"ยงยุทธ-จตุพร" ยันไม่ใช่แกนนำเพื่อชาติ แต่ขอเป็นแรงสนับสนุนเชียร์อยู่เบื้องหลัง ขอประชาชนแยกแยะ "เพื่อไทย-เพื่อธรรม-เพื่อชาติ" ไม่ใช่เนื้อเดียวกัน แต่แนวคิดพรรคยังทำเพื่อประชาชน อุบคนนั่งหัวหน้าพรรค ขอรอมติที่ประชุมใหญ่ ไม่ตอบ "ทักษิณ" หนุน รับเคยพบปะพูดคุยกัน
เมื่อวันที่ 14 ต.ค.61 พรรคเพื่อชาติ ประชุมใหญ่สามัญครั้งที่ 2/2561 เพื่อรับรองข้อบังคับพรรคเพื่อชาติและนโยบายพรรคที่ต้องแก้ไขให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ ปี 2560 โดยมีแค่สมาชิกพรรคชุดแรก จำนวน 500 คน เข้าร่วมประชุม แต่ไม่มีผู้ก่อตั้งพรรค แกนนำพรรคเข้าร่วม โดยจะมีการเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคช่วงเดือน พ.ย.นี้ ขณะที่วันนี้พบว่า มีนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตแกนนำพรรคพลังประชาชน รวมถึงแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. อาทิ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช., นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์, นายสุริยา ชินพันธุ์, นายรังษี เสรีชัย, นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก, นายธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ โฆษก นปช. มาร่วมสังเกตการณ์ แต่ไม่ได้เข้าร่วมประชุม
โดย นายจตุพร กล่าวว่า ถึงการเปิดตัวสนับสนุนพรรคเพื่อชาติ การประชุมใหญ่สามัญครั้งที่ 2 อย่างเป็นทางการ โดยย้ำว่าจุดยืนของทั้ง 2 คน ยังเป็นเพียงแรงสนับสนุนและกองเชียร์ให้กับพรรคเพื่อชาติ และปฏิเสธไม่ได้เป็นแกนนำ หรือแคนดิเดตในตำแหน่งสำคัญของพรรค ตามกระแสข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกันเห็นว่าพรรคเพื่อชาติมีเจตนาและอุดมการณ์ทางการเมืองที่เน้นทำเพื่อชาติและเพื่อประชาชน และยืนยันว่าพรรคไม่ใช่ของกลุ่ม นปช. เพราะก่อตั้งมาตั้งแต่ 2556 อีกทั้งพรรคเพื่อชาติ เพื่อไทย และเพื่อธรรม ไม่ใช่เนื้อเดียวกัน จึงขอให้แยกแยะ พร้อมไม่ห่วงว่าฐานเสียงจะแย่งคะแนนกันเองของทั้ง 3 พรรค เพราะเป็นการคิดการเมืองแบบเก่า และพรรคเพื่อชาติจะไม่คาดหวังที่นั่งในสภาอย่างที่หลายพรรคคาดการณ์ เพราะประชาชนยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร ส่วนอนาคตจะจับมือกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ มองเป็นเรื่องอีกไกล
...
ขณะที่ นายยงยุทธ กล่าวว่า จะใช้ประสบการณ์ในงานการเมืองที่เคยทำมา มาส่งเสริมให้พรรคเพื่อชาติประสบความสำเร็จ และเป็นพรรคเพื่อประชาชน ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจมาลงสนับสนุนพรรคการเมือง ได้คิดและนำรายชื่อพรรคมาพิจารณาว่า พรรคใดเหมาะสมกับอุดมการณ์ ซึ่งพรรคเพื่อชาติตรงกับอุดมการณ์จึงมาสนับสนุน ทั้งนี้ไม่หวั่นว่าจะถูกครหา เพราะได้ไตร่ตรองอย่างละเอียดแล้ว พร้อมย้ำว่าไม่คาดหวังตำแหน่งทางการเมืองและในพรรคจะเป็นเพียงแค่ภารโรงและกองเชียร์ที่นั่งชมอยู่บนอัฒจันทร์ และหากพรรคต้องการคำปรึกษาก็ยินดี ส่วนกระแสข่าวจะมีบุคคลทางการเมืองสำคัญหลายคน โดยล่าสุดที่มีชื่อของ นายทนง พิทยะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในสมัยรัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร มานั่งเป็นหัวหน้าพรรคนั้น ทุกอย่างอยู่ที่มติกรรมการบริหารพรรค แต่ใครมาเป็นก็พร้อมสนับสนุน แต่ต้องเข้าใจปัญหาปากท้องของประชาชนเป็นหลัก
นอกจากนี้ นายยงยุทธ ยังกล่าวอีกว่า ก่อนตัดสินใจกลับสู่สนามการเมือง ได้มีโอกาสพบและคุยกับนายทักษิณหลายๆ เรื่อง ส่วนงานการเมืองโดยเฉพาะการลงมาอยู่เบื้องหลังพรรคเพื่อชาตินั้น ไม่ขอตอบ เพราะไม่อยากให้นำไปโยงเป็นประเด็นทางการเมือง สร้างความแตกแยก.