ทนกันอีกนิด เผื่อจะดีขึ้นมาได้
ก็ว่ากันตามประสาที่หวังจะให้บ้านเมืองเดินหน้าไปด้วยดี คงจะคิดกันอย่างนั้น มีความหวังดีกว่าไร้หวังเป็นไหนๆ
ว่ามั้ยครับ...
การเลือกตั้งใหญ่ครั้งต่อไปที่น่าจะมีความเป็นไปได้ราวต้น ก.พ.ปี 62 แม้ว่ายังไม่มีการประกาศตายตัวว่าจะเป็นวันนั้นวันนี้ก็ตาม
ที่ออกตัวอย่างชัดเจนไปแล้วก็คือ การได้มาซึ่ง กกต.ชุดใหม่ แม้จะยังไม่เต็มจำนวนเนื่องจากผ่านความเห็นของ สนช. เพียงแค่ 5 คน อีก 2 คนตกไป ต้องไปว่ากันใหม่
แต่ 5 กกต.ใหม่สามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่แทนชุดเก่าได้เลย ซึ่งต้องพ้นจากตำแหน่งเมื่อมี กกต.ชุดใหม่แล้ว
บุคคลที่ได้รับตำแหน่งใหม่นี้คงต้องรีบทำการบ้าน ศึกษางาน และภารกิจที่จะต้องดำเนินการหลายอย่างอันเกี่ยวข้องกับกฎหมาย การเตรียมการเลือกตั้ง และการควบคุมการเลือกตั้ง
สำคัญสุดก็คือจะต้องคิดและวางบทบาทเฉพาะตัวและคณะเพื่อดำเนินการในหน้าที่ให้เหมาะสม โปร่งใส ซื่อสัตย์สุจริต เป็นกลาง ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งคัด
เริ่มต้องทำใจ กำหนดใจตัวเองเอาไว้ให้ดี
มีตัวอย่างให้เห็นมาก่อนแล้ว บรรดา กกต.ชุดต่างๆ ซึ่งทำหน้าที่สำคัญของประเทศได้ทำอะไรกันไว้บ้าง มีดีไม่ดีคละเคล้ากันไป
ที่ดีก็ได้รับความชื่นชมยกย่อง
ที่ไม่ดีก็ถูกคดีเข้าคุกไปตามระเบียบ
การได้มาซึ่ง กกต.ชุดใหม่ก็เป็นสะพานข้ามไปอีกทอดหนึ่งที่จะนำไปสู่การเลือกตั้ง ซึ่งแม้ว่าชุดเก่ายังทำหน้าที่ได้
แต่เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลังและเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีภารกิจเพิ่มขึ้นอีกมากมาย แม้กระทั่งการยุบเลิก กกต.จังหวัดด้วยการให้มีผู้ตรวจการ กกต.ทำหน้าที่แทนก็เป็น “ของใหม่” ที่น่าสนใจไม่น้อย
เนื่องจากที่ผ่านมา กกต.จังหวัดได้ถูกหมายหัวจากสังคมว่าแทนที่จะทำหน้าที่อย่างสมศักดิ์ศรีเพื่อให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์โปร่งใส
...
กลับกลายเป็นว่า กกต.คือ เครื่องมืออย่างหนึ่งของนักเลือกตั้งที่จะนำไปสู่การชนะเลือกตั้ง ยิ่งไปกว่านั้นแทบจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาการซื้อเสียง หรือจับผู้กระทำผิดได้
นั่นเป็นกระบวนการหนึ่งเพื่อเข้าสู่การเลือกตั้ง
ว่าไปแล้วบรรดานักการเมืองและพรรคการเมืองต่างๆนั้นแม้จะต้องการให้ คสช.ประกาศวันเวลาให้ชัดๆ แต่หากมองถึงภาวะความเป็นจริง รวมถึงกระบวนการทางกฎหมายแล้ว ไม่น่าจะมีอุปสรรคอย่างอื่นมาทำให้การเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไป
การเลือกตั้งจะไม่เกิดขึ้น?
สิ่งที่เห็นก็คือ ความพยายามที่จะเคลื่อนไหวเพื่อเฟ้นหาผู้สมัครในจังหวัดต่างๆในท่ามกลาง “พลังดูด” ที่คืบคลานเข้ามาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นพรรคไหนก็ตาม
ลักษณะอาการทางการเมืองในระหว่างนี้จึงดูเป็นเรื่องปกติทางการเมืองต่างก็หวังซึ่งคำว่า “ชัยชนะ”
คนไทยซึ่งมีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้งก็ไม่ต้องไปเกิดอาการที่เรียกว่า “หลอน” หรอกครับ...เพียงแต่ต้องติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวต่างๆเอาไว้
เพื่อจะได้ “รู้เขา-รู้เรา”...รับรู้เอาไว้เพื่อจะได้นำไปคิด ไปไตร่ตรองอันจะทำให้เพิ่มพูนปัญญาเพื่อตัดสินใจทางการเมืองครั้งสำคัญ อย่างน้อยก็นึกถึงภาพ 13 หมูป่าอะคาเดมีเป็นแรงจูงใจเอาไว้
นี่พูดจริงๆนะครับ...
“สายล่อฟ้า”