ฉีก “รัฐธรรมนูญ คสช.” หัวข้อใหญ่ทางการเมืองก่อนเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง ประเด็นท้าทายสังคมวัดใจผู้ลงคะแนนว่าจะเอาหรือไม่ ยกระดับการต่อสู้ที่ชวนให้ คสช.ต้องสะดุ้งกว่า “พลังดูด”
ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้เหตุบ้านการเมืองวันนี้ดูยุ่งเหยิงไม่น้อยทั้งเรื่องฆราวาสและพระสงฆ์องค์เจ้าที่วุ่นวายจริงหนอ...
ว่าไปแล้วเรื่องของ “พุทธศาสนา” นั้น เป็นเรื่องใหญ่ไม่น้อยสำหรับประเทศ ไทย เพราะเป็นพุทธศรัทธาที่เกี่ยวพันกับคนไทยทุกคน
มีด้านดีก็มีด้านร้ายอันเป็นธรรมดาโลก
ที่ยังพยุงอยู่ได้ก็เพราะยังมี “พระดี” มากกว่า “พระร้าย” แต่ก็ต้องเร่งแก้ไขอย่างรีบด่วนก่อนที่จะไปไกลมากกว่านี้
การจัดการกับพระผู้ใหญ่ที่ทุจริตทั้งระบบถือว่าเป็นการเปิดทางเพื่อสะสางกันขนานใหญ่ให้กลับคืนมาสู่เส้นทางศรัทธาอีกครั้ง
แม้เป็นกิจของสงฆ์แต่ทุกคนจะต้องร่วมใจกันแก้ไข “ก่อนวิกฤติศรัทธา”
การเมืองว่าด้วยเรื่อง “เลือกตั้ง” น่าจะปักหมุดหมายชัดเจนยิ่งขึ้น เมื่อศาลรัฐธรรมนูญตีความชัดเจนล่าสุดระบุว่ากฎหมายลูกว่าด้วย ส.ส.ไม่ขัดรัฐธรรมนูญด้วยมติเอกฉันท์
อันไม่ต่างไปจากกฎหมายลูกว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.
นั่นเท่ากับว่ากฎหมาย 4 ฉบับอันเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว หากมองไปข้างหน้าการเลือกตั้ง ก.พ.ปี 62 ก็ไม่ไกลเกินเอื้อม
เหลือเพียงรอตีความปัญหาคำสั่ง 53/60 วันที่ 4 มิ.ย.61 คงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร หากผลออกมาทางใดทางหนึ่ง
ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยกระบวน การทางกฎหมาย
มาถึงสถานการณ์อย่างนี้ จึงเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายควรเดินหน้าไปสู่ถนนเลือกตั้ง ดีกว่าไปสร้างเงื่อนไขให้เกิด
ปมขัดแย้ง
...
ยังไงเสียรัฐบาล คสช.คงจะหาเหตุอ้างการเลือกตั้งให้ล่าช้าออกไปคงลำบากมากขึ้น เนื่องจากยังไม่มีตัวแปรใหม่
การเมืองในความเป็นจริง แต่ละพรรคการเมืองต่างก็คิดสูตรสำเร็จเพื่อหวังชนะการเลือกตั้งซึ่งเป็นรูปเป็นร่างมากยิ่งขึ้น
“อนาคตใหม่” พรรคคนรุ่นใหม่ภายใต้กลุ่มการเมืองซีกเก่า
หลังจากประชุมพรรค ได้หัวหน้า รองหัวหน้า กรรมการบริหารและโฆษกพรรคครบชุด ก็ประกาศนโยบายพรรคทันที
ที่พูดกันมากก็คือการฉีกรัฐธรรมนูญฉบับ คสช.
นอกจากนั้น ก็เป็นเรื่องที่คิดว่าจะ “จุดติด” สร้างกระแสเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากประชาชนเหมือนจุดพลุเป็นดาวรุ่ง
แต่ละเรื่องมีทั้งที่ถูกใจคน มีทั้งขัดใจสังคม
จึงเป็นเหตุให้ได้รับการยอมรับบางส่วน และถูกถล่มเละอีกบางส่วน
วันนี้หัวข้อสำคัญคือ เรื่องการฉีกรัฐธรรมนูญปี 60 ซึ่งน่าจะเป็นประเด็นใหญ่ที่จะทำให้พรรคการเมืองนำมาเป็นหัวข้อสำคัญ
เหตุผลก็คือ เป็นรัฐธรรมนูญฉบับ คสช.ที่ทำให้เกิดปัญหา
จากที่เคยจะปูพื้นว่าด้วยเอาไม่เอา “บิ๊กตู่” หรือ “เอาทหารไม่เอาทหาร”
เหตุผลน่าจะอยู่ที่ว่าเป็นการตีความ ที่ครอบจักรวาลมากกว่ามุ่งเน้นประเด็นย่อย ซึ่งมีพรรคการเมืองพร้อมที่จะเอาด้วย
ไม่เป็นประชาธิปไตย แม้จะเป็นครึ่งใบ พรรคการเมืองเก่าเสียเปรียบ
เป็นเรื่องที่ทำให้เห็นว่า “รัฐธรรมนูญ คสช.” คือต้นเหตุสำคัญ
แม้การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะทำได้ยากเพราะมีเงื่อนไขมาก แต่ต้องขึ้นอยู่กับประชาชนว่าจะเห็นด้วยหรือไม่
“วางบิล” ครั้งเดียวมีสิทธิกินสองต่อได้เลย!!!
“ลิขิต จงสกุล”