นายกฯ ถอนหายใจเฮือกใหญ่ โวยทำอะไรถูกตีเป็นการเมืองไปหมด ลงพื้นที่ไม่ได้จัดให้เจออย่างที่ครหา ย้ำกำลังทำการบ้านไม่ได้ทำการเมือง ชี้ถ้าไม่ช่วยกันรัฐบาลชาติไหนก็ทำไม่ได้ ขออย่าพึ่งแต่พระสยามเทวาธิราช ให้ท่านพักบ้าง

เมื่อวันที่ 11 พ.ค.61 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) การเชื่อมโยงข้าว กข.43 และผลิตภัณฑ์น้ำนมข้าวกับผู้ประกอบการ กลุ่มเกษตรกร และผู้จัดจำหน่าย โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์, นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ ร่วมด้วย

จากนั้น นายกฯ กล่าวว่า จริงๆ แล้วตั้งใจจะไม่พูด แต่เกรงว่าจะเป็นการลงนามบันทึกความไม่เข้าใจกัน เพราะทุกครั้งที่ทำอะไรลงไปมักจะถูกตีเป็นประเด็นการเมืองทั้งหมด ตนก็เลยจำเป็นต้องมาพูดบ้าง เพื่อให้เกิดการรับรู้ในสังคมว่าเราไม่ได้ทอดทิ้งใคร โดยเฉพาะเกษตรกรต้องช่วยกันทำ ไม่ใช่ผลิตออกมาแล้วขายไม่ได้มาโทษรัฐบาลอีก เพราะที่ผ่านมาก็โทษรัฐบาลมาหลายเรื่อง

นายกฯ กล่าวว่า ดังนั้นต้องช่วยกันสร้างการรับรู้ให้กับเกษตรกรไปสู่การสร้างไทยนิยมที่เข้มแข็ง อย่างเรื่องข้าวเป็นต้น รัฐบาลไหนก็ตามถ้าทำงานอย่างนี้ได้ตนก็ไม่ห่วง ใครจะเป็นก็เป็นไปเถอะแต่ฝากประชาชนดูเรื่องนี้ด้วย ตนจำเป็นต้องพูดเรื่องการเมืองเพราะโดนกันทุกวัน ถ้าท่านต้องการอยากให้ทุกอย่างดีขึ้นก็ต้องหาทางที่จะได้รัฐบาลทำงานได้อย่างที่ท่านพอใจและยั่งยืน ตนเน้นย้ำคำว่ายั่งยืน ครบวงจร เน้นว่าต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง แต่การจะทิ้งใครไม่ทิ้งใครบางทีก็ถูกนำไปหาว่าไม่ดูแลเกษตรกร ไม่ได้ดูแลปาล์ม ไม่ดูแลยาง แต่ท่านต้องไปดูตลาดโลกด้วย

นายกฯ กล่าวต่อว่า ปัญหาคือเกษตรกรบางคนไม่เข้าใจ ซึ่งเข้าใจแต่เพียงว่ารัฐบาลมีหน้าที่ดูแลประชาชนตามหน้าที่ในรัฐธรรมนูญ งบประมาณทั้งหมดเป็นภาษีประชาชนต้องคืนประชาชนทั้งหมดคิดกันอยู่แค่นี้ และก็มีใครเข้ามาบิดเบี้ยวบิดเบือนด้วย รัฐธรรมนูญต้องเป็นอย่างนี้แต่กฎหมายลูกไม่สนใจซักฉบับมันก็ไม่ได้หมด เพราะรัฐธรรมนูญคือกรอบในการบริหารประเทศของรัฐบาลให้เป็นธรรมาภิบาลเขาเขียนกว้างๆ ไว้ แต่กฎหมายลูกตามมาแต่ละมาตรามีกฎหมายลูกไม่ต่ำกวา 50 ฉบับ ต้องอธิบายสังคมแบบนี้ไม่เช่นนั้นจะเกิดความวุ่นวาย

...

