ครม.เห็นชอบแก้ไขร่าง ก.ม.เลือกตั้งท้องถิ่น 6 ฉบับ เพิ่มอำนาจ กกต. คาดเสร็จ พ.ย.ส่งทูลเกล้าฯ เผย กทม.ยังไม่ตัดทิ้ง ส.ข.โยน มท.ชี้ขาด ชี้จัดหลังเลือกตั้งใหญ่แล้ว 3 เดือน เหมาะสมคิวท้องถิ่นกาบัตร
เมื่อวันที่ 4 ก.ย.61 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุม ครม.ว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบกับร่าง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น และร่างกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) รวมทั้งสิ้น 6 ฉบับ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ซึ่งเป็นร่าง พ.ร.บ.ที่เป็นกฎหมายกลาง เรื่องการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น และผู้บริหารท้องถิ่น 1 ฉบับ ส่วนอีก 5 ฉบับเป็น พ.ร.บ.ที่ลงรายละเอียดการเลือกตั้งในแต่ละระดับ อาทิ สภาตำบล องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) 1 ฉบับ เทศบาล 1 ฉบับ องค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 ฉบับ กรุงเทพมหานคร 1 ฉบับ และเมืองพัทยา 1 ฉบับ โดยเป็นการแก้ไขให้สอดคล้องรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่มาตรา 252 กำหนดว่า ให้สมาชิกสภาท้องถิ่นต้องมาจากการเลือกตั้ง ผู้บริหารท้องถิ่นต้องมาจากการเลือกตั้งหรือมาจากความเห็นชอบของสภาท้องถิ่น ในกรณีที่เป็น อปท.รูปแบบพิเศษ จะมาโดยวิธีอื่นก็ได้ แต่ต้องคำนึกถึงการมีส่วนร่วมของประชาชน และสอดคล้องกับกฎหมายที่ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตด้วย
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า สาระสำคัญได้แก่ 1.ตามกฎหมายเดิมการจัดการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น อปท.จะเป็นผู้ดำเนินการ แต่กฎหมายฉบับใหม่ระบุให้ กกต.เป็นผู้รับผิดชอบ แต่สามารถมอบให้ อปท.หรือกระทรวงมหาดไทย (มท.) เป็นผู้จัดการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นได้ 2.ในกฎหมายฉบับนี้ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในส่วนของสมาชิกสภาเขต (ส.ข.) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร หมายความว่ายังคงมี ส.ข.อยู่เช่นเดิม เพียงแต่ว่าในเวลานี้ ส.ข.ทุกเขตหมดวาระทั้งหมดแล้ว แต่ยังไม่มีการอนุญาตให้มีการเลือกตั้ง โดยต้องรอการตัดสินใจจากมหาดไทยอีกครั้งว่า จะยังให้มี ส.ข.อยู่หรือไม่ อย่างไรก็ตามต้องมีการร่างกฎหมายใหม่เป็นฉบับที่ 7 เพื่อยกเลิกในวันข้างหน้าต่อไป 3.กฎหมายฉบับนี้กล่าวระบุว่า การได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นต้องได้รับคะแนนเสียงมากกว่าคะแนนเสียงที่ไม่เลือกผู้ใด
...
