เพื่อไทยเอาคืนกลุ่มสามมิตร “สุชาติ” ยื่น กกต. ระงับจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐ บี้ดำเนินคดีแกนนำแก๊งดูด แฉ “สมคิด” ต้อนอดีต ส.ส. ไปโรงแรมหรูทั้งกล่อมทั้งขู่จะไม่มีเลือกตั้ง เล่นงาน “สุริยะ-สมศักดิ์” ผิด พ.ร.บ.พรรคการเมือง มาตรา 30-31 ข้อหาให้เงิน เสนอผลประโยชน์ทางตรงทางอ้อม จี้เอาผิด “บิ๊กป้อม” ขัด รธน.มาตรา 169 (4) ออกหน้ากางปีกป้อง “วรชัย” สวน ทรท.ชนะถล่มทลายเพราะ “ทักษิณ” ไม่เกี่ยวชื่อชั้นอดีตแม่บ้านพรรค ท้ามั่นใจจะเข้าวินให้รีบจัดกาบัตร “อัสนี” ยิงมุกอยากเปลี่ยนนามสกุล ขำๆถูกเชิดอ้างชื่อยกกลุ่มพลังโคราชซบพรรค คสช. “อภิสิทธิ์” เผยมีคนตื๊อดึง “อภิรักษ์” แต่ไม่ไป “เฮียกวง” ทำงงดูแต่เศรษฐกิจ ไม่ได้ดูการเมือง โบ้ยไม่รู้ไม่เห็นกลุ่มเพื่อนลุยดีลการเมือง “ประวิตร” โต้ลำเอียงสวนทีพรรคอื่นยังรวมก๊วนตีกอล์ฟได้หลังจากพรรคเพื่อไทยออกมาวิพากษ์วิจารณ์ตอบโต้กลุ่มสามมิตร ที่เดินสายดูดอดีต ส.ส.ให้เข้าร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐของ คสช. ล่าสุดนายสุชาติ ลายน้ำเงิน อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ระงับและไม่อนุญาตให้จัดตั้งพรรคพลังประชารัฐ รวมทั้งร้องให้เอาผิดแกนนำกลุ่มสามมิตร กระทำผิด พ.ร.บ.พรรคการเมือง เสนอผลประโยชน์ให้อดีต ส.ส.ย้ายพรรค และร้องเอาผิด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ผู้ให้การสนับสนุน เข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 169 (4) พท.ร้อง กกต.ระงับตั้งพรรค พปชร.เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 2 ก.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสุชาติ ลายน้ำเงิน อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย เข้ายื่นหนังสือต่อประธาน กกต.และเลขาธิการ กกต.ผ่านนายสมพล พรผล ผอ.สำนักงานกิจการพรรคการเมือง เป็นผู้รับหนังสือ เพื่อขอให้ระงับและไม่อนุญาตให้จัดตั้งพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่มีนายชวน ชูจันทร์ ยื่นขอจดจัดตั้งพรรค พร้อมทั้งดำเนินคดีและตรวจสอบกรณีกลุ่มสามมิตรที่นำโดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เนื่องจากมีการดูดอดีต ส.ส.เพื่อเข้าร่วมพรรคพลังประชารัฐ พร้อมให้ไต่สวน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องในการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯคนต่อไปเชือด “บิ๊กป้อม” ขัด รธน.หนุนสามมิตรนายสุชาติกล่าวต่อว่า แม้พรรคพลังประชารัฐ จะยังไม่เป็นพรรคการเมือง แต่เอาเปรียบพรรคการเมืองอื่นที่ยังไม่มีการประชุม แต่กลุ่มสามมิตรกลับเดินสายดูดอดีต ส.ส.เข้าร่วม โดยมีนายสมคิด นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม นายสนธิรัตน์ สนธิ-จิรวงศ์ รมว.พาณิชย์อยู่เบื้องหลัง รวมทั้งกรณีที่ พล.อ. ประวิตรกล่าวสนับสนุนการกระทำของนายสุริยะดูด ส.ส.เข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 169 (4) บัญญัติห้ามมิให้คณะรัฐมนตรี ใช้ทรัพยากรของรัฐ หรือบุคลากรของรัฐ เพื่อกระทำการใดอันอาจมีผลต่อการเลือกตั้งแฉ “สมคิด” ปิดโรงแรมหรูทั้งกล่อม-ขู่“นายสมคิดใช้ทำเนียบรัฐบาล ในการร่างนโยบาย ของพรรค แล้วยังมีการนัดพบอดีต ส.