เอาให้ชัด ขจัดเงื่อนไข
หลังจากกฎหมายลูกทั้ง 4 ฉบับที่เกี่ยวเนื่องโยงใยกับการเลือกตั้งได้ผ่านขั้นตอนการดำเนินการไปเรียบร้อยแล้ว รอเพียงได้รับการโปรดเกล้าฯเท่านั้น
การเลือกตั้งตามเงื่อนไขเวลาก็น่าจะลงล็อก โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องให้ผ่านพิธีการสำคัญของประเทศ เพื่อให้บ้านเมืองเกิดความสงบเรียบร้อย
อีกทั้งยังมีเงื่อนเวลาในทางกฎหมายมาเป็นตัวกำหนดอีกต่างหาก
จึงไม่แปลกที่พรรคการเมือง นักการเมือง ต่างก็หมายมั่นปั้นมือว่า การเลือกตั้งจะต้องเกิดขึ้นแน่ในต้นปีหน้า หากจะช้าออกไปก็คงเล็กน้อย
ว่ากันว่าห้วง 4-5 วันที่ผ่านมา ที่ฮ่องกงซึ่ง 2 พี่น้องอดีตนายกรัฐมนตรีได้เดินทางอยู่ที่นั่นด้วยจุดประสงค์การเมืองเป็นหลัก เพื่อนัดพบปะกับแฟนคลับของเขา
“ฮ่องกง” เลยกลายเป็น “ตลาดนัดการเมือง” ที่แกนนำพรรคเพื่อไทย อดีต ส.ส. และมวลชนเสื้อแดงโผล่กันไปที่นั่น เพื่อพบปะกับ 2 อดีตนายกฯ
คลาคล่ำไปด้วยผู้คนแทบจะเดินชนกันตาย จนต้องแยกแบ่งกลุ่ม แบ่งก๊วน เพื่อจะได้ร่วมรับประทานอาหารกับ 2 พี่น้อง
ที่สำคัญก็คือ จะต้องบอกทิศบอกทางการเมืองว่าจะไปทางไหนอีกด้วย เพราะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุด
นั่นคือมั่นใจว่าจะมีการเลือกตั้ง
นั่นจะทำให้ลูกพรรคที่ยังลังเลไม่ได้ตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งจะได้อยู่กับที่หากเป็นไปตามที่ “ทักษิณ” ประกาศว่าสงครามยังไม่จบและพร้อมสู้ทุกรูปแบบ
อีกขั้นตอนหนึ่งก็คือ รอเวลาประกาศว่าใครจะเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ เพื่อนำทัพสู้ศึกเลือกตั้งอีกด้วย
วันนี้ยังเดาใจไม่ได้ว่า เขาจะเลือกใครขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ซึ่งน่าจะเป็นว่ามีคนอยู่ในใจแล้ว
เชื่อด้วยว่าชื่อนี้จะขายได้ด้วยเพื่อผลแห่งชัยชนะ
...
เพียงแต่รอเงื่อนเวลาว่า การเมืองจากนี้ไป จะเกิดอะไรขึ้น จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรหรือไม่
เพราะปัจจัยทางการเมืองในปัจจุบันนั้น มีตัวแปรค่อนข้างมากกว่าการเมืองในยุคก่อนหน้านั้น แม้แต่การแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารก็สามารถบ่งชี้อะไรบางอย่างทางการเมืองได้
อย่างน้อยการที่แกนนำพรรค อดีต ส.ส. และมวลชนเสื้อแดงเดินทางไปที่ฮ่องกงคงจะรู้ข้อมูลข่าวสาร ซึ่งพอจะเป็นจุดในการตัดสินใจได้ว่าอะไรเป็นอะไร
ซึ่งข้อมูลอย่างนี้พวกเขาย่อมนำกลับมาถ่ายทอดต่อไปยังคนอื่นๆ ซึ่งน่าจะเป็นผลต่อการตัดสินใจทางการเมือง
หรือทำให้ฝ่ายตรงกันข้ามต้องคิดและสามารถสร้างความปั่นป่วนทางการเมืองได้ไม่น้อย มิใช่ว่าจะยอมเป็นฝ่ายตั้งรับเท่านั้น
อีกอย่างก็สามารถเดินเกมรุกทางการเมืองได้เช่นกัน
การเมืองในช่วงจากนี้ไปจึงต้องจับตาในปัจจัยหลายๆด้านไม่ว่าจะเป็นการโยกย้ายนายทหาร ความแน่นอนต่อการจะมีการเลือกตั้งหรือไม่มี หรือการเลือกตั้งจะต้องเลื่อนออกไปด้วยเงื่อนไขประหลาดอย่างเช่นการขอแก้ พ.ร.ป.กกต.ว่าด้วยเรื่องผู้ตรวจการเลือกตั้งของ 36 สนช.
การประกาศสงครามการเมืองของ “ทักษิณ” ที่พร้อมจะสู้ทุกรูปแบบนั้น เท็จจริงจะเป็นอย่างไร สู้จริงหรือสู้เพื่อถอย
เหล่านี้ คสช.ล้วนต้องเกาะติดและวิเคราะห์กันปวดหัวไม่น้อย
ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน แม้แต่การดำรงอยู่ของ คสช.เองก็เช่นกัน.
“สายล่อฟ้า”