ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 20 ก.ค.2560 ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษา คดี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรี ฟ้องหมิ่นประมาท นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.คนสำคัญ กรณีปราศรัยหมิ่นประมาท ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา (หมิ่นประมาท อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สั่งฆ่าประชาชนปี 2552) ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328, 332 ซึ่งก่อนหน้าศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายกฟ้อง
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04OQqhS8rvQqBc4gKdz72ywPWGlVtzEk.jpg)
โดยคำพิพากษาฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยมีความผิดให้จำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา และให้โฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์รายวันเป็นเวลา 7 วัน
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04OQqhS8rvQqBc4gKdu36nwKmOO9Ro7r.jpg)
...
สำหรับคดีนี้ นายอภิสิทธิ์ ยื่นฟ้องคดีเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2552 ระบุว่า วันที่ 10 พ.ค.2552 นายจตุพร จำเลยได้ปราศรัยด้วยเครื่องกระจายเสียงต่อหน้าประชาชน จำนวนมาก ใส่ความทำนองว่า รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เป็นรัฐบาลภายใต้ทรราชฟันน้ำนม ทั้งกล่าวหาว่า เป็นคนสั่งทหารให้ไปยิงประชาชน เป็นฆาตกรมือเปื้อนเลือดฆ่าประชาชน ใส่ร้ายประชาชนกลุ่มคนเสื้อแดง โจทก์จะต้องถูกประหารชีวิต ข้อหาฆ่าคนตาย และข้อความอื่นๆ ซึ่งล้วนเป็นเท็จ การกระทำของจำเลยทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง เหตุเกิดที่วัดไผ่เขียว แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม. ซึ่งนายจตุพรให้การปฏิเสธ
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04OQqhS8rvQqBc4gKd4bQSvzZLzUnDDO.jpg)
ซึ่งหากย้อนเวลากลับไปได้ก็อยากรู้ว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. และแกนนำคนเสื้อแดงคนสำคัญ จะยังกระทำการกล่าวหาในลักษณะนี้อีกหรือไม่ เพราะก็มีเครื่องพิสูจน์ที่ชัดเจนในเวลาต่อมา เมื่อนายจตุพรรับโทษครบ 1 ปี และเตรียมกลับสู่อิสรภาพในวันเสารที่ 4 ส.ค.นี้
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04OQqhS8rvQqBc4gKeADsHY0W5yjrEYK.jpg)
โดยภรรยา นายจตุพร กล่าวกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ว่า ตลอดเวลาที่นายจตุพรถูกคุมขัง จนทำให้น้ำหนักตัวลดลงไปกว่า 30 กก.นั้น นายจตุพร ก็มีโอกาสพูดคุยกับคู่ปรับเก่า ทั้งนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือแม้แต่ พระพุทธะอิสระ อดีตแกนนำ กปปส. ซึ่งก็ต้องคดีความด้วยเช่นกัน ถึงขั้นมีการซื้อของใช้ให้กัน นอนในห้องขังเดียวกัน และทานข้าวเช้าด้วยกัน จนมีความเข้าใจ สนิทสนมกันมากขึ้น ถึงขั้นขอโทษขอโพย และขออโหสิกรรมต่อกัน และจากนี้ไปก็คงเป็นเพื่อนกันพูดคุยกันได้
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04OQqhS8rvQqBc4gKcwgBDYow5Xokrvd.jpg)
ซึ่งนั่นยิ่งเป็นการสะท้อนคำที่เป็นอมตะวาจาที่ว่า "ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร" สำหรับการเมืองไทยได้เป็นอย่างดี ลงท้ายก็ไม่รู้ว่าที่ผ่านมา ทะเลาะกัน ตีกัน ไปเพื่ออะไร หรือเพื่อผลประโยชน์ของใครก็ไม่รู้.
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04OQqhS8rvQqBc4gKdYAlNoHJRvmOkwZ.jpg)
ข่าวเกี่ยวข้อง