ส. ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เมื่อวันที่ 11 พ.ค. เวลา 14.00 น. โดยมีการเสนอผลประโยชน์ให้ พร้อมทั้งให้ดูนโยบาย 10 ข้อ ที่พรรคพลังประชารัฐจะดำเนินการให้เสร็จ โดยอ้างว่าถ้าทำไม่เสร็จจะไม่มีการเลือกตั้ง วันนี้ชาวบ้านกำลังดูอยู่ว่านายสมคิดอยู่เบื้องหลังกลุ่มสามมิตรจริงหรือไม่ ขอให้นายสมคิดออกมาพูด ถ้าไม่อยู่ ต้องบอกให้ได้ว่านโยบาย 10 ข้อ ต้องทำให้เสร็จก่อนเลือกตั้ง ทำไว้เพื่ออะไร เพราะนายสมคิดเป็นคนไปพูดกับนายภิรมย์ พลวิเศษ อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชาชน และคณะทำงานประสานงานประชาสัมพันธ์ผู้เข้าร่วมกลุ่มสามมิตร ที่ จ.นครราชสีมา เมื่อเดือน เม.ย. แล้วนายภิรมย์ก็โทร.มาชวนผม จึงบอกว่าจะเอาอะไรไปสู้พรรคใหญ่ๆ เขา นายภิรมย์บอกว่าพรรคพลังประชารัฐเตรียมนโยบาย 10 ข้อไว้แล้ว ผมไม่เชื่อเขาจึงส่งไลน์มาให้ดู” นายสุชาติกล่าวฟันแก๊งดูดยื่นประโยชน์ผิด ก.ม.พรรคนายสุชาติกล่าวว่า นอกจากนี้ กรณีนายสมศักดิ์และนายสุริยะไปเสนอให้ผลประโยชน์กับอดีต ส.ส. ทั้งทางตรงและทางอ้อม จะเข้าข่ายผิดมาตรา 30 และ 31 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรค การเมือง ที่กำหนดว่าห้ามมิให้พรรคการเมืองหรือผู้ใด ให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน หรือประโยชน์อื่นใด ไม่ว่าโดยตรง หรือโดยอ้อมเพื่อจูงใจให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค จะมีโทษตามมาตรา 109 จำคุก 5-10 ปี ปรับ 1-2 แสนบาท ทั้งจำทั้งปรับ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง วิธีการชักชวนของกลุ่มสามมิตร จะถามว่ามีหนี้เท่าไหร่ อยากได้เงินเดือนเท่าไหร่ อยากได้เงินก้อนเพื่อทำมาหากินเท่าใด ตอก “สุริยะ” ทรท.ชนะเพราะ “ทักษิณ”นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวตอบโต้กรณีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำกลุ่มสามมิตร ระบุเป็นเลขาธิการพรรคไหนพรรคนั้นได้เป็นรัฐบาล ว่า พรรคไทยรักไทยชนะเลือกตั้งเป็นเพราะมีหัวหน้าพรรคชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไม่ใช่เพราะมีนายสุริยะเป็นเลขาธิการพรรค นโยบายลดความเหลื่อมล้ำ ลดช่องว่างคนจนคนรวยมาจากนายทักษิณ ไม่ใช่มาจากนายสุริยะ ที่ระบุถ้า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ยึดอำนาจประชาชนจะเข่นฆ่ากันนั้น ตอนนั้นรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว ผู้ชุมนุมแต่ละฝ่ายเริ่มอ่อนกำลัง ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ผบ.