บรรยากาศการเมือง ยังอึมครึมและปกคลุมไปด้วยกระแสการท้าทาย ระหว่าง การเลือกผู้นำ จะเอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ ดูจะเป็นการสร้างบรรยากาศทางการเมืองให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมาอีกระลอก

การจับคู่ตัวละครการเมืองที่ผ่านมา ทักษิณ ชินวัตร มาจนถึง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ถือว่าเป็นพรรคการเมืองเก่าแก่ จนกระทั่งมี พรรคไทยรักไทย มี ทักษิณ ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ประชาธิปัตย์ กลายเป็นพรรคลำดับรอง เป็น พรรคฝ่ายค้านมืออาชีพ เกิดความขัดแย้งทางการเมือง จากในสภาจนถึงนอกสภา การเมืองบนถนน สุดท้ายประชาธิปไตย ประชาชน ก็ถูกจับเป็นตัวประกัน ตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปี 2561 ประเทศไทยเกิดการยึดอำนาจถึง 2 ครั้ง อย่างไม่น่าเชื่อ

และเหตุแห่งการยึดอำนาจ ก็เกิดจาก การสร้างความขัดแย้งระหว่างพรรคการเมือง เป็นการชิงอำนาจทางการเมือง ที่ไม่ได้เกี่ยวกับระบอบประชาธิปไตยหรือรัฐธรรมนูญหรือความเดือดร้อนของประชาชน อาทิ เกิดจากความพยายามที่พรรคเพื่อไทยจะเสนอนิรโทษกรรม และถูกประชาธิปัตย์จับเอามาเป็นชนวนการเมือง ก้าวข้ามกฎกติกา มุ่งเอาชนะกันนอกกติกา จนท้ายที่สุด ความขัดแย้งบานปลายจากสถาบันลงสู่องค์กร ชุมชนและครอบครัว

เป็นความขัดแย้งที่แบ่งคนไทยออกเป็นพวกเป็นเหล่าอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

หากวันนี้ ประเทศไทยยังถูกชักนำกลับเข้าสู่วังวนการเมืองแบบเดิมๆ โอกาสที่บ้านเมืองจะกลับเข้าสู่ความสงบสุข เป็นสังคมที่เอื้ออาทรอีกครั้งคงเป็นเรื่องยาก

ตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาดำเนินนโยบายทางการเมือง ก็เพื่อที่จะเอาชนะฝ่ายตรงกันข้าม ก็เพื่อที่จะเลือกสนับสนุนข้างใดข้างหนึ่งโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่เกิดกับประชาชนและประเทศ

วันนี้ ท่าทีของรัฐบาล ท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีแนวโน้มที่จะลงสนามการเมือง ตามวิถีประชาธิปไตย มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะฝ่ายการเมืองเองส่วนใหญ่จะไม่เห็นด้วยอ้างเกรงว่าจะเกิดการได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมือง

...

กระแสการเมืองที่พยายามปลุกระดมกันอยู่ บีบให้การเมืองต้องเลือกข้าง อีกแล้ว ไม่ใช่เพื่อไทยหรือประชาธิปัตย์เท่านั้น เพิ่ม พล.อ.ประยุทธ์ เข้าไปด้วย

เป็นการเมืองสามเส้าบนทางสองแพร่ง

ถ้าการเมืองไทยยังจี้ติดอยู่ที่ตัวบุคคล ยังกังวลอยู่ที่สีเสื้อ ยังวนเวียนกับวิกฤติการเมืองในอดีต แสดงว่าการเมืองไทยกำลังถอยหลังลงคลองไปทุกที ในขณะที่ประเทศมีความจำเป็นต้องก้าวข้ามความขัดแย้งวิกฤติการเมืองแบบเดิมๆเพื่อก้าวให้ทัน ไทยแลนด์ 4.0 ให้ทันชาวโลกก็ต้องพัฒนาการเมืองให้ก้าวพ้นวิกฤติในอดีตให้ได้

ขึ้นอยู่กับชาวบ้านจะเลือกอดีตหรืออนาคต.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th