ช่วงนี้ แวดวงการเมืองไทย เริ่มคึกคัก มีสีสัน อุณหภูมิเริ่มร้อนแรงขึ้นทันที เมื่อตัวละครใหญ่เริ่มเคลื่อนไหวอย่างเห็นได้ชัด ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เดินทางเยือน อังกฤษ และฝรั่งเศส ขณะที่ นายทักษิณ ชินวัตร ใช้วาระจัดวันเกิดครบ 51 ปี ให้น้องสาวสุดที่รัก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ส่งสัญญาณเข้มทางการเมือง โดยรวม คือ มั่นใจพรรคเพื่อไทยจะชนะเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นช่วงต้น ก.พ.ปี 62 บอกเป็นนัย พรรคเพื่อไทย มีโอกาสเขียวทั้งอีสาน

ขณะวันต่อมา นายทักษิณ ให้สัมภาษณ์ ”บีบีซีไทย” ถึงความเป็นไปได้ว่าเลือกตั้งจะเกิดในเดือน ก.พ.ปีหน้า ปี 2562 หรือไม่ ว่า “สาธุ...ขอให้เกิดเถอะ เพราะสงสารประชาชนจริงๆ” โดยมองว่า พรรคเพื่อไทย ชนะที่ 1 แน่นอน เมื่อถึงวันที่มีการเลือกตั้ง

...

พร้อมระบุ ที่ผ่านมาเพราะประชาชนคนไทยเป็นคนพุทธส่วนใหญ่ อาจยอมอดทน อดกลั้น นั่งนิ่งเฉย รอไปก่อน คิดว่าวันหนึ่งจะแสดงพลังอำนาจอย่างสุจริต ซึ่งจะรู้อะไรเป็นอะไร “ถ้าเป็นลูกผู้ชายอย่าขี้โกง โดยเฉพาะชายชาติทหาร อย่าไปคิดโกงเด็ดขาด ไม่อายใครก็อายตัวเอง” นายทักษิณ กล่าวทิ้งท้าย (ชมคลิปที่นี่)

ปรากฏการณ์นี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าคอการเมืองเมื่อเห็นความเคลื่อนไหวของนายใหญ่และน้องสาวนั้น ต่างก็คิดว่า ทางหนึ่ง ทักษิณ มีความมั่นใจจริงๆ ว่าเพื่อไทยจะกวาดชนะเลือกตั้งในปี 62 อีกทางก็เห็นว่า อาจเป็นกลยุทธ์พยายามเพื่อหยุดเลือดไหล อดีต ส.ส.เพื่อไทย ออกจากพรรคจากพลังดูด

ขณะที่ช่วงเช้าที่ผ่านมา สื่อหลายสำนักรายงานว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ถึงกับนั่งน้ำตาคลอ ระหว่างการสอบถามถึงเหตุผลที่ ป.ป.ช. มีมติไม่รื้อฟื้นคดีสลายการชุมนุม นปช. ปี 2553 เนื่องจากเห็นว่ามติเดิมที่ ป.ป.ช. วินิจฉัยไปถูกต้องแล้ว ทั้งยังระบุอีกว่า ไม่ยอมรับมติ ป.ป.ช. เตรียมรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งกว่า 2 หมื่นคน ยื่นประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ยื่นศาลฎีกาตั้งกรรมการไต่สวน ป.ป.ช. แถมยังบอกอีกว่า อนาคตต้องเจอกันแน่

ปรากฏการณ์นี้ก็ไม่ธรรมดา คอการเมืองต่างก็วิเคราะห์กันไปต่างๆ นานาว่า ที่ นายณัฐวุฒิ ต้องทำเช่นนั้น เพราะต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับพี่น้อง นปช.ที่เสียชีวิตจากเหตุชุมนุมเมื่อปี 2553 หรืออีกด้านก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า การเคลื่อนไหวนี้อาจเป็นการ เช็ก หรือปลุกกระแสแนวร่วมเสื้อแดง เพื่อให้ทราบว่ายังมีแนวร่วม นปช.มากน้อยเพียงใด

แต่ปรากฏการณ์ 2 ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้ที่ติดตามการเมืองในประเทศมาโดยตลอด ก็คงเชื่อว่า ทั้งหมดนี้อาจเป็นกลยุทธ์ ”แยกกันเดินแต่ร่วมกันตี” ของทั้ง "นายใหญ่" และ "นปช." เพื่อเป้าหมายสำคัญ คือ การชนะเลือกตั้งใหญ่ ที่กำลังจะมีขึ้นในปี 2562 นี้ก็เป็นได้...