ทบ. ขณะนั้นออกมาทำหน้าที่เต็มกำลัง บ้านเมืองจะมีทางออกตามวิธีทางประชาธิปไตย แต่นี่ท่านไม่ได้ใช้กำลังที่มีอยู่แก้ปัญหาความขัดแย้ง แต่กลับทำรัฐประหารทำให้ความขัดแย้งยังไม่ยุติจนทุกวันนี้ท้ามั่นใจเข้าวินให้รีบจัดเลือกตั้งนายวรชัยกล่าวอีกว่า การที่นายสุริยะระบุว่า การแก้ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศสูงถึง 4.8 ต้องถามว่ารายได้ที่เพิ่มขึ้นมาไปอยู่ที่ไหน ทำไมงบประมาณของประเทศถึงขาดดุลเพิ่มขึ้นทุกปี คำตอบคือรายได้ไปอยู่ที่กลุ่มนายทุน และรายได้ที่ได้มาไม่เพียงพอต่อรายจ่ายของรัฐบาล ประชาชนคนรากหญ้ายังลำบากอยู่ ถ้ามั่นใจว่าสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ทำประชาชนได้ประโยชน์ขอท้าให้รีบจัดการเลือกตั้ง ต่อให้จะดูดอดีต ส.ส.ไปเท่าไหร่ แต่มั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้ง เพราะผลงานก่อนหน้านี้ ประชาชนได้ประโยชน์ทั้งประเทศ ไม่ใช่ได้ประโยชน์แต่กลุ่มนายทุนเหมือนทุกวันนี้ ซัดบังคับใช้ ก.ม.ต้องไม่เลือกปฏิบัตินพ.ชลน่าน ศรีแก้ว อดีต รมช.สาธารณสุขและอดีต ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ระบุการเคลื่อนไหวของกลุ่มสามมิตรไม่ถือเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง ว่า การบังคับใช้กฎหมายต้องบังคับทั่วไปไม่เลือกปฏิบัติ ยังมีคำสั่งห้ามชุมนุมทางการเมืองห้ามไม่ให้พรรคทำกิจกรรมอยู่ กลุ่มสามมิตรเดินทางเพื่อแสวงหา ส.ส.เข้ากลุ่ม ชัดเจนเป็นการดำเนินการทางการเมือง การที่ คสช.ปล่อยผ่านเป็นการเลือกปฏิบัติไม่ดำรงความเป็นธรรมให้คนในสังคม ส่งผลให้กระทบต่อความน่าเชื่อถือ ถ้าจะให้ฝ่ายหนึ่งเคลื่อนไหวต้องให้อีกฝ่ายเคลื่อนไหวตามกรอบที่กฎหมายกำหนด ไม่เช่นนั้นเหมือนออกกฎหมายเพื่อตัวเอง ปกป้องตัวเอง ส่วนการตีกอล์ฟของพรรคเพื่อไทย พรรคตั้งชมรมเชื่อมความสัมพันธ์ของผู้อาวุโสในพรรค เราเล่นมานานแล้วนัด 2-3 เดือนต่อครั้ง ล่าสุดที่สนามกอล์ฟอัลไพน์ 36 คนไม่ได้พูดคุยเรื่องการเมืองกินข้าวแล้วแยกย้าย ไม่ได้เช็กรายชื่อสมาชิก การเล่นกอล์ฟจะนัดกันต่อไป โดยไม่เกี่ยวกับกิจกรรมทางการเมือง ตีกอล์ฟใครๆก็น่าจะทำได้ แต่พอเป็นพรรคเพื่อไทยจะถูกจับตามอง ถูกเฝ้าระวังตลอด“อัสนี” รับรวมพลเพื่อคนโคราชนายอัสนี เชิดชัย อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวตระกูลเชิดชัยกับอดีต ส.ส.นครราชสีมาในนามกลุ่มพลังโคราชจะย้ายไปร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ ว่า ที่ผ่านมาอดีต ส.ส. ในพื้นที่ ทั้งที่เคยอยู่พรรคเดียวกันและต่างพรรคมานั่งคุยกันถึงสถานการณ์บ้านเมือง โดยเฉพาะโคราชบ้านเรา แล้วเห็นตรงกันว่าที่ผ่านมา เราเสียดายโอกาส การพัฒนาเมืองโคราช น่าจะไปได้ไกลกว่าที่เป็นอยู่ เพราะเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ รองจากกรุงเทพฯ เพื่อให้เป็นศูนย์กลางความเจริญของภาคอีสาน เป็นประตูเชื่อมโยงสู่อาเซียน เรามีความพร้อม มีทรัพยากรในทุกด้าน เป็นเมืองท่องเที่ยว เป็นศูนย์ กลางการค้า และอุตสาหกรรม การขนส่ง มีศักยภาพมากพอที่จะพัฒนาให้เจริญก้าวหน้า เป็นเมืองสำคัญ ดังนั้นพวกเราจึงเห็นควรรวมตัวมาอยู่ด้วยกันเป็นพรรคเดียว วางแนวการพัฒนาเมืองโคราชในนามของกลุ่มเรา ที่ยึดเอาผลประโยชน์ของพี่น้องคนโคราชอย่างแท้จริง มุ่งหวังจะผลักดันให้โคราชเป็นศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรม ด้านการขนส่งโลจิสติกส์ และด้านการศึกษา การท่องเที่ยว เป็นประตูของภูมิภาคเชื่อมโยงสู่อาเซียนได้อย่างเป็นรูปธรรมขำๆถูกเชิดอ้างชื่อซบพรรค คสช.