ตามที่รัฐบาลมีนโยบายในการ สร้างความเข้มแข็งทางด้านเศรษฐกิจ ของประเทศในทุกมิติ โดยเน้นผลลัพธ์ไปที่การแก้ไขปัญหาปากท้องแก้ปัญหาความยากจนของชาวบ้าน ที่จะต้องทำคู่ขนานไปกับการเร่งผลักดันเศรษฐกิจ ทั้งในประเทศและการค้าระหว่างประเทศ ในทุกระดับ
กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะเป็นผู้ดูแลในเรื่องเหล่านี้ ได้ตั้งเป้าหมายการทำงานให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาวและสอดคล้องกับเศรษฐกิจโลก ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปมาก มีการนำเอาเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้งาน เข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล
นโยบายการผลักดันการใช้ Big Data ในภาครัฐเป็นหัวใจของการยกระดับการทำงานของภาครัฐสู่อนาคต มีการเชื่อมโยงการบริหารจัดการและประมวลข้อมูลขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นแรงผลักดันที่จะพัฒนาศักยภาพของภาครัฐในการให้บริการ ให้ความช่วยเหลือประชาชน และแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจที่มีความซับซ้อนให้มีความชัดเจน รวดเร็วและตอบโจทย์ปัญหาอย่างเป็นระบบ
ใน ยุคดิจิทัล ที่เศรษฐกิจและสังคมเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วภาครัฐจำเป็นที่จะต้องให้ความสำคัญกับ Big Data ที่จะมีส่วนช่วยในการพัฒนาประเทศ ทั้งในด้านการศึกษา ด้านสาธารณสุข และด้านเศรษฐกิจ ให้เป็นรูปธรรม ซึ่งหัวใจหลักของ Big Data มีความจำเป็นจะต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่องให้เป็นในลักษณะ Real-Time เพื่อต่อยอดสู่การคาดการณ์ความท้าทายทางเศรษฐกิจ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
การใช้ Big Data ถูกนำมาใช้กับการบริหารจัดการ ร้านธงฟ้าประชารัฐ เป็นการนำร่อง ที่สามารถรองรับการชำระเงินด้วย บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้บริการประชาชนที่มีรายได้น้อยจำนวน 11.4 ล้านคนผ่านการประมวลผลจากเครื่อง EDC ตอบโจทย์ในการ สร้างโอกาสให้กับร้านโชห่วย ให้มีความเข้มแข็งพอที่จะแข่งขันกับร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ได้ หลุดพ้นจากการถูกครอบงำโดยธุรกิจขนาดใหญ่
...
ต่อจากนี้ไปรัฐบาลมีเป้าหมายให้ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถใช้จ่ายซื้อสินค้าได้หลากหลายขึ้นผ่านระบบแอปพลิเคชัน หรือถุงเงินประชารัฐ มีเป้าหมายจะขยายให้การบริการได้จำนวน 1 แสนร้านในปีนี้
นอกจากนี้ ข้อมูลจาก Big Data จะเป็นตัวแปรสำคัญในการจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ เพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจในการกำหนดนโยบายและแนวทางการดำเนินงานให้มีความถูกต้องและเกิดผลสูงสุด ต่อภาคประชาชนและภาคเอกชน
การใช้ Big Data มาบูรณาการภายใต้ฐานข้อมูลที่จัดเก็บอย่างเป็นระบบนอกจากจะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไปสู่ยุคดิจิทัลและอำนวยความสะดวกให้กับชาวบ้านในการรับบริการภาครัฐ ยังขับเคลื่อนประเทศไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 อย่างเต็มรูปแบบในอนาคตอันใกล้นี้.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th