สปอตไลต์สาดส่องไปที่ตระกูล “สะสมทรัพย์” ล่าสุดนั้น ไม่เพียงแค่อิทธิพลทางการเมืองที่น่าสนใจ แต่ตระกูลนี้จัดว่ารวย โดยเฉพาะจากธุรกิจขยะพันล้านที่ต่อยอดมาจนถึงสนามกอล์ฟระดับโลก

การเมืองเริ่มสนุก เมื่อมีความเคลื่อนไหวที่แสดงออกถึงการหาพวก จับขั้วเพื่อรวมกลุ่มก้อนก่อนปูฐานรับเลือกตั้งหากเกิดขึ้นจริง และล่าสุดบรรยากาศคึกคักมากที่ “สนามนิกันติ กอล์ฟคลับ” จ.นครปฐม ของตระกูลสะสมทรัพย์ ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวคล้อยหลังเพียงวันเดียวหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งพี่น้องตระกูล “คุณปลื้ม” ผู้กว้างขวางในพื้นที่ จ.ชลบุรี มาร่วมทำงานในรัฐบาล คสช.

ที่สนามกอล์ฟนิกันติเมื่อวานนี้ (18 เม.ย.) ถือเป็นการโชว์พลังของพรรคเพื่อไทย ที่นำโดยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี น้องเขยของนายทักษิณ ชินวัตร รวมถึงสมาชิกแกนนำพรรค อย่างนายภูมิธรรม เวชยชัย นายวราเทพ รัตนากร ที่พากันไปออกรอบที่นั่น โดยมีพี่น้องตระกูลสะสมทรัพย์มาต้อนรับ คือนายอนุชา อดีต ส.ว.ปี 2549 และส.ส.ปี 2550 และนายไชยยศ ส.ส.นครปฐมหลายสมัย อดีตหัวหน้าพรรคเอกภาพ ก่อนมาสังกัดพรรคไทยรักไทย ที่กลายเป็นพรรคเพื่อไทยในปัจจุบัน

...

นับเป็นเวลาที่สปอตไลต์จะส่องไปที่ตระกูลสะสมทรัพย์อีกครั้ง หลังจากมีข่าวใหญ่ครั้งล่าสุด เมื่อคสช.เข้าบริหารประเทศ หลังรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 และเริ่มกวาดล้างอิทธิพลในจุดต่าง ๆ จนในปี 2558 และ 2559 ตำรวจได้นำกำลังเข้าค้นบ้านของนายไชยา นายเผดิมชัย และนายอนุรัตน์ และพบปืน กระสุนจำนวนมาก

ขณะที่ในปีต่อมา ปลายปี 2560 ปรากฏภาพถ่ายที่นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ที่นายกฯ บิ๊กตู่ถ่ายภาพหมู่กับพี่น้องสะสมทรัพย์ที่สนามกอล์ฟแห่งนี้ด้วย โดยที่นายกรัฐมนตรีชี้แจงในเวลาต่อมาว่า ไม่รู้มาก่อนว่าที่นี่เป็นของใคร แต่มีคนบอกว่าจังหวัดนี้มีสนามกอล์ฟที่ดีที่สุด แถมได้รับรางวัลด้วย

ขอบคุณภาพ : เฟซบุ๊กนายวัฒนา เมืองสุข  

ในทางการเมืองจึงชัดเจนว่า ตระกูลสะสมทรัพย์มีอิทธิพลกว้างขวาง ด้วยฐานเสียงที่พี่น้อง 4 คนในครอบครัวนี้ ตั้งแต่นายเผดิมชัย นายไชยยศ นายไชยา และนายอนุชา สะสมมาหลายสิบปี

ในส่วนความมั่งคั่งของครอบครัวนี้ มาจากธุรกิจหลากหลาย ที่เห็นชัดเจนคือตั้งแต่รับเหมาก่อสร้าง ค้าวัสดุก่อสร้าง โกดังข้าว รับเหมากำจัดขยะ และอื่น ๆ อีกมากมาย จนล่าสุดสนามกอล์ฟหรูระดับโลก ที่กลายเป็นแหล่งรวมตัวนักการเมืองอย่างสมฐานะ โดยมีบริษัทหลายบริษัทของครอบครัวที่ดำเนินการอยู่ที่เด่น ๆ ในกลุ่มธุรกิจขยะที่โยงมาถึงสนามกอล์ฟมี 3 บริษัท