เมื่อถามว่า แต่มีอดีต ส.ส.นครราชสีมาบางคนไปร่วมงานเปิดตัวกับกลุ่มสามมิตร แล้วระบุว่ากลุ่มพลังโคราชตกลงย้ายไปเข้าร่วมกับ พปชร.เรียบร้อยแล้ว นายอัสนี หัวเราะพร้อมกล่าวว่า “สงสัยผมคงต้องไปเปลี่ยนนามสกุลแล้วล่ะมั้ง เพราะนามสกุล “เชิดชัย” ก็เลยถูกคนเชิดไปตรงนั้น เชิดไปตรงนี้อยู่ตลอด เท่าที่คุยกันไว้ก็ยังเป็นภาพกว้างๆ ยังไม่ตกผลึกว่าต้องไปอยู่ตรงไหน อย่างไร ที่จริงไม่ว่าใครมาคุย กับผม ผมก็ยินดีทั้งนั้น เห็นด้วยกับการที่จะทำงาน เพื่อตอบแทนพระคุณแผ่นดินถิ่นเกิด ตอบแทนบุญคุณพี่น้องชาวโคราช และผมยังมีภารกิจปรับปรุงธุรกิจของครอบครัวไปด้วย ขณะที่การทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน อยู่ในจิตวิญญาณของตนตลอดเวลา แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานประชาธิปไตย” “มาร์ค” เผยมีคนตื๊อดึง “อภิรักษ์”นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกฯ กล่าวถึงกระแสข่าวนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถูกกลุ่มสามมิตรดูดไปร่วมพรรคพลังประชารัฐว่า หลังจากให้สัมภาษณ์ไปเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.มั่นใจว่าไม่มีการย้ายพรรค แม้จะยังไม่ได้พูดคุยกับเจ้าตัว เพราะทำงานกันมานานกว่า 15 ปี นายอภิรักษ์มีความมั่นคง และเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ก่อนจะลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. วันเข้ามาเป็นวันที่พรรคประชาธิปัตย์อยู่ในภาวะลำบาก ความมั่นคงตรงนี้จึงวางใจได้ และได้โทรศัพท์ไปสอบถามนายอภิรักษ์ ท่านยืนยันมาว่าถูกต้องแล้ว ช่วงหลังที่ไม่ค่อยมาปรากฏตัวที่พรรค เนื่องจากทำธุรกิจและมีภาระค่อนข้างมาก นายอภิรักษ์เปิดเผยว่าผู้ใกล้ชิดกับกลุ่มสามมิตรบางคนที่มีตำแหน่งในรัฐบาล เป็นเพื่อนกับนายอภิรักษ์ได้พูดคุยกัน แต่ไม่ได้ลงลึกในรายละเอียด ทราบว่ามีความพยายามติดต่อจีบนายอภิรักษ์ แต่ส่วนตัวยังมั่นใจและไว้วางใจจึงรู้สึกเฉยๆ “เฮียกวง” โบ้ยไม่รู้เห็นดีลสามมิตรที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีชื่อเล่นว่า “กวง” กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มสามมิตร เดินสายทาบทามนักการเมืองร่วมสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ อีกสมัยว่า ไม่รู้กับการเคลื่อนไหวของกลุ่มสามมิตร เพราะตนดูเศรษฐกิจ ไม่ได้ดูการเมือง สัปดาห์ที่ผ่านมาติดภารกิจต่างประเทศ เพิ่งเดินทางกลับมาเมื่อคืนวันที่ 1 ก.ค. กลับมาก็เห็นข่าวเยอะแยะไปหมด ยังงงๆอยู่เลย การที่กลุ่มสามมิตรประกาศสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯอีกสมัยนั้น เป็นการตัดสินใจของแต่ละคน และคงเห็นว่าตนสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์อยู่ด้วย รวมถึงคนไทยส่วนใหญ่ต่างสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่อ เมื่อถามว่า แกนนำกลุ่มสามมิตรระบุดีลการเมืองผ่านท่าน นายสมคิดกล่าวว่า เพื่อนกันทั้งนั้น พรรคการเมืองส่วนใหญ่รู้จักกันหมด “ประวิตร” โต้เอียงพรรคอื่นยังตีกอล์ฟได้ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายการเมืองโจมตีว่าลำเอียงให้กลุ่มสามมิตรเคลื่อนไหวทางการเมืองได้มากกว่าพรรคอื่นว่า กลุ่มสามมิตรเคลื่อนไหวพบปะกลุ่มการเมือง แล้วพรรคอื่นๆที่นัดกันไปตีกอล์ฟไปคุยกัน ไม่เห็นว่าอะไรเลย ทำไมไม่โจมตี ทำไมถึงไม่บอกว่าไปดูด ส.