นายกฯ ชวนคนไทยรักสุขภาพงดสูบบุหรี่ หันดื่มนม ย้ำ รบ.ผลักดัน พ.ร.บ.ยาสูบใหม่ เจตนาปกป้องเยาวชนเป็นนักสูบหน้าใหม่

เมื่อเวลา 20.15 น. วันที่ 1 มิ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนว่าช่วงนี้มีวันสำคัญๆ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ได้แก่ วันงดสูบบุหรี่โลก 31 พ.ค.และวันดื่มนมโลก 1 มิ.ย.ของทุกปี เนื่องจากชาวโลกต่างก็เห็นพ้องต้องกันว่าทรัพยากรมนุษย์เป็นทรัพยากรที่มีค่ามากที่สุด จึงมีความพยายามร่วมกันรณรงค์ให้ทำในสิ่งที่ดีต่อร่างกาย คือ การดื่มนมและละเว้นในสิ่งที่ไม่ดีต่อร่างกาย คือ การงดสูบบุหรี่ ซึ่งตรงกับหัวใจของพระพุทธศาสนาที่ว่า "ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์" ที่เราสามารถนำไปประยุกต์ ปฏิบัติได้ไม่ยากนักในชีวิตประจำวัน จะทำให้ตนเองและสังคม มีแต่ความสุข ความเจริญ ทั้งนี้ทุกๆ ศาสนาต่างก็มีคำสอนของพระศาสดาที่ไม่แตกต่างกันมากนัก โดยมุ่งสอนให้ทุกคนเป็นคนดี

สำหรับการสูบบุหรี่นั้น อาจจะเป็นสัญลักษณ์ของการนำสิ่งที่ไม่ดีเข้าสู่ร่างกาย อาจเป็นบันไดขั้นแรกที่จะนำนักสูบหน้าใหม่ไปสู่ยาเสพติดรูปแบบอื่นๆ ได้อีก เราคงต้องหยุดเสียตั้งแต่ก้าวแรกของการหลงทางไปกับสารเสพติดทั้งหลาย ดังนั้นรัฐบาลนี้จึงได้ผลักดัน พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ พ.ศ.2560 เจตนาปกป้องเยาวชนไม่ให้เป็นนักสูบหน้าใหม่ คุ้มครองผู้คนรอบข้างให้ปลอดภัย ไม่ให้เป็นผู้รับควันบุหรี่มือสอง และลดจำนวนผู้สูบลง อาทิ การห้ามขายบุหรี่ให้เด็ก การจำกัดพื้นที่สูบ การจำกัดช่องทางการเข้าถึง และการปรับขึ้นราคาบุหรี่ เป็นต้น

เพราะจากสถิติที่น่าตกใจ คือคนไทยดื่มน้ำอัดลม เป็นอันดับ 1 ของอาเซียน มากกว่า 41 ลิตร ต่อคนต่อปี ดื่มแอลกอฮอล์ เป็นอันดับ 5 ของโลก มากกว่า 52 ลิตร ต่อคนต่อปี แต่กลับดื่มนม อยู่ในอันดับที่ 68 ของโลก เพียง 18 ลิตรต่อคนต่อปี หรือสัปดาห์ละ 2 แก้ว เท่านั้น น้อยกว่าค่าเฉลี่ยของโลก 113 ลิตรต่อคนต่อปี และเด็กทารกควรดื่มนมแม่ดีที่สุด รวมถึงน้ำนมข้าว ถือเป็นอีกหนึ่งทางช่วยรัฐบาลส่งเสริมการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากข้าว เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และขยายผลในเชิงพาณิชย์ ไปจนถึงการส่งออกไปขายต่างประเทศอย่างครบวงจร ช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย

...