เพื่อไทย ร้อง กกต.สอบซื้อเสียงล่วงหน้าโคราช ยัน ไม่ได้ชี้เป้าเพื่อยุบพรรค เรียกร้อง คสช.ตรวจสอบโดยไม่เลือกปฏิบัติกับพรรคตรงข้ามรัฐบาล “สรอรรถ” แกนนำภูมิใจไทยแอบคุย พท.ก่อนยื่น

เมื่อเวลา 09.30 น.ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง นายโกศล ปัทมะ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สมาชิกพรรคเพื่อไทย เข้ายื่นคำร้องและเอกสารเพิ่มเติม ขอให้ตรวจสอบกรณีกลุ่มการเมืองและพรรคการเมือง ดำเนินการในลักษณะทุจริตซื้อเสียงล่วงหน้าในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา

โดย นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ก่อนหน้าที่ได้ยื่นเอกสารหลักฐานมาบางส่วนต่อ กกต.ไปแล้ว จึงมายื่นเพิ่มเติม โดยประชาชนในพื้นที่ได้ร้องเรียนถึงพฤติกรรมของกลุ่มการเมืองและพรรคการเมือง ที่มีลักษณะคล้ายกัน คือติดต่อไปยังอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เพื่อขอบัตรประชาชน บางส่วนอ้างว่าเพื่อไปทำบัตรสวัสดิการคนจนที่ตกหล่น บางส่วนอ้างงว่าเพื่อไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองหนึ่ง ขณะที่อีกบางส่วนอ้างว่าเพื่อไว้สมัครเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองที่กำลังจะจัดตั้งขึ้น ซึ่งเห็นว่าการกระทำในลักษณะนี้เข้าข่ายการซื้อเสียงล่วงหน้า ผิดกฎหมายหรือไม่ จึงได้นำข้อมูลมาร้องเรียนต่อ กกต.

นายอนุสรณ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาพรรคภูมิใจไทย ระบุว่า จะมีการฟ้องคดีกับผู้ที่กล่าวหาพรรคภูมิใจไทย ให้สมาชิกพรรคไปเก็บบัตรประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ว่า พรรคเพื่อไทย เป็นสถาบัน เมื่อได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ จะเก็บเรื่องไว้ก็ไม่ได้ จะถือว่าทำหน้าที่ไม่สมบูรณ์ และเราเห็นว่าในพื้นที่มีการใช้กลยุทธ์ อาจจะจงใจทำให้ประชาชนสับสน บิดเบือน หรือเกิดสื่อสารที่ผิดพลาด แต่สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดความวุ่นวายในพื้นที่โคราช และคาดว่าจะมีในอีกหลายจังหวัด

...

เมื่อถามว่า เหตุเกิดขึ้นในพื้นที่นครราชสีมา ซึ่งเป็นพื้นที่ทหารได้อย่างไร นายอนุสรณ์ กล่าวว่า เป็นคำถามของชาวโคราช เพราะกลุ่มหนึ่งสามารถดำเนินการได้ ทำให้เกิดคำถามว่าเป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่ เพราะอีกพรรคหนึ่งที่ตรงกันข้ามกับรัฐบาลทำกลับถูกดำเนินการ และคิดว่าทหารก็ควรเข้าไปตรวจสอบ

“ตอนนี้มีความพยายามที่จะตัดตอนว่าเป็นการกระทำของพรรคการเมืองหนึ่งพรรคการเมืองเดียว ซึ่งไม่ขอระบุชื่อ แต่พรรคการเมืองนี้ได้มีการแถลงข่าวไปในพื้นที่ ซึ่งไม่อยากโทษใคร แต่ในเมื่อพรรคเพื่อไทยได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ว่ามีการดำเนินการในหลากหลายรูปแบบ จึงต้องนำข้อมูลทั้งหมดมาร้องต่อ กกต. โดยเราไม่ต้องการร้องเพื่อยุบพรรคใคร หรือชี้ว่าใครถูกใครผิด แต่เมื่อเห็นว่ามีพฤติการณ์ในลักษณะนี้จริง มีผู้ได้รับผลกระทบจริง ส่วน กกต.จะไปดูข้อกฎหมายที่เกี่ยวเนื่องกับ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ว่ากากระทำดังกล่าวผิดกฎหมายหรือไม่ และบอกต่อพรรคการเมืองเพื่อให้การเลือกตั้งยุติธรรมจริงๆ” นายอนุสรณ์ กล่าว

