ใกล้ลงตัว พรรคสู้เลือกตั้ง

ทางกฎหมายเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งใหญ่นั้นใกล้เข้ามาทุกขณะ ล่าสุด พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ส.ศาลรัฐธรรมนูญตีความแล้วว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ

เป็นอันว่าต้องรอให้นายกฯนำขึ้นทูลเกล้าฯและประกาศใช้อย่างเป็นทางการในพระราชกิจจานุเบกษาก็เป็นอันว่าครบทุกปัจจัยที่นำไปสู่การเลือกตั้งได้

กฎหมายลูก 10 ฉบับเสร็จเรียบร้อย หน้าที่ของ กรธ.ก็หมดไป 1 ในแม่นํ้า 5 สายก็ถึงวาระพ้นจากตำแหน่งไปโดยปริยาย

เหล่านี้คือปัจจัยที่ทำให้พอจะยืนยันได้ว่า ก.พ.ปี 62 ต้องมีเลือกตั้ง

ว่าไปแล้วบรรยากาศทางการเมืองในห้วงนี้ดูเหมือนจะอยู่ระหว่างการเตรียมพร้อมเพื่อลงสนามเลือกตั้ง

อยู่ที่ว่า คสช.จะสั่งปลดล็อกเมื่อไร การเคลื่อนไหวก็จะชัดเจนเป็นรูปธรรม

นั่นก็หมายความว่า คสช.จะต้องนัดหมายให้พรรคการเมืองทุกพรรคและองค์กรที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมเจรจาและปักหมุดในทิศทางเดียวกัน

ที่ควรทำไปพร้อมๆกันก็คือ กกต.จะต้องเดินหน้าเตรียมความพร้อมเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่เกิดปัญหาภายหลัง เนื่องเพราะกฎกติกาเปลี่ยนไปแม้จะมีประสบการณ์ก็ตาม

ล่าสุด กกต.แจ้งด้วยว่าได้ตรวจสอบการแจ้งยอดสมาชิกพรรคการเมือง 46 พรรค ซึ่งมียอดสมาชิกถูกต้อง

พรรคที่มียอดสมาชิกสูงสุดคือประชาธิปัตย์ 97,755 คน จากยอดเดิม 2,895,747 คน เพื่อไทย 9,705 คน จากเดิม 134,748 คน พรรคชาติพัฒนา 5,583 คน จากยอดเดิม 19,563 คน

นี่เป็นเพียงตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลง

แต่ในยอดรวม 46 พรรคนั้น ปรากฏว่ามี 5 พรรคที่เหลือหัวหน้าพรรคคนเดียวคล้ายกับว่าลูกพรรคหายเหลือหัวหน้าคนเดียวเพราะไม่มีสมาชิกยืนยันแม้แต่คนเดียว

5 พรรคประกอบไปด้วยพรรคเสรีนิยม พรรคชาติประชาธิปไตยก้าวหน้า พรรคประชาสันติ พรรคพลังประชาธิปไตยและพรรคมาตุภูมิ

...

“มาตุภูมิ” นั้น มี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตหัวหน้า คมช.ในฐานะหัวหน้าพรรคที่เคยรวบรวมนักการเมืองดังๆหลายคนหวังว่าจะมีโอกาสได้ ส.ส.เข้ามาเป็นจำนวนมาก เพราะเป็น “พรรคทหาร” ลูกผสม แต่สุดท้ายต้องเฮ...เก้อ เนื่องจากผู้สมัครสอบตกกันระนาว

ว่ากันว่า “นักการเมือง” สบายกระเป๋า แต่หัวหน้าพรรคร่วงโรยไปทันที

อีก 23 พรรคไม่รายงานการแจ้งยอดสมาชิกตามกำหนดเวลาทำให้ต้องสิ้นสมาชิกภาพไปโดยปริยายเช่นกัน

นอกเหนือจากพรรคการเมืองใหญ่ที่ชัดเจนในสนามเลือกตั้งแล้ว ยังมีพรรคการเมืองใหม่ที่ได้รับความสนใจว่าจะผ่าการเมืองไปได้ไกลแค่ไหน

“พลังประชารัฐ” ที่เด่นดังมาระยะหนึ่งแต่ระยะหลังดูจะเงียบไปคงอยู่ระหว่างรอจังหวะเพื่อเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

“อนาคตใหม่” พรรคคนรุ่นใหม่ดูเหมือนมีความเคลื่อนไหวมากสุดด้วยการเสนอแนวคิดทางการเมืองเพื่อหวังเรียกกระแสความนิยม

ด้วยการเปิดแนวรุกท้าทายสังคมเป็นอย่างยิ่ง

“รวมพลังประชาชาติไทย” เป็นอีกพรรคใหม่ทำท่าว่าจะมาแรงแซงโค้งได้เหมือนกัน ถือว่าเป็นพรรคที่ต่อยอดมาจากกลุ่ม กปปส. มีชื่อ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” เป็นสมาชิกด้วย

มีการระดมนักการเมือง นักวิชาการ นักคิด นักธุรกิจ และบรรดาแนวร่วม กปปส.เข้ามาอยู่ในสังกัดถือว่าได้สีสันไม่น้อย

ทิศทางการเมืองหลังเลือกตั้งจะเป็นยังไงต่อไปคงพอเห็นภาพรางๆแล้ว.

“สายล่อฟ้า”