นายกฯ กล่าวต่อว่า เมื่อเช้ามีข่าวถึงการพูดคุยกันของคาบสมุทรเกาหลี ที่จะไปที่ประเทศเพื่อนบ้านของเรา มีการบอกกันว่ารัฐบาลบ้านเราเป็นแบบนี้เขาถึงไม่มา มันคนละเรื่องกัน คุณไม่ฟังตอนต้นกัน ที่เขาให้เหตุผลว่าทำไมเขาถึงไปนี่นั่น เพราะประเทศนี้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย และประชาชนมีระเบียบวินัย เคารพกฎหมาย แค่นี้ นี่คือเหตุผลจริงๆ จะบอกให้ ฟังเขาพูดให้จบ บางทีก็บอกกันว่าเขาไม่มา เพราะมีตาตู่นี่อยู่ เขาก็มามากขึ้นๆ ทุกวัน อาทิตย์หนึ่งมาไม่รู้กี่ประเทศมาค้าขายกับเรา เราก็ค้าขายไป การเมืองก็เรื่องของการเมือง การเมืองเขามีไว้ให้สร้างบ้านสร้างเมือง ไม่ใช่ใช้การเมืองไว้ทำลายกัน สร้างความเกลียดชังไปเรื่อยๆ แล้วจะอยู่กันได้ยังไงวันข้างหน้า เลือกตั้งมาใหม่ก็เกลียดกันอย่างนี้อีกแหละ นั่นคือสิ่งที่เป็นกังวล

นายกฯ กล่าวต่อว่า ฝากให้ทุกคนรับรู้ รับทราบ และช่วยกันบอกด้วยว่าเวลาตนไปต่างจังหวัด ไปประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็ไปทุกจังหวัด จะไปที่ไหน เขารับตรงไหนก็ไปตรงนั้น ตรงไหนตนได้เจอคนก็ได้เจอตรงนั้น ไม่ใช่ไปเจอคนแบบจัดให้เจอ ก็จะไปเจอตรงไหนที่มากที่สุดที่เขาจะจัดให้เจอกับประชาชนได้ จะพูดคุยกับเขาเอง ไม่ต้องการให้เป็นคำครหาอะไรทั้งสิ้น ฝากทุกคนด้วย ตนยังไม่ทำเรื่องการเมือง แต่ทำเรื่องการบ้านอยู่ การบ้านที่ต้องทำให้สำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนการเลือกตั้ง เพื่อให้ทุกคนสบายใจว่าวันหน้าสิ่งที่ทำวันนี้ไว้ดีๆ จะได้เกิดต่อ ไม่ใช่หวังกลับมาอยู่แบบเดิม ทำอะไรก็ได้ ผิดกฎหมายยังไงก็ได้ ปล่อยปละละเลย ให้สินบนอะไรก็ได้ ก็จะได้เหมือนเดิม ซึ่งไม่ใช่แก้ที่รัฐบาลอย่างเดียว แต่ต้องแก้ที่ประชาชนทุกคนด้วย มันไม่มีคนให้ ก็ไม่มีคนรับ ถ้าไม่มีคนเสนอก็ไม่มีคนสนอง อย่าหาว่าตนกลับไปโทษเลย ถ้าเขามีเรียกก็ให้ฟ้องมา ก็ลงโทษให้ติดคุกกันไป ฝากทุกคนช่วยคิดด้วย

นายกฯ กล่าวอีกว่า ขอให้ทุกธุรกิจทุกกิจกรรม และเอกชนที่ทำดีเพื่อแผ่นดิน ทำดีเพื่อคนจนขอให้เจริญร่ำรวยต่อไปเรื่อยๆ มากขึ้นเป็นร้อยเท่าพันทวี แต่ถ้าใครรังแกประชาชนเอาเปรียบก็แล้วแต่ลงโทษกันเอง พระมี ตนไม่กล้าไปว่าใคร ตนศัตรูเยอะอยู่แล้ว พระสยามเทวาธิราชทรงดูแลประเทศไทยมานานตั้งแต่สร้างมา 200-300 กว่าปี ท่านก็เหนื่อยนะ ให้ท่านพักบ้างเถอะ อะไรก็ขอท่านให้เรียบร้อย ขอได้เป็นกำลังใจให้เรา ขอให้ท่านช่วยก็ไม่ไหวเหมือนกัน ท่านช่วยให้เราทำงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อมาถึงช่วงนี้ นายกฯ ได้หยุดพร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนกล่าวว่า "ขอให้พระบารมีอันมากล้นของสถาบันพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 9 รัชกาลที่ 10 และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ได้ปกป้องทุกคน เราต้องปฏิรูปประเทศในสมัยเราให้ได้ ตราบที่เรามีชีวิตอยู่ ถ้าเราไม่ช่วยกัน ไม่มีรัฐบาลไหนจะทำได้ ทุกรัฐบาลไม่ว่าชาตินี้หรือชาติหน้า ถ้าเราไม่ช่วยกันทำเอง".