“ผิดฟอร์ม” จนจับอาการได้

ตามปรากฏการณ์ที่ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ต้องสลัดบท “สิงห์ซุ่ม”

ออกมาเคลียร์ปมร้อนว่าด้วยเมกะโปรเจกต์แสนล้าน โครงการบริหารจัดการขยะทั่วประเทศที่พ่วงโยงกับนโยบายการผลิตไฟฟ้าจากขยะชุมชน ในความดูแลของกระทรวงมหาดไทย

โดยเฉพาะการออกตัวแบบ “ล้อฟรี” การโจมตีบุคคลในครอบครัวของตนเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับการสร้างโรงไฟฟ้ากำจัดขยะ ยืนยันว่า ครอบครัวไม่ได้ยุ่งเกี่ยวแน่นอน

“ลูกชายบอกว่าไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวหรือร่วมทุนกับใคร เรื่องนี้ไม่ใช่จะมากล่าวหากันลอยๆ”

ปล่อยจนเข้าเนื้อลึก “บิ๊กป๊อก” เสี่ยงลามเป็นบาดทะยัก

เรื่องของเรื่อง ปมโรงขยะโดนตามแกะรอยมาจากปรากฏการณ์โยกย้ายนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร จากผู้ว่าฯเชียงราย ลดชั้นไปเป็นผู้ว่าฯพะเยา ที่จังหวัดเล็กกว่า

เรื่องมาแดงตอนวิกฤติช่วยทีมหมูป่าติดถ้ำ

ตามสถานการณ์ที่ตอกย้ำ ความไม่ปกติในการโยกย้ายพ่อเมืองน้ำดี เก่งเชิงบริหาร ประวัติสะอาด โปร่งใส ไม่เอาด้วยกับการทุจริตคอร์รัปชัน มุ่งรักษาผลประโยชน์ของแผ่นดิน

ฟ้ารับรู้ ผู้คนชื่นชมกันทั้งบ้านทั้งเมือง

นี่แหละทำให้ “บิ๊กป๊อก” ตกอยู่ในสถานการณ์ “สิงห์ลำบาก”

แต่คนที่วางตัวยากกว่า ก็คือ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ที่ต้องเจอคำถามเรื่องการใช้อำนาจพิเศษเอื้อเมกะโปรเจกต์โรงไฟฟ้าขยะที่แฝงความไม่โปร่งใส

อาการแบบที่เห็นผู้นำรัฐบาลตอบไปหงุดหงิดไป

อึดอัดๆเหมือนคนที่ต้องท้าทายกระแสสังคม

ในอารมณ์แบบคนที่ต้องแบกเผือกร้อน เพราะความเกรงอกเกรงใจ “พี่รอง” ที่อุ้มสมกันมาในรั้วกองทัพ โดยเฉพาะช็อตการเสนอชื่อ “บิ๊กตู่” เป็นจ่าฝูงกองทัพบกต่อจาก “บิ๊กป๊อก”

...

ซึ่งก็ไม่รู้การตอบแทนจะไปสิ้นสุดตรงไหน

ที่แน่ๆโดยเงื่อนไขสถานการณ์ไม่ส่งผลดีกับการ “ตีตั๋วต่อ” ของ “นายกฯลุงตู่”

ปฏิเสธไม่ออก คิวของ “พี่รอง” คือปัจจัยหน่วงกระแส และจะเห็นได้ชัด หลังช็อตที่ “นายกฯลุงตู่” เปิดตัวลงสนามการเมืองอย่างเป็นทางการ ตามคิวที่วางไว้ในเดือนกันยายนนี้

ต้องเจอเกมแห่ “เพื่อนพ้องพี่” ดักคอดักทางแน่

เพราะมันคือ “ปมด้อย” ที่ “นายกฯลุงตู่” ลบไม่ออกมาตลอด 4-5 ปี

ขณะที่ขั้วตรงกันข้าม พรรคเพื่อไทยก็ยังวนไม่พ้น “ตระกูลชิน”

ตามจังหวะที่อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร เพิ่งส่งซิกปลุกขวัญลูกทีมพรรคเพื่อไทยที่ฮ่องกง สงครามยังไม่จบ ยังไงก็ไม่ยอมแพ้ มั่นใจพรรคเพื่อไทยจะชนะเลือกตั้งแบบหิมะถล่ม

กระตุ้นอารมณ์ฮึกเหิมลูกข่ายและกองเชียร์

ท่ามกลางการลุ้นจับตา “นายใหญ่” จะเคาะโต๊ะแม่ทัพเพื่อไทยคนใหม่

เดาฟอร์ม “ทักษิณ” ต้องเลือกใช้คนในสายเลือด

แต่ล่าสุดจับสัญญาณการขยับของ “เจ๊แดง” นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ที่ต้องสื่อสารผ่าน “แหล่งข่าวไม่ประสงค์ออกนาม” ออกมาบอกปัดกระแส

ข่าวนายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ ลูกชาย “เจ๊แดง” กับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะถือธงหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยุคนอมินีรุ่นสาม

คอนเฟิร์มนายยศชนันชอบงานวิชาการมากกว่างานการเมือง 1,000 เปอร์เซ็นต์

ที่สำคัญ “เจ๊แดง” ผู้เป็นแม่ก็ตัดสินใจวางมือทางการเมืองตามที่มีคนขอให้หยุด โดยพื้นที่ภาคเหนือได้ปล่อยให้คนอื่นเข้ามาดูแลพื้นที่หมด

แล้ว แม้แต่ฐานบ้านเกิดตระกูลชินวัตรที่ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ก็ไม่มีคนในตระกูลชินวัตรหรือคนในครอบครัวอยู่เลย

อธิบายละเอียดยิบแบบที่กลัวคนไม่เชื่อ

ตามรูปการณ์ที่เดาทางได้ ด้านหนึ่งก็คือหลบแรงกระแทกเพราะยี่ห้อ “ลูกชายเจ๊แดง” ยังไงก็เรียกแขกฝ่ายตรงข้าม อีกทั้งยังกระตุกอารมณ์กองเชียร์เพื่อไทยให้สะดุด

แนวโน้มต้องเป็นจุดตำบลกระสุนตก โดนถล่มหนักแน่

แต่อีกฟอร์มหนึ่งก็สะท้อนลูกเขี้ยว “เจ๊แดง” รีบชิงตัดบทจบข่าว เพราะไม่พร้อมเปิด “ยุ้งข้าว” ปล่อยท่อน้ำเลี้ยงให้อดีต ส.ส.ในพรรคเพื่อไทย ที่อดอยากปากแห้งรอเสบียงจากหน่วยเหนือ

ขืน “แม่เลี้ยงแดง” รับมุกแห่ลูกชาย หัวกระไดบ้านไม่แห้งแน่.

ทีมข่าวการเมือง รายงาน