ตอนผมยังเป็นเด็กเล็ก เมื่อมีหมาต่างบ้านล้ำเข้ามา หมาบ้านก็รวมหัวกันแบบที่เรียกว่า “หมาหมู่” ขับไล่...เนื้อตัวหน้าตามันก็หมาธรรมดา “หมาอะไร” ผมถาม แม่บอกว่าหมาพันทาง

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน อธิบาย พันทาง เป็นคำเรียกไก่ที่พ่อเป็นอูแม่เป็นแจ้ ต่อมาก็เรียกสัตว์ต่างพันธุ์ที่ผสมพันธุ์กัน หรือสิ่งของหลายอย่างที่แกมกัน

สองสามคืนที่แล้ว ผมฟังผู้รู้ระดับศาสตราจารย์พูดทางวอยซ์ทีวี ท่านหลุดคำว่า “ประชาธิปไตยพันทาง” ที่ฟังแล้วนึกถึง ระบบการปกครองของจีน สิงคโปร์ มาเลเซีย

และแน่นอน ประชาธิปไตยแบบไทยๆ

ถึงวันนี้ทั่วโลกยังไม่มีข้อพิสูจน์เป็นที่ยุติ จะคุยว่าประชาธิปไตยแบบเต็มใบ ดีที่สุด หรือดีกว่า ด้วยเหตุผลว่า การปกครองแบบนี้ไม่มีคนอดข้าวตาย...ก็ไม่ถนัด

จีน ต้นแบบคอมมิวนิสต์ ผู้นำอย่างสี จิ้น ผิง ยังท่องคัมภีร์ คาร์ล มาร์กซ์ ทำเมืองจีนศิวิไลซ์ล้ำหน้า ขนาดซื้อผักอาซิ้มในตลาดสด ถ้าจ่ายเงินหยวน อาซิ้มจะโวยใส่

เพราะเธอถนัดกับการรับเงินทางจอ...มือถือ

ดาราดัง อย่างฟ่าน ปิง ปิง หายเงียบไปสามสี่เดือน โผล่หน้ามาอีกที จึงรู้ว่า เธอถูกรัฐบาลตามล้วงภาษีกว่าสี่พันล้าน จากระบบบัญชีหยิน-หยาง

ใครว่าระบบคอมมิวนิสต์ไม่ดี ถ้าปราบคอร์รัปชัน ได้หนักแน่นชัดเจนขนาดนี้ คนประเทศประชาธิปไตยแบบไทยๆอย่างผม ก็เต็มใจยกนิ้วให้

แต่จะกระอักกระอ่วนมาก หากจะต้องยกนิ้วให้การปกครองในบ้านเมืองของตัวเอง

คำ “พันทาง” ทำให้ผมนึกถึงอีกคำ ที่เผลอคิดว่าเหมือนกัน แต่จริงๆแล้วไม่เหมือนกัน คือ คำว่า “บัณเฑาะก์”

คนที่เคยบวชพระ คงพอนึกได้ ระหว่างพิธีอุปสมบท ก่อนพ่อนาคจะเข้าไปขอบวชจากพระอุปัชฌาย์ จะต้องถูกคู่สวดสองรูปเรียกไปถาม ข้อห้ามที่ทำให้บวชไม่ได้

...

เช่น มนุสโส สิ เป็นมนุษย์หรือเปล่า อนโณ สิ มีหนี้สินหรือเปล่า คำถามหนึ่ง บัณโฑ...ถ้าผมจำไม่ผิด คำแปลว่าเป็นบัณเฑาะก์หรือไม่

ถ้าเผลอตอบ อามะ ภันเต ก็บวชไม่ได้ ต้องปฏิเสธ นัตถิภันเต ไม่เป็น จึงจะบวชเป็นพระได้ ข้อห้ามข้อนี้ ชี้ว่า เรื่องคนหลากหลายทางเพศ มีมาแต่โบร่ำโบราณ

ไม่ใช่เรื่องของคนยุคใหม่ เช่นยุคไทยแลนด์ 4.0 แต่ประการใดเลย

เปิดพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน คำ “บัณเฑาะก์” มีตัว ก.การันต์ แปลตรงตัวว่า กะเทย ยังมีคำแปลผู้รู้ฝรั่ง ว่า “ขันที” จะเป็นกะเทย เป็นขันที ก็หมายถึง คนมีธรรมชาติทางเพศแตกต่างจากหญิงชายธรรมดา ซึ่งแต่ละยุคสมัยมีมุมมองต่างกัน

สามก๊กการเมืองไทยวันนี้ มีเสียงท้า...จากฝ่ายหนึ่งว่า ประกาศแนวทางของพรรคให้เต็มปาก จะอยู่ข้างเผด็จการทหาร หรือจะอยู่ข้างประชาธิปไตย

เสียงท้านี้ น่าจะมุ่งหมายไปถึง ก๊กที่แทงกั๊ก ใครเป็นพรรคใหญ่ โอกาสเป็นรัฐบาล พรรคฉันก็ขอร่วม ถ้าเป็นพรรคขนาดกลางๆที่ปักธงเอาไว้...ใครชนะเอาด้วย...ผมถือว่าเป็นธรรมดาของพรรคพันทาง

แต่ถ้าเป็นพรรคใหญ่...ที่เคยเป็นทางเลือกสำคัญ ท่าทีกั๊กอย่างนี้ ทำให้ผมต้องคิดว่าจะเลือกใช้คำเรียกใดดี พรรคพันทาง หรือว่าพรรคบัณเฑาะก์

บางพรรคการเมืองที่ผมเคยศรัทธา ตั้งแต่เริ่มบทหนีเลือกตั้ง มาจนถึงวันนี้ ยังตั้งหลักไม่ได้ ถนัดแต่บทตีสำนวนโวหาร ส่วนบทนักเลง องอาจงามสง่า พูดคำไหนก็คำนั้น ลุ้นแทบตายก็ยังเล่นไม่เป็น.

กิเลน ประลองเชิง