างนอก เพราะไม่ถูกต้องที่จะใช้สถานที่ราชการ
เมื่อถามถึงเสียงวิจารณ์ว่า การลงพื้นที่ต่างๆ เป็นการหาเสียงล่วงหน้า นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ไม่ได้หาเสียง เพียงแต่มาประชุม เพราะตลาดน้ำแห่งนี้ต่างเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป การจะไปใช้ที่อื่นประชาชนคงไม่สะดวก หากกลุ่มใดเชิญไปเราก็จะไป ซึ่งกลุ่มต่างๆ เขาก็มีการประชุมกันอยู่แล้ว เมื่อพรรค พปชร.สนใจภาคประชาสังคม จึงต้องมารับฟัง
...
เมื่อถามว่า กลัวว่ากระแสต่อต้านการดำเนินงานของพรรคจะบานปลายและกระทบกับพรรคหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ทุกอย่างต้องมีกรอบและหลักเกณฑ์ ที่การเมืองบอบซ้ำนั้นเพราะเราไม่ได้อยู่บนหลักการ สิ่งที่เราทำในอดีตก็เคยทำกันมา เราเข้ามาทำถือเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ย่อมมีความลำบากใจมากกว่านักการเมืองในอดีตแน่นอน ซึ่งเราจะระมัดระวังให้มากที่สุด อย่างไรก็ตามเวลาที่เหลืออยู่จะทำหน้าที่ในตำแหน่งรัฐมนตรีให้ดีที่สุด ซึ่งจะต้องรอดูผลงานอีก 3 เดือนที่เหลือ และไม่อยากให้ใช้ความรู้สึกมาวิจารณ์ แต่ควรดูพฤติกรรมและหลักการเป็นตัวตั้ง จากนั้นจะสรุปให้ทราบว่าที่ต้องการทำให้สูงกว่ามาตรฐานของนักการเมืองเดิมๆ นั้น อย่างไรก็ตามขอย้ำว่าจะยุติบทบาทรัฐมนตรีเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เมื่อถึงเวลานั้นจะเดินหน้าทางการเมืองเต็มตัว เวลานี้ยังไม่ถึงเวลาก็จะทำงานในตำแหน่งต่อไปให้ดีที่สุด เพราะเราทั้ง 4 คนรับผิดชอบงานจำนวนมาก ต้องใช้เวลาสะสางงานที่ค้างคาอยู่.