‘หม่อมเต่า' ชายผู้ยอมหักแต่ไม่ยอมงอ เด้งจากผู้ว่าแบงก์ชาติ ก่อนกลับมาผงาด เป็นหัวหน้ารปช.

ทำความรู้จัก ‘หม่อมเต่า' หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย ชายผู้ไม่อ่อนข้อ จนลือว่าถูกเด้งจากตำแหน่ง ผู้ว่าแบงก์ชาติ

เมื่อวันที่ 5 ส.ค. พรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่มี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็น 1 ในแกนนำจัดตั้ง ได้มีมติเลือกหม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล หรือ ‘หม่อมเต่า' เป็นหัวหน้าพรรค ด้วยคะแนนเป็นเอกฉันท์ 331 คะแนน 

ทั้งนี้ อาจเป็นที่น่าแปลกใจเล็กๆ ว่า เหตุใด หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล ถึงตัดสินใจมารับหน้าเสื่อมาเป็นหัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย หลังห่างหายไปจากวงการเมืองอย่างยาวนานกว่า 16 ปี   ทั้งที่ตอนแรก คนที่เป็นว่าที่หัวหน้าพรรค คือ นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ แต่ก็มาพลิกโผในนาทีสุดท้าย 

หากย้อนเวลากลับไปมีเหตุการณ์หนึ่งเป็นที่โจษจันในวงการเมืองในสมัยนั้น  คือ เหตุการณ์ ม.ร.ว.จัตุมงคล ถูกปลดออกจากตำแหน่ง ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2544 โดยอ้างว่าเป็นไปเพื่อความเหมาะสม แต่เชื่อกันว่า สาเหตุมาจาก หม่อมเต่าไม่เห็นด้วย กับนโยบายของรัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น ที่ต้องการให้ธนาคารแห่งประเทศไทย ทบทวนนโยบายด้านดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และนโยบายการปล่อยสินเชื่อให้ธุรกิจขนาดกลางและย่อม แต่หม่อมเต่าไม่ยินยอม พร้อมทั้งออกกฎที่ทำให้การปล่อยสินเชื่อยากขึ้น จึงถูกปลดจากตำแหน่งไป

นอกจากนี้ หม่อมเต่า เคยเป็นพยานโจทก์ ขึ้นเบิกความในคดีทุจริตซื้อที่ดินรัชดา เมื่อปี 2551 ซึ่งภายหลังต่อมาคดีนี้เป็นที่มาให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินจำคุก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร (ยศในขณะนั้น) เป็นเวลา 2 ปี และทำให้นายทักษิณในตอนนี้ ต้องหลบหนีคดี ไม่สามารถกลับสู่ประเทศไทยได้จนถึงปัจจุบัน

ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หรือที่รู้จักกันในนาม “หม่อมเต่า” ปัจจุบัน อายุ 74 ปี โอรสของพลตรี หม่อมเจ้าฉัตรมงคล โสณกุล เป็นโอรสคนสุดท้องในจำนวน 4 คน จบการศึกษาจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย และโรงเรียนแฮร์โรว์ จบปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมศาสตร์และเศรษฐศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ เมื่อ พ.ศ. 2508 ปริญญาโทบริหารรัฐกิจ จาก Kennedy School of Government มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เมื่อ พ.ศ. 2512 และวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร เมื่อ พ.ศ. 2532

ชีวิตสมรสของหม่อมเต่า ครั้งแรกกับ รัชนี คชเสนี มีบุตร 1 คน คือ หม่อมหลวงมิ่งมงคล โสณกุล และครั้งที่สองสมรสกับ คุณหญิงบูลย์วิภา โสณกุล ณ อยุธยา มีบุตร 2 คน คือ หม่อมหลวงอรมงคล โสณกุล และ หม่อมหลวงอภิมงคล โสณกุล ซึ่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขต 6 พ.ศ. 2548 พรรคประชาธิปัตย์

ชีวิตการทำงานเริ่มต้นรับราชการในสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง จนกระทั่งดำรงตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ต่อมา ได้ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมบัญชีกลาง, อธิบดีกรมสรรพสามิต, อธิบดีกรมสรรพากร, ปลัดกระทรวงการคลัง และเป็นสมาชิกวุฒิสภาในปี พ.ศ. 2539 และเมื่อปี พ.ศ. 2540 ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลัง เกิดความขัดแย้งด้านนโยบายการคลังกับรัฐบาลในยุคพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ จึงถูกคำสั่งย้ายไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หม่อมเต่าจึงลาออกจากราชการทันที

ต่อมาได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2541 ในรัฐบาลชวน หลีกภัย ซึ่งเป็นช่วงหลังวิกฤติต้มยำกุ้ง ดำเนินนโยบายดอกเบี้ยต่ำมาติดต่อกันหลายปี จนมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองขึ้น พรรคไทยรักไทย ชนะการเลือกตั้งและเข้ามาเป็นรัฐบาล