"วิษณุ" ชี้ 7 รมต.ถือหุ้นสัมปทาน มีแววรอด เหตุ รธน.ระบุมีหุ้นมาก่อนรับตำแหน่งรัฐมนตรี ถือว่าไม่ผิด
เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 61 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "การตีความกฎหมายที่เกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมาย" ตอนหนึ่งว่า การตีความกฎหมายเป็นการหาความหมายของคำในทางกฎหมาย เพื่อให้เอามาใช้ได้ถูกต้อง และเป็นไปตามเจตารมณ์ของกฎหมาย แต่การตีความกฎหมายที่ขยายความมากเกินไป ก็จะเสียความยุติธรรมของกฎหมาย ซึ่งวันนี้มีคดีความหลายคดีในศาลปกครอง ที่ศาลเห็นว่าการตีความของหน่วยงานรัฐหลายหน่วยงานเป็นการตีความกฎหมายที่ผิด เพราะตีความกฎหมายแบบไม่เป็นธรรม
ทั้งนี้ กรณีมีคนส่งเรื่องไปที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยกล่าวหารัฐมนตรี 8 คน ซึ่งมีตนรวมอยู่ด้วย โดยกล่าวหาว่าพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีแต่ในกรณีของตนนั้น แตกต่างกับอีก 7 คน เพราะกรณีของตนไม่ต้องตีความ เพราะมีการร้องว่าตนพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะมีกฎหมายระบุว่ารัฐมนตรีจะต้องไม่ดำรงตำแหน่งในหน่วยงานรัฐ ซึ่งตนเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยมา 10 ปี แล้ว และปัจจุบันก็ยังเป็นอยู่ ซึ่งคนที่ร้องคงลืมว่า ในรัฐธรรมนูญมีมาตราหนึ่งที่ระบุว่าบรรดาข้อห้ามที่เขียนในรัฐธรรมนูญ ไม่ใช้บังคับกับรัฐมนตรีในรัฐบาลนี้ แต่บังคับใช้กับรัฐบาลถัดไป ดังนั้นกรณีของตนจึงจบไป
แต่กรณีอีก 7 คนถูกร้องเรียนว่าถือหุ้นกับบริษัทที่ได้สัมปทานกับรัฐ ซึ่งรัฐธรรมนูญเขียนว่ารัฐมนตรีจะถือหุ้นหรือมีหุ้นส่วนในบริษัท ที่เป็นคู่สัมปทานกับรัฐทั้งทางตรงและทางอ้อมไม่ได้ รวมทั้งคู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ หากมีจะต้องพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งทั้ง 7 คนมีหุ้นจริง แต่มีหุ้นมาก่อนที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งก่อนเข้าดำรงตำแหน่งไม่ได้มีการขายหุ้นดังกล่าวออกไป ขณะที่ สนช.ที่ถือหุ้นสัมปทานก็มีเป็นร้อยคน แต่ยังไม่มีใครร้อง ทั้งนี้เรื่องดังกล่าว กกต.พิจารณาหลายเดือน และมีข้อสรุปไม่นานมานี้แล้วว่ารัฐธรรมนูญไม่ได้ห้าม ซึ่งเป็นการตีความและวินิจฉัยว่าไม่ผิด
...
"โดย กกต.ใช้เหตุผลว่าเรื่องดังกล่าวเคยมีการวินิจฉัยโดยศาลรัฐธรรมนูญมาแล้ว เมื่อ 5-6 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งมีรายละเอียดในรัฐธรรมนูญเขียนเหมือนกัน ศาลรัฐธรรมนูญได้ตีความแล้วว่าไม่ผิด เพราะศาลเห็นว่า เรื่องใดที่รัฐธรรมนูญห้ามสำหรับการกระทำที่เกิดก่อนการมาดำรงตำแหน่ง แล้วพอมาดำรงตำแหน่งถึงยังมีต่อไป ก็ไม่ได้ผิดอะไรเพราะยังมีมาก่อน ซึ่งหากรัฐธรรมนูญไม่ต้องการให้มีก็จะมีการระบุชัดเจนว่า ห้ามมีหุ้นและยังคงถือหุ้นต่อ ดังนั้นคนที่มาเป็นรัฐมนตรี มาเป็น ส.ส.หากมีหุ้นลักษณะนี้ก่อนเข้ารับตำแหน่งอย่างไรก็ไม่ผิด" นายวิษณุ กล่าว