ใคร? จะเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนต่อไป ในการนำทัพสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า ด้วยกติกาใหม่ให้สมาชิกพรรคหยั่งเสียงลงคะแนน โหวตเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ ผ่านแอปพลิเคชัน คาดว่า 11 พ.ย.นี้ จะรู้ผล
งานนี้ต้องลุ้น ระหว่าง 3 แคนดิเดต นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หมายเลข 1 ซึ่งดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มาถึง 4 สมัย เจอผู้ท้าชิง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หมายเลข 2 อดีต ส.ส.พิษณุโลก “มือปราบจำนำข้าว” ผู้เกาะติดความไม่ชอบมาพากลโครงการจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และนายอลงกรณ์ พลบุตร หมายเลข 3 อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
เพื่อเกาะติดสถานการณ์การเมือง กำลังเข้มข้นขึ้น ทางทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ ได้นำศาสตร์ฮวงจุ้ย นำมาวิเคราะห์ความเป็นไปได้ สำหรับบุคลลที่จะมานั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคอันเก่าแก่ของไทย ซึ่งขึ้นอยู่วิจารณญาณและความเชื่อของแต่ละคน โดยอาจารย์มาศ เคหาสน์ธรรม ประธานสถาบันค้นคว้าวิชาการฮวงจุ้ยแห่งประเทศไทย ฉายา "ซินแสไฮเทค" ได้วิเคราะห์ดวงของผู้ชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ ทั้ง 3 คน ดังนี้

...
เริ่มจากผู้สมัครหมายเลข 1 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เกิดวันที่ 3 ส.ค. พ.ศ. 2507 เป็นคนธาตุไม้หยาง เกิดปีมะโรง เป็นพญามังกรที่เติบใหญ่เต็มที่ มีบุคลิกเข้มแข็ง มีจุดยืนมั่นคง เหมือนต้นไม้ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายฤดูกาลจนกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ ไม่หวั่นไหวต่อลมพายุแรง มนุษยสัมพันธ์ดี ซื่อตรง รักศักดิ์ศรี สุภาพ และยึดถือคุณธรรม อีกทั้งยังมีความรู้และการศึกษาดี เพราะเป็นธรรมชาติของของคนธาตุไม้ ที่จะใฝ่รู้ใฝ่เรียน พัฒนาเติบโตทั้งชีวิต
ปีนี้อายุ 55 ปี หากนับแบบจีน ในช่วงวัยชะตาจรใหญ่รอบนี้ เดินราศีบนเป็นธาตุไฟเล็ก ส่วนราศีล่าง เป็นธาตุดินเล็ก ซึ่งเป็นธาตุที่ไม่ถูกกับดวงทั้งตัวบนตัวล่าง ประกอบกับปีนี้เป็นปีจอธาตุดินที่แข็งแรงมากที่สุดในรอบ 60 ปี และชงปีเกิดของนายอภิสิทธิ์โดยตรง ยิ่งเดือนตุลาคมนี้ ยังเป็นช่วงเดือนจอธาตุดินอีก เท่ากับชง 2 เด้ง เพราะฉะนั้นน่าจะมีโอกาสถูกการท้าทายครั้งสำคัญในช่วงนี้ ถือเป็นช่วงที่ดวงตกต่ำ แต่โชคดีที่จะมีการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค ในวันที่ 11 พ.ย. 2561 ซึ่งเปลี่ยนเข้าสู่เดือนธาตุน้ำอย่างเต็มรูปแบบ เหมือนฝนตกมาช่วยหล่อเลี้ยงให้ความชุ่มฉ่ำต้นไม้ที่ทำท่าว่าจะแย่ ให้ฟื้นตัวได้ทันเวลา
“แต่การที่ท่านไม่ได้เปิดเผยเวลาเกิดที่แท้จริงต่อสาธารณะ จึงต้องอาศัยการวิเคราะห์โหงวเฮ้งบนใบหน้าประกอบ ก็จะพบว่าอายุจรบนใบหน้าปีนี้จะอยู่ที่ด้านบนของมุมปาก ฝั่งขวาของเจ้าตัว โดยถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าฝีปากข้างนี้ของนายอภิสิทธิ์ จะเบี้ยวและเล็กกว่าข้างซ้ายเล็กน้อย จึงยืนยันถึงช่วงดวงเกณฑ์ที่ดวงจะสะดุดของเจ้าตัวในปีนี้”

