ช่วงนี้มีพรรคการเมืองออกมาโชว์นโยบายกันหลายพรรค ผมเห็นแล้วก็ผิดหวังไม่มีพรรคการเมืองใดสนใจเรื่อง “การศึกษาที่ตกต่ำของเด็กไทย” กันเลย ท่ามกลางการแข่งขันในโลกศตวรรษที่ 21 ซึ่ง “แข่งกันที่ความฉลาด” พูดถึงการศึกษาทีไร ก็มีแต่ความคิดเก่าๆ เช่น เรียนฟรี พักหนี้ นักการเมืองไทยคิดได้เท่านี้จริงๆ
วันก่อนผมเขียนเรื่อง “ทำไมสิงคโปร์ครองใจนักลงทุนทั่วโลก” โดยยกตัวอย่าง เฟซบุ๊ก ที่คนไทยใช้มากที่สุด แต่กลับไปตั้งศูนย์บริหารข้อมูลที่สิงคโปร์ โดยผู้บริหารเฟซบุ๊กให้เหตุผลว่า ตัดสินใจง่ายมาก เพราะสิงคโปร์ไม่มีคู่แข่งเลย ทั้งโครงสร้างพื้นฐานระเบียบกฎเกณฑ์ที่โปร่งใสชัดเจน มีบุคลากรคุณภาพจำนวนมากทุกระดับชั้น
สิงคโปร์ มีวันนี้ได้ก็เพราะ ลีกวนยิว ผู้ก่อตั้งประเทศสิงคโปร์ ได้วางรากฐานของสิงคโปร์ไว้ตั้งแต่วันก่อตั้งประเทศ 53 ปีก่อนว่า จะต้องสร้างประชากรสิงคโปร์ที่มีอยู่ไม่กี่ล้านคน ให้เป็นทรัพยากรที่ทรงคุณค่าที่สุดของชาติ ด้วยระบบการศึกษาชั้นยอด แล้วสิงคโปร์ก็ทำได้สำเร็จ วันนี้สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันอันดับ 3 ของโลก รองจาก สวิตฯ สหรัฐฯ เหนือ ยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน
นักเรียนสิงคโปร์ครองอันดับ 1 ของโลก จากการจัดอันดับของ PISA ครั้งล่าสุดปี 2015 ใน 3 วิชาหลักคือ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ การอ่าน ซึ่งเป็นการจัดอันดับมาตรฐานการศึกษาที่ OECD องค์กรความร่วมมือการพัฒนาเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศที่เจริญแล้ว กำหนดให้เป็นมาตรฐานการศึกษาสากล การจัดอันดับครั้งใหม่จะมีขึ้นในปี 2018
ไปดูอันดับกันอีกสักครั้งนะครับ ด้านคณิตศาสตร์ อันดับ 1 สิงคโปร์ อันดับ 22 เวียดนาม อันดับ 54 ประเทศไทย ด้านวิทยาศาสตร์ อันดับ 1 สิงคโปร์ อันดับ 8 เวียดนาม อันดับ 54 ประเทศไทย ด้านการอ่าน อันดับ 1 สิงคโปร์ อันดับ 30 เวียดนาม อันดับ 57 ประเทศไทย
...
การศึกษาของ เด็กไทย พ่ายแพ้ สิงคโปร์ และ เวียดนาม อย่างไม่เห็นฝุ่น
แม้ นักเรียนสิงคโปร์จะเก่งเป็นที่ 1 ในโลก แต่ผู้นำสิงคโปร์ก็ยังไม่พอใจ วารสาร “การเงินธนาคาร” ฉบับเดือนตุลาคม เปิดเผยในคอลัมน์ World Exclusive ว่า กระทรวงศึกษาสิงคโปร์ ได้ซุ่ม “ปฏิวัติเงียบการศึกษา” ครั้งใหม่ ด้วยการจัดทำ พิมพ์เขียวยุทธศาสตร์การศึกษาของชาติ ครั้งใหม่ชื่อว่า “21st Century Competencies” หรือ “การสร้างสมรรถนะแห่งศตวรรษที่ 21” ซึ่งวารสาร “การเงินธนาคาร” ได้สรุปมาดังนี้
1.การบรรเทาความเครียดให้เด็กและพ่อแม่ ปี 2012 สิงคโปร์ได้ยกเลิกการจัดเกรดคะแนนนักเรียนมัธยมทั่วประเทศ เพื่อลบความรู้สึกว่าโรงเรียนไหนเก่งกว่ากัน และ ตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นไป เด็กที่เรียนจบประถมศึกษา จะได้คะแนนสอบกว้างๆที่ไม่ลงรายละเอียด เพื่อป้องกันผู้ปกครองไปกดดันลูกๆ ให้ได้คะแนนวิชาต่างๆดีขึ้น
2.กำชับให้หน่วยงานด้านการศึกษาปรับระบบการเรียนการสอนใหม่ เพื่อ เน้นให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น กล้าแสดงออกเพื่อแก้ไขปัญหา ข้อสอบต้องเปิดโอกาสให้เด็กได้แสดงความคิดเห็นอย่างเสรี การประเมินผลสอบ ต้องทำควบคู่ทั้งด้านวิชาการและการพัฒนาการทางสังคมของเด็ก
3.ระบบการสอนของครูต้องพัฒนาให้ทันยุคสมัยตลอดเวลาโดยรัฐบาลกำหนดให้ ครูต้องได้รับการอบรมอย่างน้อย 100 ชั่วโมงต่อปี และ ให้เงินเดือนสูงไม่แพ้อาชีพอื่น
4.กำหนดให้การเรียนการสอนในโรงเรียน ต้องสามารถนำไปใช้ได้ในโลกความเป็นจริง โดยรัฐบาลสิงคโปร์ตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าในปี 2023 ทุกโรงเรียนต้องนำวิชาที่สอน ช่วยให้เด็กนำไปใช้ในโลกความเป็นจริงได้อย่างเป็นรูปธรรม
สิงคโปร์ วางแผนการศึกษาเพื่อ สร้างคนยุคศตวรรษที่ 21 กันแล้ว การศึกษาไทยยังคิดได้แค่เรื่อง เรียนฟรี พักหนี้นักเรียน พักหนี้ ครู แล้ว เด็กไทยจะอยู่ในโลกศตวรรษที่ 21 กันอย่างไร เป็นคำถามที่ผมไม่มีคำตอบ แต่ พ่อแม่ผู้ปกครองยุคนี้ จะต้องช่วยกันหาคำตอบ จากการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง เพื่ออนาคตของลูกหลานท่านเอง.
“ลม เปลี่ยนทิศ”