ธุรกิจกำจัดขยะ ที่บริษัทของตระกูลสะสมทรัพย์ทำมานาน และเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมาเพิ่งได้ต่อสัญญาสัมปทานจาก กทม.ไปอีก 10 ปี คือ บริษัท วัสดุภัณฑ์ธุรกิจ จำกัด ที่สานต่อด้วยบริษัทกลุ่ม 79 จำกัด ที่ปัจจุบันมีทายาทรุ่นที่ 3 ของตระกูลบริหาร

บริษัทกลุ่ม 79 เริ่มก่อตั้งด้วยการวิ่งรถสิบล้อ และเปลี่ยนมาทำธุรกิจรถทัวร์สาย 79 จนรุ่นที่สองมองเห็นโอกาสของการรับงานกำจัดขยะ จึงได้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2539

จากการตรวจสอบข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า บริษัท วัสดุภัณฑ์ธุรกิจ จดทะเบียนเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2525 มีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท ระบุวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งบริษัทคือ รับจ้างขนมูลฝอย และนำไปฝังกลบอย่างถูกสุขลักษณะ มีกรรมการที่นามสกุลสะสมทรัพย์คือ นายอนุวัฒน์ และนางสาวสุพีภัสร์​

ส่วนบริษัทกลุ่ม 79 จดทะเบียนก่อนวันเดียว คือวันที่ 27 ธ.ค.2525 ทุนจดทะเบียน 150 ล้านบาท มีกรรมการนามสกุลสะสมทรัพย์ 2 คน คือนายวราวิชช์ และนายจิรวัฒน์

สำหรับรายได้ของทั้งสองบริษัทนับว่าไม่น้อย รวมกันปีหนึ่งไม่ต่ำกว่าพันล้านบาท โดยวัสดุภัณฑ์ธุรกิจ มีรายได้ปี 2559 ประมาณ 603 ล้านบาท กำไรประมาณ 36 ล้านบาท ส่วนกลุ่ม 79 มีรายได้ 684 ล้านบาท กำไร 31 ล้านบาท

สำหรับธุรกิจสนามกอล์ฟนิกันตินั้น มีฤกษ์เปิดบริการไปเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2557 ดำเนินการภายใต้บริษัท กลุ่ม 15 จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 20 เม.ย.2549 ทุนจดทะเบียน 250 ล้านบาท โดยวัตถุประสงค์ล่าสุดที่แจ้งไว้ คือ รับจ้างฝังกลบมูลฝอยอย่างถูกสุขลักษณะ และควบคุมจัดการ การใช้ประโยชน์ก๊าซชีวภาพจากขยะมูลฝอย สนามกอล์ฟ

ขอบคุณภาพ : นิกันติ กอล์ฟคลับ

บริษัทกลุ่ม 15 มีกรรมการนามสกุลสะสมทรัพย์ 4 คน คือ นายจิรวัฒน์ น.ส.สุรัชดา นายวราวิชช์ และนายอนุวัฒน์ มีรายได้รวมปี 2559 จำนวน 501 ล้านบาท กำไรสุทธิประมาณ 15 ล้านบาท ถ้าย้อนหลังไป 3 ปีก่อนหน้านั้น ในปี 2556 รายได้เพียงประมาณ 394 ล้านบาท แต่มีกำไร 84 ล้านบาท ปี 2557 รายได้ 444 ล้านบาท กำไร 61 ล้านบาท พอมาปี 2558 รายได้สูงขึ้นเป็น 516 ล้านบาท แต่ขาดทุน 40 ล้านบาท

จากกองขยะที่ไร้ค่า กลายเป็นเงินร้อยล้านพันล้าน สำหรับคนที่เห็นโอกาส ที่ไม่เพียงสร้างฐานะ แต่ก็มีโอกาสอื่น ๆ ที่จะตามมาอีกมากมาย ไม่เว้นแม้แต่โอกาสทางการเมืองอย่างที่เห็น