รัฐธรรมนูญฉบับ คสช.ผลงานทิ้งทวนของ อจ.มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. ที่แก้ไขกติกาเลือกตั้ง ส.ส. 2 ประเด็น
1,ยกเลิกบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ที่เคยใช้มาดั้งเดิม เปลี่ยนเป็นใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวเลือกทั้ง ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทูอินวัน
2,ลดจำนวน ส.ส.เขต จาก 375 คน เหลือ 350 คน เพิ่มโควตา ส.ส.บัญชีรายชื่อ จาก 125 คน เป็น 150 คน
ผลจากการเปลี่ยนกติกาเลือกตั้ง ส.ส.ทำให้ กกต.ต้องแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ให้เข้าล็อกกับจำนวน ส.ส.เขตที่ลดลงเหลือ 250 คน
“แม่ลูกจันทร์” เอาจำนวน ส.ส.เขต 250 คน ไปหารจำนวนประชากรล่าสุด 66 ล้านคน เท่ากับ ส.ส. 1 คนต่อประชากร 264,000 คน
แต่สูตรแบ่งเขตเลือกตั้งของ กกต.ใช้อัตราส่วน ส.ส. 1 คนต่อจำนวนประชากร 189,110 คน
โดย กกต.จะใช้สูตรนี้ ไปจัดการขีดเส้นแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ให้สอดคล้องกับจำนวนประชากร ซึ่งจะทำให้หลายจังหวัดมี ส.ส.เพิ่มขึ้น และทำให้หลายจังหวัด มี ส.ส.ลดลง
บางอำเภอจะแบ่งแยกเป็น 2 เขตเลือกตั้ง ทำให้คนที่อยู่อำเภอเดียวกันต้องเลือก ส.ส.ไม่เหมือนกัน
อดีต ส.ส.ที่มีฐานเสียงเหนียวแน่นในเขตเลือกตั้งเดิม เมื่อแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ฐานคะแนนอาจโดนหั่นเหลือครึ่งเดียว
วุ่นวายขายปลาช่อนพอหอมปากหอมคอ
“แม่ลูกจันทร์” สรุปว่า กรุงเทพมหานคร เคยมี ส.ส.เขต 33 คน หลังแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ จะทำให้ ส.ส.กทม.ลดลงไป 3 คน เหลือ ส.ส.กรุงเทพฯ 30 คน
“โคราช” เคยมี ส.ส. 15 คน จะเหลือ ส.ส. 14 คน “เชียงใหม่” เคยมี ส.ส.เขต 10 คน จะเหลือแค่ 9 คน “อุบลราชธานี” เคยมี ส.ส.เขต 11 คน จะเหลือ ส.ส.เขต 10 คน “นครศรีธรรมราช” เคยมี ส.ส.เขต 9 คน จะเหลือ ส.ส.เขต 8 คน ฯลฯ
...
ฉันใดก็ฉันเพล ผลจากสูตรแบ่งเขตเลือกตั้ง สัดส่วน ส.ส. 1 คนต่อประชากร 1.8 แสนคน ทำให้ 41 จังหวัดได้โควตา ส.ส.เขตเพิ่มขึ้นอีกจังหวัดละ 1 คน
เช่น “ขอนแก่น” เดิมมี ส.ส. เขต 9 คน จะเพิ่มเป็น 10 คน
“ชลบุรี” เคยมี ส.ส.เขต 7 คน จะเพิ่มเป็น 8 คน
“นครปฐม” เคยมี ส.ส.เขต 4 คน จะเพิ่มเป็น 5 คน
“นครพนม” เคยมี ส.ส.เขต 3 คน จะเพิ่มเป็น 4 คน
“สุราษฎร์ธานี” เมืองลุงกำนัน เคยมี ส.ส.เขต 5 คน จะเพิ่มเป็น 6 คน ฯลฯ
การลดและการเพิ่ม ส.ส.เขตจะเอื้อประโยชน์ให้พรรคการเมืองฝ่ายสนับสนุน คสช.หรือไม่?...ยังไม่มีใบเสร็จยืนยัน!!
จนกว่า กกต.จะแบ่งเขตเลือกตั้งทั้ง 350 เขต เสร็จ 100 เปอร์เซ็นต์
“แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่า การเลือกตั้งครั้งใหม่ใช้กติกาใหม่ ใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว เลือก ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อพร้อมกัน ทำให้การคาดเดาผลการเลือกตั้งยากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
ข้อสำคัญ การเว้นว่างไม่ได้เลือกตั้งจริงๆมานานถึง 7 ปี ทำให้มีประชากรรุ่นใหม่ที่ไม่เคยใช้สิทธิเลือกตั้ง (อายุระหว่าง 18 ปี ถึง 25 ปี) เพิ่มขึ้นอีกกว่า 7 ล้านคน
ยิ่งทำให้การคาดเดาผลเลือกตั้งยากขึ้นเป็นทวีคูณ
แต่ที่แน่ๆอภินิหาริย์บัตรเลือกตั้งใบเดียวของ “ซือแป๋มีชัย” เหยียบหิมะไร้รอยจะไม่มีพรรคการเมืองใดได้ ส.ส.เกินครึ่งสภาฯ
จะไม่มีพรรคการเมืองไหนได้ ส.ส.เขต บวก ส.ส.บัญชีรายชื่อเกิน 250 คน
ต่อให้ชนะเลือกตั้งแบบหิมะถล่มก็ไม่มีทางตั้งรัฐบาลพรรคเดียว
แถมยังมี ส.ว.ลากตั้ง 250 คนอยู่ในกำมือ
แบบนี้ก็เสร็จบิ๊กตู่น่ะซีโยม.
“แม่ลูกจันทร์”