“พิชัย” เย้ย “สมคิด” โยกย้ายคนผิดงาน ยิ่งลดความนิยมของรัฐบาล มั่นใจ 2 คนที่โดนย้าย ทั้งนายสมชัย และนายปรเมธี เก่งและฉลาดกว่า ครม.สาย'สมคิด'ทุกคน
วันที่ 11 เม.ย. นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน กล่าวว่า ตามที่ ครม. มีมติย้ายฟ้าผ่าให้ ปลัดกระทรวงการคลัง นายสมชัย สัจจพงษ์ ไปเป็นเลขาฯ สภาพัฒน์ฯ และ ให้ เลขาฯ สภาพัฒน์ฯ ย้ายไปเป็นปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จนนายสมชัย ได้ยื่นหนังสือลาออกแล้วนั้น แสดงถึงว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ เลือกใช้คนไม่ถูกกับงาน หรือ อาจจะไม่พอใจการทำงานของทั้งสองคน ที่ไม่สนองนโยบายที่สับสนของรัฐบาลอยู่ในปัจจุบัน ที่มีการเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนรายใหญ่เหมือนเป็นการผูกขาดประเทศ ในขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ยังลำบากกันมาก โดยทั้งสองคนนี้ ถือเป็นบุคคลากรที่มีความรู้ ความสามารถทางเศรษฐกิจ ที่หาได้ยากในปัจจุบัน
และโดยส่วนตัวแล้วยังเชื่อว่า นายสมชัย และ นายปรเมธี มีความรู้ความสามารถทางเศรษฐกิจมากกว่า คณะรัฐมนตรี ในสาย นายสมคิดทุกคน การโยกนายสมชัย ไปเป็นเลขาสภาพัฒน์ เท่ากับเป็นการลดตำแหน่งลง จึงทำให้ต้องตัดสินใจลาออก ส่วนเลขาสภาพัฒน์ฯ ที่มีหน้าที่ดูแลภาพใหญ่ของประเทศกลับส่งให้ไปเป็นปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ก็เป็นการลดตำแหน่งเช่นกัน เพราะให้มาทำเรื่องเล็กๆ แถมยังต้องมาแก้ไขปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นครั้งมโหฬารแทบทุกจังหวัด การโยกย้ายครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลไม่ได้ใช้คนตามความรู้ความสามารถแต่จะใช้คนเฉพาะที่เป็นพรรคพวกของตนเท่านั้น ซึ่งจะเป็นการทำลายขวัญและกำลังใจของข้าราชการที่มีความรู้ความสามารถในทุกกระทรวง อีกทั้งยิ่งจะทำให้ความนิยมของรัฐบาลที่ลดต่ำอยู่แล้วยิ่งลดต่ำลงไปอีก
...
และเชื่อว่าการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้อาจจะไม่ได้ดีอย่างที่คาดเพราะการลงทุนในไตรมาสแรกลดลงอย่างมาก โดยยอดการตั้งโรงงานลดลง 26.96% และ การลงทุนจริงวูบลงถึง 25,700 ล้านบาท และหากมีสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน การเติบโตของไทยจะลดลงไปอีก หาก ครม. เศรษฐกิจไม่เก่งพอ และยังโยกย้ายคนเก่งออกไปอีก จะยิ่งทำให้เศรษฐกิจแย่ลง ประชาชนจะย่ิงลำบาก