สนช.ถกมาราธอน พ.ร.บ.น้ำ 7 ชั่วโมงครึ่งไม่จบ เจอ สนช.สายเศรษฐกิจ ค้านยิบ ขัด รธน.ด้าน "พรเพชร" สั่ง กมธ.ทบทวนใหม่ นัดถกต่อ 4 ต.ค.นี้

เมื่อวันที่ 28 ก.ย.61 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ที่มี นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช.คนที่ 1 เป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ พ.ศ… ตามที่ กมธ.วิสามัญ ที่มี พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ เป็นประธาน พิจารณาเสร็จแล้ว มีการแก้ไข 63 มาตรา จากทั้งหมด 102 มาตรา มีสาระสำคัญคือ 1.โครงสร้างองค์กรบริหารจัดการน้ำ ให้มีสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.) เป็นสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(กนช.) ตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 46/2560 ที่หน้าที่ผู้กำกับนโยบาย ให้ส่วนราชการอื่นที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ปฏิบัติ 2.กำหนดให้มี ผังน้ำ หลักการคือ หากจะมีการใช้ประโยชน์ที่ดินที่อยู่ในระบบทางน้ำตามผังน้ำจะต้องไม่ต้องเกิดการเบี่ยงเบนทางน้ำหรือกีดขวางการไหล ช่วยป้องกันน้ำแล้งน้ำท่วม จะทำให้เห็นถึงเส้นทางการระบายน้ำ และ 3.กำหนดค่าธรรมเนียม การขอใบอนุญาตใช้น้ำประเภทที่สอง 10,000 บาท สำหรับการอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว การผลิตไฟฟ้าและประปา และน้ำประเภทที่สาม 50,000 บาท สำหรับกิจการขนาดใหญ่ที่ใช้น้ำมาก หรือก่อให้เกิดผลกระทบข้ามลุ่มน้ำ โดยรายละเอียดการใช้น้ำแต่ละประเภทให้ นายกฯกำหนดให้กฎกระทรวง โดยต้องศึกษาและรับฟังความเห็นก่อนออกเป็นกฎกระทรวงต่อไป

จากนั้นที่ประชุมอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง สมาชิก สนช.โดยเฉพาะสายเศรษฐกิจ เช่น นายเจน นำชัยศิริ ไม่เห็นด้วยในหลายประเด็น เช่น มาตรา 6 วรรคสาม ที่กำหนดให้ท้องถิ่นรับผิดชอบควบคุมดูแลบำรุงรักษาทรัพยากรน้ำ พร้อมกำหนดโทษ หมวด 4 ใครฝ่าฝืนมีโทษปรับ 60,000 บาท จะลงโทษประชาชนที่ใช้ชีวิตกับน้ำได้อย่างไร อีกทั้งจะเกี่ยวข้องกับ ม.39 ที่แบ่งการใช้ทรัพยากรน้ำสาธารณะ 3 ประเภท และ ม.57 กรณีเกิดภาวะน้ำแล้งอย่างรุนแรงหรือไม่ จะก้าวล่วงไปถึงน้ำของเอกชนด้วยหรือไม่ ถ้าแบบนี้ถือเป็นการให้อำนาจครอบคลุมไปหมด เกรงว่าจะขัดรัฐธรรมนูญ

...

ด้าน กมธ.ยืนยัน ไม่ปรับแก้ พร้อมชี้แจงว่า จำเป็นต้องมีใช้ปราบปรามผู้ที่กระทำผิด ท้องถิ่นก็มีส่วนยึดโยงกับประชาชน กฎหมายนี้จะเป็นหลักประกันให้ใช้น้ำกันอย่างเท่าเทียม ขั้นตอนก่อนออกกฎเทศบัญญัติก็ต้องรับฟังความคิดเห็นประชาชน และในมาตรา 39 สมาชิก สนช.ทักท้วง เกี่ยวกับคำนิยามของคำว่า การอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวว่า ครอบคลุมแค่ไหน อย่างไรก็ตามประเด็นที่เคยระบุว่า จะมีการเก็บภาษีน้ำ สำหรับเกษตรกรหรือเลี้ยงสัตว์นั้นถูกตัดออกไปแล้ว พร้อมเพิ่มมาตรา 40/1 ระบุชัดว่า ห้ามเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าวด้วย

ต่อมา เวลา 17.15 น.ที่ประชุมพิจารณาถึงบทเฉพาะกาล ทว่าก็ยังมีประเด็นติดขัดเช่นเดียวกับบางมาตราก่อนหน้านั้น นายสมชาย แสวงการ เลขานุการวิป สนช. จึงเสนอต่อที่ประชุมให้ กมธ.วิสามัญ นำประเด็นต่างๆ ที่ สนช.อภิปรายไม่เห็นด้วยไปปรับปรุงก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาอีกครั้ง

ด้าน นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.ทำหน้าที่ประธานการประชุม จึงแจ้งให้ กมธ.วิสามัญไปพิจารณาทบทวนในมาตราที่ยังมีสมาชิกสนช.ติดใจ โดยเฉพาะมาตรา 4 มาตรา 6 มาตรา 9(6) มาตรา 23/1 มาตรา 39 มาตรา 45 มาตรา 80(1) มาตรา 95(4) และมาตรา 97(4) ให้เรียบร้อย พร้อมทั้งนัดประชุม ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ในวาระ 2 อีกครั้ง ในวันที่ 4 ต.ค.เวลา 09.00 น. ก่อนจะสั่งพักการประชุมเวลา 17.30 น.รวมเวลาการอภิปราย กว่า 7 ชั่วโมงครึ่ง