นายประเสริฐ กล่าวว่า การเก็บบัตรประชาชน มีการเก็บใน 20 อำเภอ จาก 32 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมา เช่น ครบุรี เสิงสาง พิมาย บัวใหญ่ ด่านขุนทด ปักธงชัย วังน้ำเชียว และ ปากช่อง ทำให้ประชาชนเกิดความสับสนว่า เอาบัตรประชาชนไปทำอะไร และมีข้อมูลว่าคนที่ไปรวบรวมบัตรประชาชนมาถ่ายสำเนาไว้ จะได้เงินเป็นการตอบแทนหัวละ 10 บาท และถ้าเจ้าของบัตรสมัครเป็นสมาชิกพรรคก็จะได้รับค่าตอบแทนอีก ทั้งผู้สมัครและผู้รวบรวมบัตรประชาชน ซึ่งยังไม่ได้ระบุว่าจะได้เพิ่มเท่าไร อย่างไรก็ตาม มีการตั้งเป้าว่าหากทำได้ทำได้ทะลุเป้าก็จะมีค่าตอบแทนเพิ่ม เบื้องต้น มีผู้รวบรวมสำเนาบัตรไว้เป็นหลักหมื่นแล้ว ซึ่งก็เห็นว่ากฎหมายพรรคการเมือง เขียนไว้ชัดว่า ผู้ใดให้หรือสัญญาว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดต่อบุคคลสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองถือว่าเป็นความผิด จึงอยากให้ กกต.ดำเนินการ เพราะการเลือกตั้งใกล้เข้ามาถึงแล้ว เราไม่มีเจตนาที่จะไปกลั่นแกล้งพรรคการเมืองใด

นายโกศล กล่าวว่า จากข้อมูลที่ได้รับจะมีการให้เงินกับประธาน อสม. ตั้งแต่ 1-2 พันบาทแล้วให้ไปรวบรวมบัตรประชาชน ซึ่งตนมีพยานเป็นประธาน อสม.และชาวบ้านในพื้นที่ที่พร้อมจะมาให้การกับ กกต. ว่าใครไปเป็นผู้เก็บบัตร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่จะมีการยื่นหนังสือร้องเรียน นายอนุสรณ์ และ นายโกศล ได้พูดคุยกับนายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย ที่บริเวณห้องรับรอง โดยมีการคุยกันประมาณ 15 นาที ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะเป็นการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการเก็บบัตรประจำตัวประชาชน เพราะก่อนหน้านี้ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ “แรมโบ้อีสาน” อดีตแกนนำ นปช.อีสาน ได้ยื่นเรื่องต่อสำนักงาน กกต.จังหวัดนครราชสีมา โดยอ้างว่า พรรคภูมิใจไทย เก็บบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อที่จะให้สมัครเป็นสมาชิกพรรค และอ้างว่ามีการสัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนในภายหลัง

ทั้งนี้ เมื่อถามนายอนุสรณ์ว่า การพูดคุยกับนายสรอรรถ มีการพูดถึงเรื่องดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งนายอนุสรณ์ ตอบว่า ไม่มีการพูดคุยเรื่องดังกล่าว แต่เนื่องจาก นายสรอรรถ เป็นประธานชมรมหลักสูตรพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง หรือ พตส. ซึ่งตนเป็นสมาชิกในชมรมดังกล่าวด้วย จึงพูดคุยทั่วไป