"สวนดุสิตโพล" เผยคนเห็นด้วยมีเลือกตั้ง ชี้นายกฯ ควรออกมาประกาศวันเวลาอย่างเป็นทางการ มองได้ผลดี เป็นประชาธิปไตย หวั่นไม่มีเลือกตั้ง จะทำให้เศรษฐกิจแย่กว่าเดิม ต่างชาติไม่มาลงทุน...

เมื่อวันที่ 1 ก.ค. "สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,136 คน จากที่รัฐบาลได้มีการหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ และพรรคการเมือง เพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการเลือกตั้ง โดยมีการวางกรอบเวลาการเลือกตั้งในช่วง 24 ก.พ.-5 พ.ค. 62 ส่งผลให้การกำหนดวันเลือกตั้งในปี 2562 เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น ทั้งพบว่า อันดับ 1 เห็นด้วย เป็นข่าวดี อยากให้มีการเลือกตั้ง 54.17% ส่วนอันดับ 2 เป็นเพียงการคาดคะเน ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ยังไม่แน่ใจ 27.08% อันดับ 3 คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องจริง เพราะรัฐบาลเป็นผู้ให้ข่าว 24.03% อันดับ 4 รอให้นายกฯ ออกมาแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ 22.50% และอันดับ 5 น่าจะเป็นผลดีต่อประเทศ ต่างชาติจับตามองสถานการณ์ในไทย 13.89%

ส่วนความเชื่อมั่นว่าจะมีการเลือกตั้งในปี 2562 มากน้อยเพียงใด พบว่า อันดับ 1 ไม่ค่อยเชื่อมั่นว่าจะมีเลือกตั้ง 36.88% เพราะบ้านเมืองยังมีปัญหา ยังมีความวุ่นวาย มีข้อมูลหลายกระแส ยังไม่แน่ใจ ยังไม่รู้ข้อมูลข้อเท็จจริง ฯลฯ อันดับ 2 ค่อนข้างเชื่อมั่นว่าจะมีเลือกตั้ง 25.09% เพราะหลายฝ่ายกดดัน กระแสสังคมอยากให้มีการเลือกตั้ง มีกระแสข่าวกำหนดวันเลือกตั้งออกมาอย่างต่อเนื่อง ฯลฯ

อันดับ 3 ไม่เชื่อมั่นเลย 20.86% เพราะที่ผ่านมามีการกำหนดวันและมีการเลื่อน รัฐบาลมีอำนาจเด็ดขาดในการตัดสินใจ สถานการณ์บ้านเมืองไม่แน่นอน ต้องรอประกาศที่ชัดเจนจาก กกต. ฯลฯ
และอันดับ 4 เชื่อมั่นว่าจะมีเลือกตั้งแน่นอน 17.17% เพราะ เป็นไปตามระยะเวลาที่รัฐบาลกำหนดไว้ มีการแก้ไขกฎหมายและเตรียมพร้อมเพื่อจัดการเลือกตั้ง หลายพรรคเริ่มมีการเคลื่อนไหวเตรียมผู้สมัคร ฯลฯ

...

ทั้งนี้สิ่งที่จะทำให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าจะมีการเลือกตั้งในปี 2562 อย่างแน่นอน พบว่า อันดับ 1 นายกฯ ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการ ระบุวัน เวลา ที่แน่นอน 57.54% อันดับ 2 รัฐธรรมนูญเสร็จเรียบร้อย ปลดล็อกพรรคการเมือง 36.14% อันดับ 3 กกต. ออกมาประกาศข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 25.28% อันดับ 4 ดำเนินการตามโรดแม็ป ไม่เลื่อน 19.94% และอันดับ 5 คสช. เป็นรัฐบาลรักษาการ เตรียมพร้อมรอการเลือกตั้ง 17.50%

สำหรับผลดีที่จะมีการเลือกตั้งในปี 2562 พบว่า อันดับ 1 เป็นประชาธิปไตย ประชาชนได้ใช้สิทธิ มีส่วนร่วมทางการเมือง 43.15% อันดับ 2 ต่างชาติเชื่อมั่น มีการค้าการลงทุน เศรษฐกิจดีขึ้น 37.23% อันดับ 3 บ้านเมืองพัฒนา ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ 30.78% อันดับ 4 มีนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง มีฝ่ายค้านคอยตรวจสอบ 22.04% และอันดับ 5 สถานการณ์ทางการเมืองดีขึ้น เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง 11.96%

ส่วนผลเสีย ถ้าไม่มีการเลือกตั้งในปี 2562 พบว่า อันดับ 1 เศรษฐกิจแย่ลงกว่าเดิม ต่างชาติไม่เชื่อมั่น ไม่มาลงทุน 51.52% อันดับ 2 เกิดการชุมนุม เคลื่อนไหว บ้านเมืองไม่สงบ 29.41% อันดับ 3 ประชาชนไม่เชื่อถือ ไม่เชื่อมั่น ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาล 19.07% อันดับ 4 การเมืองไม่เข้มแข็ง ไม่เป็นประชาธิปไตย ขาดการตรวจสอบ คานอำนาจ 16.58% และอันดับ 5 พรรคการเมือง นักการเมืองถูกลดบทบาท ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ 16.04%

ขณะที่การเลือกตั้งในปี 2562 ทำอย่างไร จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และไม่วุ่นวาย พบว่า อันดับ 1 ทุกคนทุกฝ่ายต้องให้ความร่วมมือ เคารพสิทธิซึ่งกันและกัน 42.66% อันดับ 2 จัดระเบียบการเลือกตั้ง กฎระเบียบเคร่งครัด อยู่ในกติกา เคารพกฎหมาย 38.32% อันดับ 3 รัฐบาลมีการหารือพูดคุยกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง มีข้อตกลงร่วมกัน 34.10% อันดับ 4 มีการวางแผนอย่างเป็นระบบ มีขั้นตอนที่ชัดเจน 22.83% และอันดับ 5 สื่อนำเสนอข่าวเป็นจริง ไม่บิดเบือน ไม่สร้างกระแส 9.78%

อย่างไรก็ตาม ถ้ามีการเลือกตั้งแล้ว ประชาชนคิดว่าการเมืองไทยจะเป็นอย่างไร พบว่า อันดับ 1 ดีขึ้น 52.34% เพราะการเมืองมีเสถียรภาพ เป็นประชาธิปไตย ได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เศรษฐกิจดีขึ้น ต่างชาติเชื่อมั่น การบริหารประเทศคล่องตัว มีการตรวจสอบ คานอำนาจ บ้านเมืองพัฒนา ฯลฯ อันดับ 2 เหมือนเดิม 42.06% เพราะการเมืองไทยเป็นเรื่องของอำนาจและผลประโยชน์ ส่วนใหญ่เป็นนักการเมืองหน้าเก่า ยังคงทะเลาะเบาะแว้ง แบ่งฝักแบ่งฝ่ายเหมือนเดิม ฯลฯ อันดับ 3 แย่ลง 5.60% เพราะบ้านเมืองยังคงมีปัญหา แก้ไขได้ยาก อาจเกิดสถานการณ์ความวุ่นวาย มีผู้ที่เสียประโยชน์ ฯลฯ.