"อนุทิน" ร่วมงานครบรอบ 2 ปี "บรรหาร" ปัดเคลียร์ใจ ชทพ.หลังข่าว ดึง "ลูกเสธหนั่น" ร่วมพรรค เผยไม่หวั่น คสช.เล็งตั้งพรรค พร้อมต้อนรับ "บิ๊กตู่" หอบ ครม.ถกสัญจรบุรีรัมย์ เชื่อไร้นัยการเมือง มั่นใจไม่มีใครกล้าดูด ส.ส. ภท.

เมื่อวันที่ 23 เม.ย. 61 ที่ศาลาสมเด็จพระนเรศวรมหาราช วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จ.สุพรรณบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวภายหลังเข้าร่วมงานทำบุญครบรอบ 2 ปี นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ถึงแก่อนิจกรรมว่า นายบรรหาร ถือเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีที่นักการเมืองทุกคนเคารพ เพราะตั้งแต่ที่นักการเมืองรุ่นตนเข้าสู่สภา ได้รับคำแนะนำที่มีคุณค่าจากนายบรรหาร จึงถือเป็นความจำเป็นที่ตนต้องเดินทางมาร่วมงานทำบุญดังกล่าว อย่างไรก็ตาม การเดินทางมาร่วมงานครั้งนี้ไม่มีนัยทางการเมือง เพราะพรรคภูมิใจไทย และพรรคชาติไทยมีความสัมพันธ์ที่ดีกันมาโดยตลอด ส่วนกรณีมีข่าวระบุว่า สมาชิกของพรรคชาติไทย อาทิ นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ อดีต ส.ส.พิจิตร จะไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทยนั้น ส่วนตัวตนไม่ได้เป็นคนพูดคุย เพราะมีบุคคลที่นำรายละเอียดมาบอกให้ตนทราบว่า นายศิริวัฒน์ จะเข้ามาเป็นผู้สมัคร ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ อย่างไรก็ตาม กระแสข่าวการดึงตัว ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย ไปสังกัดพรรคการเมืองอื่นๆ นั้น จากการลงพื้นที่พบปะกับอดีต ส.ส. และผู้สมัครหน้าใหม่ ยังมั่นใจว่าจะอยู่กับพรรคต่อไป 

"ส่วนบุคคลที่ไม่ได้เข้ายืนยันเป็นสมาชิกพรรค ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ ไม่ได้แปลว่าอนาคตเขาจะไม่อยู่กับพรรค เพราะการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งปัจจัยสำคัญคือการเป็นสมาชิกพรรคก่อน 90 วัน ที่จะมีการเลือกตั้งทั่วไป ทั้งนี้ไม่มีอะไรต้องเคลียร์ใจกับ นายวราวุธ ศิลปอาชา เพราะที่คุยๆ กันไม่มีกรณีที่พรรคภูมิใจไทยไปดึงคนของชาติไทยพัฒนา เพราะต้องรอวันเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม พรรคภูมิใจไทย กับ พรรคชาติไทยพัฒนา ถือเป็นพรรคพี่พรรคน้องคุยกันรู้เรื่อง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะฮั้วกัน" นายอนุทิน กล่าว

...

เมื่อถามต่อถึงข้อสังเกตต่อการวอร์มอัพ จัดฟอร์มลงสนามเลือกตั้งของพรรคการเมืองขั้วผู้มีอำนาจ​ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่มีความกังวล เพราะหากไม่มีพรรคของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตนยังต้องแข่งขันกับอีกหลายพรรคการเมือง อีกทั้งตนมองว่าพรรคการเมืองของจริงในระบบการเมืองไทย ไม่มีพรรคไหนที่ไม่เคยเป็นพรรคฝ่ายค้าน และไม่มีพรรคไหนผ่านการเลือกตั้งโดยไม่แข่งขัน เชื่อว่าขึ้นอยู่กับความเชื่อถือของประชาชนและนโยบาย รวมถึงความขยันของผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ทั้งนี้หลังจากการเลือกตั้ง เมื่อผลออกมาเป็นอย่างไรก็ต้องยอมรับในกติกา หากหลังเลือกตั้งพรรคภูมิใจไทยได้เป็นรัฐบาล ขอให้เลิกกังวลใจ เพราะพรรคมีนโยบายที่จะเข้าหา และพูดคุยกับพรรคการเมืองที่มีนโยบายที่ดีเพื่อให้มาทำงานร่วมกัน โดยจะยึดการช่วยกันทำงาน ร่วมมือกันเพื่อบ้านเมือง ทุกพรรคการเมืองต้องแข่งขันในกติกา และเมื่อผลเลือกตั้งออกมาก็ต้องยอมรับ ทำตามกติกาและมารยาททางการเมือง ซึ่งตนมองว่าการแข่งขันกันช่วงนี้ไม่มีพรรคไหนที่ได้เปรียบไปมากกว่ากัน

เมื่อถามถึง กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช.เตรียมนำคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประชุมนอกสถานที่​ ที่ จ.บุรีรัมย์ และ จ.สุรินทร์ ช่วงต้นเดือน พ.ค.นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า เชื่อว่าไม่มีนัยทางการเมือง เพราะทราบว่าเป็นการเตรียมการประชุมไว้ล่วงหน้านานหลายเดือน โดยตนฐานะที่เป็นคนในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ พร้อมจะให้การต้อนรับ โดยไม่เกี่ยง และขออย่าให้โยงไปเป็นประเด็นทางการเมือง ทั้งนี้กรณีที่ลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ที่คณะของ พล.อ.ประยุทธ์ จะเข้าไปดูการเตรียมความพร้อมของการจัดแข่งขันมอร์เตอร์ จีพี ที่สนามบุรีรัมย์ อินเตอร์เนชั่นเนล เซอร์กิต ที่ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานที่ปรึกษาโครงการสนามรถแข่งฯ รับผิดชอบ ถือเป็นเรื่องที่ดี ส่วนกรณีที่มีผู้คาดการณ์ว่าอาจจะเป็นการพูดคุยเพื่อเตรียมดึงตัวไปร่วมงานรัฐบาลนั้น ตนเชื่อว่า นายเนวิน ฐานะประธานที่ปรึกษาโครงการฯ คงทำหน้าที่ในขณะนี้อย่างมีความสุขอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ที่มีหลายคนคาดว่า คนของพรรคภูมิใจไทยอาจจะถูกทาบทามไปร่วมงานรัฐบาลนั้น ไม่เชื่อว่าจะมีใครกล้าดึงคนของพรรคไปแน่