4.กกต.สามารถตรวจสอบการเลือกตั้งให้เป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมในเชิงรุก โดยมีสิทธิในการตรวจสอบเมื่อได้รับข้อมูล ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะมีการทุจริตเกิดขึ้น โดยไม่ต้องรอให้มีคนมาร้องเรียน จากเดิมที่ต้องรอให้มีผู้มาร้องเรียนก่อน 5.มีการแก้คุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ต้องมีความสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ กรณีที่มีผลประโยชน์ ยึดโยง หรือมีชนักติดหลัง โดยมีการกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้มีการทุจริตในส่วนนี้ได้ โดยยังคงมีวาระ 4 ปีเช่นเดิม นอกจากนี้ยังกำหนดหน้าที่ของ อปท.แต่ละแห่งเพิ่มเติม เพื่อป้องกันไม้ให้ขัดกับกฎหมายของหน่วยงานอื่น จากเดิมที่มีบางข้อกฎหมายที่ยังไม่ลงตัวระหว่าง อปท.และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พร้อมให้อำนาจ อปท.ในการดูแลจัดการจราจร โดยต้องจ่ายเงินสนับสนุนให้แก่โรงพักและสถานีตำรวจภูธรในพื้นที่ โดยเราจะกำหนดหน้าที่ของ อปท.ให้สามารถจ่ายงบประมาณสำหรับดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด แต่ต้องเป็นรายการที่ มท.ได้ออกระเบียบไว้แล้วเท่านั้น
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า มีการเปลี่ยนแปลงการแบ่งเขตการเลือกตั้งในบางพื้นที่ อาทิ ในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีการแบ่งเขตการเลือกตั้ง โดยการเพิ่มจำนวนคนจาก 100,000 คน เป็น 150,000 คน หากเป็นระดับหมู่บ้านในต่างจังหวัดนั้นมีการกำหนดจำนวนคนไว้ 25 คน ซึ่งไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง เนื่องจากมีบางหมู่บ้านที่มีคนไม่ถึง 25 คน จึงกำหนดให้สามารถรวมหมู่บ้านเป็นเขตเลือกตั้งเดียวกันได้ และมีการกำหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง แต่เดิมที่กำหนดให้ต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน และต้องเสียภาษีบำรุงท้องถิ่นติดต่อกันอย่างน้อย 3 ปี ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ตัดเรื่องการเสียภาษีระดับท้องถิ่นออกไป เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญและกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.ในภาพรวม
โดยหลังจากนี้จะได้ส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาต่อไปภายในเดือน ก.ย.นี้ คาดว่าในเดือน พ.ย.พิจารณาแล้วเสร็จ ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป และกระบวนการทั้งหมดแล้วเสร็จในเดือน ก.พ. หากกระบวนการของ กกต.แล้วเสร็จ คาดว่าอาจจะพอดีกับโรดแม็ปที่ระบุวันเลือกตั้งวันที่ 24 ก.พ.62 อย่างไรก็ตามมีข้อตกลงที่เคยคุยกันไว้ระหว่าง กกต.ชุดเก่าและชุดใหม่ อยากให้การเลือกตั้งระดับท้องถิ่นมีระยะห่างกับการเลือกตั้งระดับชาติ 3 เดือน เพื่อให้มีเวลาในการเตรียมการ โดยจัดหลังเลือกตั้งใหญ่ แต่คงไม่จัดทีเดียวพร้อมกันทั้งประเทศได้ แต่ต้องมีการแบ่งเป็น 2 รอบ โดยรอบแรกมีประมาณ 40 จังหวัด ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเขตการเลือกตั้งไปจากเดิม ในส่วนของจังหวัดที่เหลือที่มีการเปลี่ยนแปลงเขตการเลือกตั้งนั้นจะจัดขึ้นตามมา
"ในส่วนของการตรวจสอบทุจริตเดิมกฎหมายกำหนดให้ กกต.มีสิทธิเพิกถอนผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ทั้งก่อนและหลังการประกาศผล แต่กฎหมายฉบับนี้ระบุว่า ช่วงก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการทุจริต กกต.สามารถเพิกถอนสิทธิได้ 1 ปี แต่ถ้าหลังประกาศผลการเลือกตั้งแล้ว กกต.พบข้อมูลยืนยันได้ว่ามีการทุจริตการเลือกตั้ง ให้ยื่นคำร้องไปยังศาลอุทธรณ์ หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นจริง กกต.มีสิทธิเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งเป็นระยะเวลา 10 ปี พร้อมกำหนดให้ผู้ทุจริตรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งด้วย” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุ.