นายกฯ แจงยังไม่เคาะสร้างสนามบิน จ.สุรินทร์ เหตุต้องดูความคุ้มค่ารอบด้าน-เชื่อมสายการบิน ตปท.ย้อนพีมูฟจี้สางที่ทำกิน ให้หันไปดู ขรก.ที่ไร้ที่ดินบ้าง เตือนเคลื่อนม็อบระวังผิดกฎหมาย แนะต้องอดทน ยันรัฐบาลจะแก้ให้ดีที่สุด ตีกลับร่าง พ.ร.บ.ป่าชุมชน รับปากเร่งให้เร็ว
เมื่อวันที่ 8 พ.ค.61 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ถึงข้อเสนอที่ให้รัฐบาลก่อสร้างสนามบินสุรินทร์ ว่า การลงทุนก่อสร้างสนามบินต้องมีการพิจารณาว่าในภูมิภาคมีสนามบินแล้วกี่แห่ง เพราะเรื่องดังกล่าวจะทำให้มีภาระตามมาอีกมากในการบริหารจัดการสนามบิน การที่รัฐบาลจะลงทุนสร้างสนามบินต้องดูว่ามีความคุ้มค่า เนื่องจากการลงทุนทำในพื้นที่ที่ยังไม่สามารถประเมินผลสัมฤทธิ์หรือมูลค่าได้มากนักในระยะเริ่มต้นนั้น ไม่มีเครื่องบินใดจะมาลงจอด เพราะจะทำให้เขามีต้นทุนสูงขึ้นในการให้บริการการใช้สนามบินจำนวนบุคลากรไม่เพียงพอเทคโนโลยี สื่ออุปกรณ์ ค่าบำรุงรักษา ซึ่งเราต้องคิดเรื่องเหล่านี้ให้ดี ไม่ใช่จะปฏิเสธคำขอได้ทันที ยกตัวอย่างกรณีของสนามบิน จ.แม่ฮ่องสอน ที่มีมาหลายปี แต่หยุดทำการบินมานาน จนกระทั่งมาถึงในรัฐบาลปัจจุบันที่มาจัดระเบียบและดำเนินการต่างๆ ให้จนสามารถเปิดให้บริการเพิ่มขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้เราต้องดูว่าปริมาณผู้มาใช้บริการสนามบินในแต่ละปีมีจำนวนเท่าไหร่ รวมถึงต้องดูว่าในชั่วโมงเร่งด่วนและช่วงที่มีการจัดการแข่งขันกีฬานั้น มีผู้มาใช้บริการสนามบินเท่าไหร่ เราต้องคำนวณทุกเรื่องเพื่อดูความคุ้มค่า มีสนามบินแห่งใดที่อยู่ใกล้บ้าง และจะมีรถรับ-ส่งคนไปยังสนามบินที่อยู่ห่างไม่เกิน 100 กิโลเมตร (กม.) หรือไม่ นี่คือหลักการใช้จ่ายงบประมาณ อีกทั้งการก่อสร้างสนามบินแต่ละแห่งจะต้องเชื่อมโยงกับสายการบินจากต่างประเทศ โดยต้องดูว่ามีเครื่องบินที่บินตรงจากต่างประเทศ หรือมีแต่เครื่องบินที่บินในประเทศ
...
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีกลุ่มขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) ปักหลักชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาที่ดินทำกินให้คนจน บริเวณหน้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า แนวทางการแก้ปัญหาที่ทำกินมีอย่างเดียว โดยคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) จัดหาพื้นที่ให้มีบ้านที่อยู่อาศัยที่ทำกิน ซึ่งมีการมอบเอกสารสิทธิที่ไม่สามารถขายต่อได้ไปบ้างแล้วจำนวนล้านกว่าไร่ ตอนนี้ทำไปกว่า 60 จังหวัด แต่จะทำให้ให้มากที่สุด ทั้งในที่ดินที่หมดจากสภาพป่าที่ราชพัสดุ ที่สามารถทำได้ตามกฎหมาย เมื่อถึงจุดอิ่มตัวถ้าเรายังคงมุ่งมั่นทำการเกษตรอย่างเดียว 5-15 ไร่ ปัญหาจะให้ทุกคนได้อย่างไรในเมื่อมีเป็นล้านคน ซึ่งต้องถามข้าราชการระดับล่างด้วยที่ทำงานมาทั้งหมดก็ต้องการมีที่ดินเหมือนกันเกษียณไปแล้วไม่มีเงินทองปลูกบ้านด้วยซ้ำไป รัฐบาลก็ต้องดูแลส่วนนี้ด้วย
"ถ้าเราเรียกร้องอย่างเดียว อะไรจะขอฟรีทุกเรื่องคงลำบาก เป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจกับสังคม เรื่องการแก้ปัญหาพีมูฟวันนี้ย้ายไปกระทรวงโน้นกระทรวงนี้ก็ระมัดระวังด้วยก็แล้วกัน ทำให้มันถูกต้องตามกฎหมาย การจะไปชี้ตรงโน้นตรงนี้เอาเองมันไม่ได้หรอก แล้วถ้าทุกคนทั้งประเทศลุกขึ้นมาชี้แล้วมันจะไปกันอย่างไร สื่อกรุณาไปสร้างความเข้าใจด้วยรัฐบาลก็รับไปพิจารณาในกลุ่มคณะทำงานอนุกรรมการในเรื่องของการจัดหาพื้นที่ให้อยู่แล้ว ก็ต้องอดทนเราอยากจะทำให้ดีที่สุดไม่เช่นนั้นก็ต้องเอาป่าอุทยาน ป่าต้นน้ำมาแจกกันหมดมันก็เป็นไปไม่ได้ ที่ของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) บางพื้นที่น่าจะจัดได้ก็บุกรุกเต็มพื้นที่ ส.ป.ก.เข้าไปอีก ผมถามว่าการสู้รบกับคนที่มีรายได้น้อยมันยากง่ายเพียงใด ถ้าง่ายทุกรัฐบาลคงทำสำเร็จไปแล้ว แต่รัฐบาลนี้ต้องหาหนทางปฏิบัติให้ได้โดยที่ไม่มีปัญหาต่อไปในอนาคต" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ป่าชุมชนของ ครม.ว่า เรื่องนี้ ครม.มีมติรับทราบไปก่อน เพราะต้องรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ทั้งนี้บางพื้นที่ที่ประชาชนเรียกร้องมาอาจจะไปทับซ้อนกับเอกสารสิทธิ ที่ดินของกรมธนารักษ์ หรือที่ของทางราชการ ซึ่งต้องไปดูแยกแยะให้ชัดเจน ในเรื่องกฎระเบียบ กฎกระทรวงต่างๆด้วย ถ้าตรงไหนทำได้ตนก็จะให้ทำเร่งรัดดำเนินการให้โดยเร็ว คงใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ในการนำกลับมาเสนอเข้าหารือในที่ประชุม ครม.อีกครั้ง.