"บิ๊กป้อม" เชื่อเหตุกราดยิงคู่อริประตูน้ำแค่ทะเลาะ ยันไม่ใช่กลุ่มมาเฟีย ปัดยังไม่รู้ เพจ CSI LA อ้างฝรั่งใกล้ชิด "บิ๊กโจ๊ก" รีดไถบิตคอยน์
เมื่อวันที่ 9 ต.ค.61 ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีการกราดยิงคู่อริ จนเป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตบริเวณประตูน้ำ กทม. ว่า ก็มีการออกหมายจับไปแล้ว 1 คน กำลังสืบสวนสอบสวน ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าผู้ก่อเหตุเป็นลูกน้องของผู้กว้างขวางย่านประตูน้ำ-บางซื่อนั้น เรื่องนี้ยังตอบไม่ได้ เป็นเรื่องตัวบุคคลต้องให้ตำรวจสอบสวนว่าเป็นกลุ่มไหน แต่สิ่งสำคัญก็ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว และประชาชนให้มีความมั่นใจ ทั้งนี้ได้กำชับไปยัง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ให้เร่งกวาดล้างอาวุธสงครามที่นำมาใช้ก่อเหตุ
เมื่อถามว่า กลุ่มมาเฟียยังมีอยู่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ส่วนใหญ่เป็นเหตุการทะเลาะกัน เป็นพวกเดียวกันแล้วมาก่อเหตุ คงไม่ใช่กลุ่มมาเฟียมาก่อเหตุ ขณะนี้กลุ่มมาเฟียไม่มีแล้ว เพราะได้กวาดล้างไปจำนวนมาก ส่วนการดูแลเยียวยานักท่องเที่ยวที่บาดเจ็บและเสียชีวิตนั้น เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ กับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ต้องไปดูแลเยียวยา
พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงนโยบายการกวาดล้างต่างชาติที่อยู่ผิดกฎหมายภายใน 1 เดือนว่า กำลังดำเนินการอยู่ ขณะนี้จับได้พันกว่าคนแล้ว แต่ยังไม่ทราบข้อมูลที่แน่ชัดว่ามีจำนวนมากน้อยแค่ไหน เราจะเน้นต่างชาติอยู่ในประเทศเกินกำหนดวีซ่าที่ให้ไว้ ส่วนจะมีมาเฟียต่างชาติอยู่เบื้องหลังหรือไม่นั้น ส่วนใหญ่กลุ่มต่างชาติเข้ามาทำมาหากินทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย ส่วนจะมีผู้ให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลังหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ต้องสืบสวน เพราะมีการอาศัยอยู่เกินเวลาที่กำหนดและเราก็ไม่ได้ตรวจสอบ ซึ่งไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่มีผลประโยชน์ต่อเรื่องนี้หรือไม่ ซึ่งอาจจะขี้เกียจหรือหย่อนยานในการปฏิบัติหน้าที่เพราะสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ยังขาดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานกว่าพันคน
...
เมื่อถามกรณีทั้งเพจ CSI LA ระบุว่า มีฝรั่งชาวต่างชาติอ้างตัวเป็นตำรวจมีความใกล้ชิดกับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาการผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เรียกเงินบิตคอยน์แลกกับความปลอดภัยครอบครัวที่อยู่เมืองไทย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่เห็นก็ว่ากันไป พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เขาเป็นคนทำงาน ถือเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องโดน ซึ่งก็ต้องตรวจสอบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่.