สำหรับผู้สมัครแข่งขันที่ได้หมายเลข 2 คือ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม เกิดวันที่ 1 พ.ค. พ.ศ.2504 และที่น่าสนใจคือ เป็นคนธาตุไม้หยางเหมือนนายอภิสิทธิ์ จึงมีบุคลิกลักษณะโดยรวมคล้ายๆ กัน เป็นคนมีความรู้และวิชาการดี สุภาพ มีเมตตา ชอบยื่นมือช่วยเหลือผู้คน เหมือนต้นไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งให้ร่มเงาสัตว์ต่างๆ แต่มีลำต้นและรกรากที่แข็งแรง มีจุดยืนมั่นคง และเกิดปีฉลู เปรียบเป็นพญากระทิง หลักปีเกิดของ นพ.วรงค์ มีธาตุทอง ดุจเขาเหล็กที่แหลมคม ใช้ทะลุทะลวงขวิดต่อสู้ จนโด่งดังขึ้นมา มีฉายาว่า “มือปราบจำนำข้าว” เพราะเป็นผู้ขุดคุ้ยความผิดปกติไม่ชอบมาพากลต่างๆ ของโครงการนี้ จนในที่สุดทำให้ศาลตัดสินลงโทษผู้ที่กระทำผิดไปหลายคน
ปีนี้ นพ.วรงค์ อายุ 58 ปี หากนับแบบจีน ซึ่งช่วงวัยจรนี้ จะเป็นช่วงที่ดีช่วงสุดท้ายสำหรับ นพ.วรงค์ ที่จะดำเนินไปถึงปีกุน พ.ศ.2562 ธาตุน้ำ จึงทำให้มีโอกาสที่จะพลิกเกมแสดงบทบาทจากพระรอง ขึ้นมาเป็นพระเอกชั่วคราว แต่เดือนต.ค. 2561 ชงหลักเดือนเกิด ซึ่งบ่งบอกถึงปัญหาทั้งในเรื่องสุขภาพและการงาน แล้วค่อยกลับมาดีมากในช่วงเดือนพ.ย. ที่เป็นช่วงเลือกตั้งหัวหน้าพรรคพอดี ซึ่งจะดีต่อเนื่องจนเข้าสู่ปีชวด พ.ศ. 2563 จะเข้าสู่ช่วงเคราะห์ภัยที่รุนแรงของดวงชะตาในรอบ 60 ปี จึงควรใส่ใจระมัดระวังเป็นพิเศษ
“เมื่อวิเคราะห์โหงวเฮ้งบนใบหน้าของ นพ.วรงค์ อายุจรปีนี้จะอยู่ที่แก้มฝั่งซ้าย ค่อนไปทางใบหู ก็พบว่าจุดอายุจรประจำปีนี้ดูสวยงามดี ดูผิวพรรณผุดผ่อง มีสง่าราศี ซึ่งบ่งว่าจะเป็นช่วงที่ดวงชะตาโดดเด่น เป็นที่รู้จัก มีชื่อเสียงขึ้นมาอย่างไม่ธรรมดา กลายเป็นคนที่น่าจับตาที่สุดคนหนึ่งในช่วงนี้ ทั้งที่ตามชื่อชั้นและบารมียังไม่อาจจะเทียบรัศมีกับนายอภิสิทธิ์ได้เลย แต่อยู่ดีๆ ก็ได้รับแรงหนุนจากกลุ่ม กปปส. ที่ต้องการเปิดหน้าประกาศท้าชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรค”

ส่วนหมายเลข 3 นายอลงกรณ์ พลบุตร เป็นคนธาตุดิน บุคลิกลักษณะเป็นขุนเขาที่ตั้งตระหง่าน คือ เป็นคนหนักแน่น มีมานะ มีความมั่นคง เชื่อมั่นตัวเอง มีสัจจะน่าเชื่อถือ ภายนอกดูอ่อนโยน แต่ภายในแข็งแกร่ง ชอบช่วยเหลือผู้คน และมีวิสัยทัศน์กว้างไกล เหมือนกับยืนอยู่บนยอดเขาสูง มองเห็นภาพรวมของสถานการณ์ได้เก่งกว่าคนอื่น
ปีนี้อายุ 62 ปี แบบจีน อยู่ในช่วงชะตาจรรอบใหญ่ ที่มีทั้งไม่ดีและดี คือ ราศีบนเป็นไม้ใหญ่ ซึ่งพิฆาตดวง จะมีปัญหาเรื่องสุขภาพเจ็บป่วย ส่วนในด้านที่ดี คือราศีล่างเป็นธาตุไฟ ซึ่งเป็นธาตุให้คุณ ส่งเสริมให้มีชื่อเสียง ได้รับตำแหน่ง และได้รับความช่วยเหลือจากผู้หลักผู้ใหญ่ แต่ว่าปีจรปัจจุบันเป็นธาตุดิน เข้ามาทับดวง เพิ่มขึ้นมาเป็น 2 เท่า
“หากตรวจสอบโหงวเฮ้งบนใบหน้าของนายอลงกรณ์ อายุจรประจำปีนี้จะอยู่บริเวณใต้ริมฝีปากฝั่งซ้าย ซึ่งมีริ้วรอยของผิวหนังที่ไม่เรียบ เทียบกับอีกข้างหนึ่ง บ่งบอกให้ทราบว่าโชคชะตาปีนี้ คงไม่ใช่ปีจะพาไปถึงดวงดาวได้ง่ายๆ”
อย่างไรก็ตาม อาจารย์มาศ ได้ทิ้งไว้ว่า งานนี้เป็นการแข่งขันแบบสุภาพบุรุษทั้ง 3 คน คือ แข่งกันแบบผู้ดี เอาวิสัยทัศน์และนโยบายมาแข่งขันกัน ไม่ใช่การเอาเรื่องร้ายๆ มาสาดใส่กัน ซึ่งจะสังเกตเห็นตัวอย่างตั้งแต่วันรับสมัคร ที่นายอลงกรณ์ ไม่สามารถจัดหาเอกสารยืนยันที่ผู้สมัครจะต้องมี ส.ส.เก่า จำนวน 40 คนรับรอง ปรากฏว่านายอภิสิทธิ์ และนพ.วรงค์ ได้ช่วยกันแบ่งเอกสารรายชื่อยืนยันส่วนของตนให้ จึงได้ทำให้นายอลงกรณ์ มีสิทธิ์ลงแข่งขันในครั้งนี้ ดั่งคำว่า “มีคู่แข่งได้ แต่อย่ามีศัตรู” ซึ่งเป็นภาพดีๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมไทยที่ควรเอาไว้เป็นแบบอย่าง.