ส.บ้าง แล้วตนลำเลียงตรงไหนและยังไม่รู้จักเลยว่ากลุ่มสามมิตรเป็นใคร เขาไปทำอะไรและไปหาใคร ตนลำเอียงเรื่องอะไร ไม่รู้จักนายสุริยะ ส่วนที่เขารู้จักตนก็รู้จักไปที่มีชื่อนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รวมในกลุ่มสามมิตรนั้นคงไม่ใช่ ตนยังไม่เคยเจอเขาเลยที่บอกว่ากลุ่มสามมิตรอยู่พรรคพลังประชารัฐ พรรคเกิดขึ้นหรือยัง เป็นเพียงการจดแจ้งชื่อจัดตั้งพรรคที่ กกต.เท่านั้น เมื่อถามย้ำว่ากลุ่มสามมิตร ได้พูดคุยกับคนในรัฐบาล เช่น นายสมคิด นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เขาไม่ได้คุยกับตนแล้วจะไปรู้ได้อย่างไรสวนไม่เกี่ยว คสช.ไม่เป็นกลางเมื่อถามว่า กลุ่มสามมิตรมีการดูด ส.ส.จากพรรคการเมืองอื่นๆ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไปดูดให้ใคร พรรคของใคร ใครเป็นคนตั้ง กฎหมายยังไม่เสร็จ ส่วนที่กลุ่มสามมิตรสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเรื่องของเขา ตนจะไปรู้อะไร การเคลื่อนไหวของกลุ่มสามมิตรต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย คสช.เช่นเดียวกับพรรคอื่นๆ เมื่อถามต่อว่า กลุ่มสามมิตรอ้างว่าไม่ใช่พรรคการเมือง การเคลื่อนไหวต่างๆ จึงไม่ขัดคำสั่ง คสช. พล.อ.ประวิตรตอบว่า ไม่เกี่ยว เขาก็คุยของเขาไปเอง ตนไม่รู้เรื่องว่าเขาจะมาสนับสนุนใคร แต่ขออย่างเดียวอย่าปั่นป่วน เกิดความไม่เรียบร้อย หรือโฆษณาชวนเชื่อ ที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่ เป็นกลางของ คสช. ไม่เป็นกลางอย่างไร ตนพูดอยู่คนเดียวจะเกี่ยวกับ คสช.อย่างไร และไม่ได้สั่ง คสช.ว่าให้ไปดำเนินการกับใคร ทุกกลุ่มทุกพรรคการเมืองเคลื่อนไหวได้อยู่แล้วตามกรอบ ขนาดไปตีกอล์ฟกันตนก็ไม่เห็นว่าอะไร ถ้าจะไปตีกอล์ฟกันมากขึ้นก็ไปตีกันเลย กฎหมายท้องถิ่นจ่อเข้า สนช.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่น 6 ฉบับ ว่าการจัดทำร่างดังกล่าวยังไม่เสร็จเรียบร้อย ขณะนี้อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อเสร็จแล้วคงจะไม่มีการปรับแก้ไขใดๆ อีก คาดว่าจะเสนอเข้าที่ประชุม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้ภายในเดือน ส.ค. ถ้าจะต้องมีการปรับแก้ไขคงอยู่ในขั้นตอนของ สนช.ปิดหีบฟังความเห็น พ.ร.บ.คณะสงฆ์นายวิษณุกล่าวอีกว่า สำหรับการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ว่า หลังจากคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นเสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้ว และได้ปรับแก้ไขร่างดังกล่าวขณะนี้ได้ส่งไปยัง สนช. แล้ว และจะไม่มีการเปิดความคิดเห็นตามที่มีกระแส เรียกร้องของบางฝ่าย
