หลังจากเคลื่อนไหวเงียบๆ มาหลายเดือน

เครือข่ายชาวสวนยาง 16 จังหวัดภาคใต้ก็เริ่มเคลื่อนไหวดังๆ

เพื่อเรียกร้อง “รัฐบาลนายกฯลุงตู่” ให้แก้ปัญหาราคายางตกรูดมหาราชต่อเนื่องมา 3 ปี

วันนี้ (3 ก.ย.) นายประทบ สุขสนาน ประธานเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางจะยื่นหนังสือด่วนถึง นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรฯ ให้เร่งแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำเป็นประวัติการณ์ ทำให้พี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางขาดทุนบักโกรกเดือดร้อนกันอ่วมอรไท

เนื่องจากขณะนี้ ราคายางแผ่นตก กระหน่ำเหลือ 43 บาทต่อกิโล

ราคาน้ำยางสดตกฮวบเหลือ 38 บาทต่อกิโล

โดยแกนนำชาวสวนยางยื่นข้อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งผลักดันราคายางให้ขยับขึ้นไม่ต่ำกว่า 60 บาทต่อกิโล

เพื่อให้ชาวสวนยางไม่ต้องขาดทุนริดสีดวงบานเป็นกลีบมะไฟอย่างที่ผ่านมา

ข้อสำคัญ จะทวงคำมั่นสัญญาที่ “นายกฤษฎา” รมว.เกษตรฯ ประกาศไว้ (เมื่อปลายปีที่แล้ว) ว่าจะพยุงราคายางไม่ต่ำกว่าต้นทุนคือ 60 บาทต่อกิโล

บัดนี้ ผ่านไปแล้ว 8 เดือน ราคายางยังกระด้อกระแด้แค่ 43 บาทต่อกิโล

นอกจากไม่สูงขึ้นอย่างที่สัญญาไว้ ยังเตี้ยลงต่ำสุดในรอบปี!

“แม่ลูกจันทร์” เห็นใจพี่น้องเกษตรกร ชาวสวนยาง 10 ล้านคน ที่ต้องกัดฟันขายยางขาดทุนจั๋งหนับบุเรงนอง

แต่ก็หนักใจแทนรัฐบาล คสช.ที่ไม่สามารถดันราคายางให้กระเด้งขึ้นตามความต้องการของพี่น้องชาวสวนยาง

เนื่องจากราคายางตลาดโลกอยู่ในช่วงขาลง

ราคาเฉลี่ยไม่เกิน 50 บาทต่อกิโล

และมีแนวโน้มจะฟุบยาวต่อไปอีกปี หรือสองปี หรือสามปี??

“แม่ลูกจันทร์” มองว่า ข้อเรียกร้องของเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางให้รัฐบาลรับประกันราคายางไม่ต่ำกว่า 60 บาทต่อกิโล

เท่ากับต้องใช้เงินอุดหนุนอีก 17 บาทต่อกิโล

...

รัฐบาล คสช.คงไม่มีเงินมากพอที่จะอุ้มราคายาง

เนื่องจากรัฐบาลใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจไปแล้วก้อนโตมโหฬาร

ส่วนนโยบายแก้ปัญหาราคายางด้วยการเพิ่มการใช้ยางในประเทศ ก็ไม่ช่วยให้ราคายางสูงขึ้นได้อย่างที่ฉายหนังโฆษณา

จะหวังส่งออกยางไปตลาดจีนเพิ่มขึ้น พี่เบิ้มจีนก็นำเข้ายางลดลง

สรุปว่า การจะดันราคายางให้กระเด้งไปถึง 60 บาทต่อกิโล เป็นเรื่องเกินขีดความสามารถของรัฐบาลที่จะทำให้สำเร็จได้รวดเร็วทันใจ

“แม่ลูกจันทร์” เห็นด้วยกับไอเดียของ “นายอุทัย สอนหลักทรัพย์” ประธานสภาเกษตรกรยางพาราแห่งประเทศไทย ที่เสนอให้รัฐบาลใช้ยางพาราไทยเป็นสินค้าแลกเปลี่ยนในการจัดซื้ออาวุธ จัดซื้อรถไฟความเร็วสูง หรือจัดซื้ออุปกรณ์อื่นๆของรัฐบาล

เหมือนเช่น “รัฐบาลอินโดนีเซีย” สามารถเจรจาตกลงซื้อเครื่องบินรบเอสยู 34 หนึ่งฝูงจากรัสเซีย โดยจ่ายเงิน 50 เปอร์เซ็นต์

และจ่ายเป็นยางพารา 50 เปอร์เซ็นต์

ถ้ารัฐบาลไทยทำได้แบบอินโดนีเซีย จะทำให้ราคายางปรับตัวสูงขึ้นเห็นทันตา

โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน กรุงเทพฯ-หนองคาย ถ้าเจรจาขอจ่ายเป็นเงิน 50 เปอร์เซ็นต์ จ่ายเป็นยางอีก 50 เปอร์เซ็นต์ ก็ยอดเยี่ยมกระเทียมเจียว.

“แม่ลูกจันทร์”