125 ที่นั่ง ให้คำตอบอะไร
คงต้องพูดถึงกัมพูชาประเทศเพื่อนบ้านที่เพิ่งผ่านการเลือกตั้งมาหมาดๆ ใครจะวิพากษ์วิจารณ์อย่างไร
แต่ “ฮุน เซน” ก็กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ในตำแหน่งนานที่สุดในโลก เอาคร่าวๆก็ 33 ปี ด้วยวัยเพียง 65 ปี หากอยู่ต่อไปอีก 5 ปีครบเทอม อายุเพียงแค่ 70 ปีเท่านั้น
พลันที่ชนะการเลือกตั้งแบบได้ ส.ส.ครบจำนวนเต็ม 125 เสียง จากจำนวน ส.ส.ทั้งหมด 125 คน ก็เท่ากับว่ามีเสียงครบอัตราศึก โดยมีประชาชนมาใช้สิทธิราว 80% กว่าๆ
ที่แตกต่างออกจากการเลือกตั้งของประเทศประชาธิปไตยอื่นๆ คือไม่มีคู่ต่อสู้ที่เป็นพรรคฝ่ายค้านเพราะพรรคกู้ชาติกัมพูชาหายไปจากสารบบ
คือถูกยุบพรรค หัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรคต้องหนีออกนอกประเทศ
พรรคการเมืองอื่นๆ ที่ลงสมัครแข่งกับพรรครัฐบาลนั้น ถือว่าไม่มีความหมายเป็นพรรคการเมืองเล็กๆไร้พิษสง
เป็นเพียงสัญลักษณ์ในการเลือกตั้งที่ชอบธรรม
พูดง่ายๆว่าจะกล่าวหาว่าไม่เป็นประชาธิปไตยก็ไม่ได้ เนื่องจากไม่ใช่การเลือกตั้งที่มีพรรคการเมืองเดียว
แต่สหรัฐฯ อียูตั้งข้อครหามาก่อนหย่อนบัตรเสียอีกว่า เป็นการเมืองแบบเผด็จการ ไม่เป็นประชาธิปไตยแต่อย่างใด
ประกาศที่จะคว่ำบาตร ประกาศจะแซงก์ชันทันที
ดูเหมือนว่า “ฮุน เซน” ไม่ได้ให้ความสนใจแต่อย่างใด เพราะนี่คือการเมืองแบบ “กัมพูชา” ให้มีการเลือกตั้งก็ดีแล้ว
“จีน” ประกาศทันทีเช่นกันว่า การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
เป็นคำตอบที่บ่งบอกนัยได้เป็นอย่างดี คงไม่ต่างไปจากระบบการปกครองแบบรวมศูนย์ที่จีนประสบความสำเร็จ พัฒนาประเทศก้าวขึ้นมารดต้นคอสหรัฐฯอย่างที่เห็นกันอยู่
จำได้ว่าเมื่อผมเดินทางไปกัมพูชาเป็นครั้งแรกที่พนมเปญเมืองหลวง ซึ่งไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะเจริญก้าวหน้าอย่างคาดไม่ถึง
...
ก่อนหน้าในความคิดมองว่าคงไม่มีความเจริญ และแฝงไปด้วยความน่ากลัว มีความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน
ไปเห็นมากับตากลับตรงกันข้ามเลยทีเดียว
มีโอกาสได้พบกับท่านเตียบัน รองนายกฯ ดูแลด้านการทหาร และความมั่นคงทั้งหมด ระหว่างนั้นพรรครัฐบาลกำลังวางแผนเพื่อเตรียมการเลือกตั้งใหญ่
ดูจากคำตอบเมื่อถามถึงการเลือกตั้ง แม้ยืนยันชนะแน่ แต่ก็มีความกังวลใจไม่น้อย เพราะจากประชาชนกัมพูชาราว 15 ล้านคนนั้น
ปรากฏมีคนรุ่นใหม่หนุ่ม-สาวจำนวนมากที่สุด และมีการศึกษาดี เพราะรัฐบาลมุ่งพัฒนาประเทศ ด้วยการพัฒนาด้านการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพดีกว่าไทยเสียอีก
คนรุ่นใหม่นี่แหละที่ “ฮุน เซน” กลัวมากที่สุด เพราะมีสิทธิในการหย่อนบัตรลงคะแนนเลือกตั้งของกัมพูชา
จำนวนเสียงตรงนี้แหละคือสิ่งที่น่ากังวลอย่างยิ่ง
ขณะนี้พรรคกู้ชาติกัมพูชายังสามารถดำเนินการทางการเมืองได้ และกำลังเตรียมพร้อมที่จะเป็นคู่แข่งทางการเมืองในการเลือกตั้ง
ที่สุดรัฐบาลกัมพูชาก็ตัดสินใจสั่งยุบพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งจะเป็นคู่แข่งและมีการจับกุมหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคจนเผ่นหนีออกนอกประเทศหลังจากนั้น
นั่นคือคำตอบที่นำไปสู่ชัยชนะแบบขาดลอยของพรรครัฐบาล.
“สายล่อฟ้า”