หลังจากหายต๋อมไปเกือบปี นโยบายเก็บภาษี ลาภลอยก็โผล่ไปเข้าที่ประชุม ครม.นัดที่ผ่านมา
และที่ประชุม ครม.ได้ลงมติเห็นชอบให้ทำคลอด “ร่าง พ.ร.บ.ภาษีลาภลอย” หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ “ร่าง พ.ร.บ.ภาษีการได้ประโยชน์จากการพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานด้านคมนาคม” ให้ออกมาใช้บังคับโดยเร็ว
คาดว่าปีหน้า พ.ร.บ. เก็บภาษีลาภลอย จะเริ่มโกยเงินเข้ากระเป๋ารัฐบาลได้อีกก้อนโต!!
“แม่ลูกจันทร์” สรุปย่อๆว่า “ร่าง พ.ร.บ.ภาษีลาภลอย” เป็น ก.ม.ฉบับใหม่ที่จะเก็บภาษีเพิ่มพิเศษ จากเจ้าของที่ดิน หรือเจ้าของห้องชุด หรือเจ้าของโครงการพัฒนาเชิงพาณิชย์ ที่ตั้งอยู่สองข้างของเส้นทางก่อสร้างรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน รถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ ทางด่วนพิเศษ ทางด่วนมอเตอร์เวย์ ท่าเรือ และสนามบินในอาณาเขตรัศมี 2.5 กม. ถึง 5 กม.
เมื่อมีการซื้อขายจำหน่ายจ่ายโอนเป็นมูลค่าตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป จะถูกเรียกเก็บภาษีลาภลอยเพิ่มอีก 5 เปอร์เซ็นต์
หากซื้อขายเปลี่ยนมืออีกก็จะโดนสะง่อมภาษีลาภลอย 5 เปอร์เซ็นต์ทุกครั้งไป
ถือเป็นนวัตกรรมถอนขนห่านเวอร์ชันใหม่ เพื่อหารายได้มาชดเชยรายจ่ายมหาศาลของรัฐบาล คสช.
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่า เหตุผลที่จะมีการจัดเก็บภาษีลาภลอยเพิ่มพิเศษจากภาษีประเภทอื่นๆที่จัดเก็บอยู่ในปัจจุบัน
เนื่องจากรัฐบาลได้อัดฉีดงบลงทุนพัฒนาโครงข่ายคมนาคม รถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง ทางด่วน สนามบิน และ
ท่าเรือไปอย่างมากมาย
ส่งผลให้ราคาที่ดิน อาคารชุด บ้าน จัดสรร และอาคารพาณิชย์ที่อยู่ใกล้เคียงโครงการพัฒนาของรัฐกระเด้งสูงขึ้นอีกเท่าตัว หรือหลายเท่าตัว
เท่ากับเจ้าของที่ดินอยู่ดีๆก็ได้ลาภลอยก้อนใหญ่หล่นทับตีนบวม
...
กระทรวงการคลังจึงเล็งเห็นช่องที่จะเก็บภาษีลาภลอยเป็นรายได้ไปชดเชยรายจ่ายที่รัฐบาลนำไปลงทุนโครงการเหล่านี้ตามสมควร
เช่นเดิมท่านมีที่ดินมูลค่า 30 ล้านบาท เมื่อมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าวิ่งผ่าน ทำให้ราคาที่ดินพุ่งขึ้นเป็น 100 ล้านบาท
เมื่อท่านขายที่ดินได้ในราคา 100 ล้านบาท ท่านต้องจ่ายภาษีลาภลอย 5 ล้านบาท ให้รัฐบาลเป็นการตอบแทน
เนื่องจากโครงการของรัฐทำให้ท่านขายที่ดินแพงขึ้นอีก 2 เท่าตัว
“แม่ลูกจันทร์” เห็นด้วยในหลักการที่รัฐบาลจะออก ก.ม.เก็บภาษีลาภลอย
เพราะภาษีลาภลอยจะกระทบเฉพาะผู้มีที่ดิน หรือสิ่งก่อสร้างที่มีมูลค่า 50 ล้านบาทขึ้นไป
แต่ “แม่ลูกจันทร์” มีข้อทักท้วงฝากถึง “นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์” รมว.คลัง ได้โปรดนำไปพิจารณา
คือการกำหนดให้ผู้มีที่ดิน หรือห้องชุด หรือบ้านจัดสรรในรัศมี 5 กม. จากโครงการรถไฟฟ้า ทางพิเศษ สนามบิน ท่าเรือ ต้องจ่ายภาษีลาภลอย
เป็นการกำหนดพื้นที่เก็บภาษีกว้างใหญ่เกินความจริง
เช่น ผู้ครอบครองที่ดิน หรือบ้าน จัดสรรที่อยู่ห่างจากมอเตอร์เวย์ หรือห่างจากเส้นทางรถไฟฟ้าฯ หรือห่างสนามบินถึง 5 กม.
คนกลุ่มนี้ไม่ได้ประโยชน์จากโครงการก่อสร้างโดยตรง
ราคาที่ดินก็ไม่ได้สูงขึ้นจากโครงการของรัฐแต่อย่างใด
แต่กลับต้องจ่ายภาษีลาภลอยเพิ่มอีก 5 เปอร์เซ็นต์
“แม่ลูกจันทร์” เห็นว่าควรปรับลดพื้นที่เก็บภาษีลาภลอยจากรัศมี 5 กม.ให้แคบลงไม่เกิน 2 กม.
คือเก็บเฉพาะผู้ที่ได้ “ลาภลอย” จากโครงการลงทุนของรัฐอย่างชัดเจน
แค่รัศมี 2 กม.ก็เยอะแล้ว...อย่ากวาดเรียบถึง 5 กม.เลยโยม.
"แม่ลูกจันทร์"