"อภิสิทธิ์" ติง "วิษณุ" ขู่เลื่อนเลือกตั้ง แนะศึกษาการเมืองใหม่ ย้ำ ปชป.ไม่ร่วม หากหนุน "บิ๊กตู่" นั่งนายกฯ ไม่ได้เสียงส่วนใหญ่ ชูธงนำการปฏิรูป ทั้งที่รู้ว่าเสี่ยงพ้นผู้นำพรรค เชื่อขนคนสมัครสมาชิกพรรคเพื่อป่วน-ยึดพรรคไม่ง่าย ดับฝัน "อลงกรณ์" จะลงชิงหัวหน้า ปชป.ต้องมี 40 อดีต ส.ส.รับรอง
เมื่อวันที่ 10 ก.ย.61 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในรายการต้องถาม ทางสถานีโทรทัศน์ช่องฟ้าวันใหม่ ถึงกรณี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า หากพรรคการเมืองคิดว่าเวลาในการใช้หาเสียงไม่พอ ก็ให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไปว่า เป็นความคิดที่ผิดมหันต์ ที่คิดว่าพรรคการเมืองมีหน้าที่แค่หาเสียงและเลือกตั้ง เพราะพรรคการเมืองต้องทำหน้าที่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะมีเลือกตั้งหรือไม่ ส่วนการเมืองหลังการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี 2562 จะทำให้ประเทศไทยเดินหน้าได้หรือไม่นั้น ตนมองว่ามีเงื่อนไขหลายข้อ อาทิ เลือกตั้งต้องเสรีเป็นธรรม ส.ว.ชุดใหม่จะต้องเคารพเจตนารมณ์ของประชาชน ซึ่งแสดงออกผ่านการเลือกตั้ง
เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์จะเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ หากประวัติศาสตร์ซ้ำรอยรัฐธรรมนูญปี 2521 โดยได้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นนายกฯ เหมือน พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากไม่ได้มาจากเสียงข้างมากของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ก็คงจะไม่เข้าร่วม และตนย้ำว่า หาก ส.ว.ไม่ฟังเสียงประชาชนเลย ก็สุ่มเสี่ยงซ้ำรอยพฤษภาทมิฬ สำหรับการปฏิรูปการเมืองเนื่องจากใกล้เลือกตั้ง ตนมองว่ามีการปฏิรูปการเมืองที่น้อยมาก และกติกาที่ คสช.กำหนดไว้ ไม่ได้ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของการปฏิรูปทางการเมืองเลย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีการเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ประชาธิปัตย์ หลังการคลายล็อกพรรคการเมือง ว่า การปฏิรูปการเมืองที่ตอนนี้แทบจะไม่มีอะไรก้าวหน้าเลย พรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันการเมือง จึงคิดว่าควรเป็นแบบอย่างและเป็นผู้นำในการให้สมาชิกมีส่วนร่วม ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญในการปฏิรูปอย่างแท้จริง ซึ่งตอนที่ตนเสนอ คนจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้บริหารก็ไม่ค่อยเห็นด้วย กลัวว่าจะซับซ้อนหรือเสี่ยง ซึ่งคนที่เสี่ยงคือตน แต่ก็อยากทำ เพราะอยากเป็นผู้นำสถาบันการเมืองในระบอบประชาธิปไตย
...
เมื่อถามว่า จะเปิดให้มีหยั่งเสียงจากสมาชิกพรรค เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคตามที่ระบุ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นเห็นพ้องตรงกันจะเปิดให้สมาชิกพรรคทุกคนมีสิทธิ์เลือกหัวหน้าพรรค โดยการหยั่งเสียงผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนปัญหาว่า จะมีการขนคนสมัครสมาชิกเพื่อป่วนหรือยึดพรรคหรือไม่นั้น คิดว่าทำไม่ง่าย เพราะการสมัครสมาชิกต้องแสดงตัวและพรรคก็ต้องตรวจสอบ ซึ่งถ้าทำแบบไม่สุจริตก็ผิดกฎหมายด้วย
"หากพรรคการเมืองอื่นส่งคนเข้ามาสมัครสมาชิกประชาธิปัตย์จริง ผมว่าทำให้พรรคตัวเองก่อนจะดีกว่าหรือไม่ ทั้งนี้ขอเชิญชวนผู้ที่มีอุดมการณ์เดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ ขอให้มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคให้มาก จะได้กันไม่ให้ผู้จ้องป่วนมาป่วนได้ และหากการเลือกตั้งอิเล็กทรอนิกส์เกิดป่วน เราก็ต้องมีวิธีการสงวนสิทธิ์" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงการสมัครเป็นหัวหน้าพรรคว่า ตามกฎหมายกำหนดให้การเลือกหัวหน้าพรรคต้องทำในที่ประชุมใหญ่ ส่วนคุณสมบัติการสมัครหัวหน้าพรรคตามข้อบังคับพรรค ต้องเป็นสมาชิกพรรคอย่างน้อย 5 ปี หรือไม่เช่นนั้นอาจต้องเป็น ส.ส. หรือดำรงตำแหน่งการเมืองที่พรรคส่งไปเป็น หรือถ้าในกรณีขาดคุณสมบัติจริงๆ ที่ประชุมใหญ่สามารถยกเว้นคุณสมบัติด้วยคะแนน 3 ใน 4 ได้ เพราะคนนอกก็มีสิทธิ์สมัคร ซึ่งตอนนี้เบื้องต้นตกลงกันว่าต้องแก้ไขข้อบังคับพรรคให้เปิดกว้าง เพียงแต่หลักเกณฑ์ในการได้รับเสนอชื่อต้องเข้มกว่าเดิม เช่น คนในหรือผู้มีคุณสมบัติต้องมีอดีต ส.ส.20 คนในการรับรอง ส่วนคนนอกหรือคนที่คุณสมบัติไม่ครบ อาจต้องมีอดีต ส.ส. 40 คน ในการรับรอง เป็นต้น
เมื่อถามย้ำว่า นายอลงกรณ์ ที่ประกาศตัวจะลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคด้วย ถือว่าเป็นคนในหรือคนนอก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เมื่อพ้นจากสมาชิกภาพสมาชิกพรรคไปแล้ว ก็ต้องถือว่าไม่มีคุณสมบัติ แต่ถ้าอยากจะกลับเข้ามาได้รับการเสนอชื่อเป็นหัวหน้าพรรค ก็ต้องใช้เกณฑ์ที่เข้มกว่า อาจจะใช้จำนวน ส.ส.40 คน และสมาชิกอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งต้องไปเขียนไว้ในข้อบังคับ และหากจะเป็นสมาชิกพรรคต้องเป็น 5 ปี