เมื่อคนที่รักกลายเป็นคนที่ชัง น้ำต้มผักที่เธอเคยบอกหวาน มาวันนี้เธอบอกขมจนเบือนหน้าหนี และท่าทีที่เธอเคยอ่อนหวาน กลายเป็นความขึงขังทำใจฉันช้ำชอก ทีมข่าวเจาะประเด็น ย้อนสัมพันธ์รักแนบแน่น “แม้ว-ป้อม” รู้ไหมวันนั้น เขารักกันมากแค่ไหน....
ว่ากันว่า ตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ถือเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญอย่างมาก ในด้านความมั่นคง และในทางการเมืองที่รัฐบาลจำเป็นต้องได้คนที่เชื่อใจและไว้ใจได้ขึ้นมาดำรงตำแหน่ง ซึ่งปรากฎชื่อ ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นแคนดิเดตผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่ ในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี
จนกระทั่ง พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งโยกย้ายเป็นไปตามโผ คือ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ญาติผู้พี่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี(ตำแหน่ง ณ ขณะนั้น) ไปดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) และบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ (เตรียมทหาร รุ่นที่ 6) ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ขึ้นมาดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการทหารบกแทน
...
ณ เวลานั้น หากดูจากผลงานของ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ที่ผ่านมา ก็บ่งชี้ให้เห็นว่า ไม่ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ประทับใจสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากปัญหาไม่ได้ทุเลาเบาบางลง กลับยิ่งแต่ทวีความรุนแรงซ้ำแล้วซ้ำอีก โดยที่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ในฐานะที่รับผิดชอบด้านความมั่นคง ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้
ณ เวลานั้น พล.อ.ประวิตร ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อ ภายหลังเข้ารับตำแหน่งยังไม่ครบ 1 เดือน ซึ่งเขายอมรับว่า ความรู้สึกเมื่อได้รับการแต่งตั้งโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งนี้ “มันเหมือนฝัน”
โดยเป็นที่รู้กันในกองทัพว่า พล.อ.ประวิตร เป็นน้องสุดที่รักของ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หรือ “บิ๊กเหวียง” อดีต รมว.กลาโหม ทำให้ได้รับการสนับสนุนดำรงตำแหน่งดังกล่าว
เรื่องนี้เจ้าตัวบอกว่า ได้รู้จักกับ พล.อ.เชษฐา สมัยที่รับราชการเป็นผู้บังคับกองพันอยู่ที่ จ.ปราจีนบุรี แล้ว พล.อ.เชษฐา ย้ายมาเป็นเสนาธิการ กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ แต่จะคบหากับ พล.อ.เชษฐา แค่เพียงเรื่องงานอย่างเดียว ไม่มีนอกมีใน ซึ่งเขายอมรับว่า พล.อ.เชษฐาติดตามการทำงานของเขา และให้ความรักในตัวเขา
แต่ พล.อ.เชษฐาก็ไม่ได้เสนอชื่อเขาเข้ารับตำแหน่ง หากแต่เป็น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีต่างหากที่ “เลือก” เขา
ถ้าจะว่าไปแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่มีทางเลือกมากไปกว่า จำยอมตามข้อเสนอของ พล.อ.เชษฐา เพราะไม่มีคนที่ตัวเองเห็นว่า เหมาะสมอยู่ในมือ ขณะเดียวกัน ก็คงจะพอรับรู้สถานการณ์อยู่บ้างว่า เวลานี้เริ่มมีคลื่นใต้น้ำก่อตัวขึ้นในกองทัพ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสยบเอาไว้ ก่อนที่จะมีปัญหายุ่งยากตามมา
มิหนำซ้ำ ยังช่วยให้ภาพลักษณ์ในสายตาสาธารณชน เกิดความรู้สึกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ยึดติดกับผลประโยชน์ญาติพี่น้อง ไม่สักแต่เลือกญาติพี่น้องมานั่งเก้าอี้สำคัญ และที่สำคัญ ยังได้คนมาดับไฟใต้อย่างเข้าขากับ พล.อ.เชษฐาอีกด้วย
และอย่าลืมว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะทำอะไรสักอย่าง ต้องยิงปืนนัดเดียวให้ได้นกทั้งฝูง ไม่ใช่แค่สองตัว...
ส่วนวินาที "เกาะโต๊ะ" ขอเก้าอี้ ผบ.ทบ.จะจริงเท็จประการใด
คงไม่มีใครรู้ดีไปกว่า "แม้ว-ป้อม" อดีตคนเคยรัก...
- อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
มือกุมเป้า! ย้อนวันวานอ่อนหวาน ทักษิณ-บิ๊กจ๊อด ลั่นมีวันนี้เพราะพี่ชาย