ลีลาการเมือง ฟังหูไว้หู

พอเปิดหม้อให้ออกมาหายใจได้เฮือกหนึ่ง ก็เริ่มแสดงตัวไม่ต่างไปจากเดิมๆ ใครเป็นใครหน้าไหนจะไปทางไหน พอจะมองเห็นรางๆแล้ว

คสช.เปิดให้พรรคการเมืองเก่าเดินหน้าในทางการเมือง ด้วยการเช็กชื่อสมาชิกพรรคว่าเหลืออยู่จำนวนเท่าใด และดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายใหม่

แค่วันแรกๆก็เป็นไปตามที่คาดการณ์กันว่าคือไม่มากนัก

เมื่อมาไม่มากนักก็ต้องงัดประเด็นเป้าหมายข้างหน้า เพื่อสร้างความสนใจจากประชาชนมาแรงสุด

ก็คือประชาธิปัตย์ภายใต้หัวหน้าพรรค “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”

จับประเด็นใหญ่ด้วย “อุดมการณ์” นั่นคือการต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ หัวหน้าพรรคจะต้องเป็นนายกฯ ลูกพรรคคนไหนหนุน “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เป็นนายกฯหันหลังกลับได้ ประชาธิปัตย์ไม่ต้อนรับ

ไสหัวออกไปได้เลย...

เรียกว่าออกตัวอย่างเท่ๆเลยทีเดียว

ถามว่าหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ทำไมต้องออกตัวแรงขนาดนั้น ไม่เก็บเหลี่ยมเก็บคมเอาไว้เพื่อเลือกเลยหรือ?

คำตอบก็เอาแบบกว้างๆอย่างน้อยก็ 2 ประเด็น

1. เป็นความจำเป็นในทางการเมืองที่จะต้องหานโยบายเชิงประจักษ์ เพราะการประกาศไม่เอาทหาร ไม่เอา “บิ๊กตู่” ก็เท่ากับว่าเป็นหลักการสำคัญที่ไม่ได้บ่งบอกว่าชอบไม่ชอบ แต่หมายถึงว่าประชาธิปไตยต้องไม่ใช่เผด็จการ

คือไม่ได้เป็นศัตรูกับทหารหรือ คสช. แต่เป็นศัตรูกับหลักการใหญ่

มองให้ลึกลงไปอีกชั้นหนึ่งก็คือ ทำให้เกิดจุดต่างระหว่างเพื่อไทยกับประชาธิปัตย์ในความเป็นประชาธิปไตย

แยกย่อยในลักษณะที่ว่าเพื่อไทยกับ คสช. นั้น คือศัตรูทางการเมือง ซึ่งกันและกัน ไม่ใช่หลักการประชาธิปไตยแบบโดดๆ

อีกทั้งยังต้องการแสดงให้พรรคใหม่-พรรคเก่า ซึ่งมีแนวโน้มในการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ หลังเลือกตั้ง

...

เพราะนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์นั้น ในการหาเสียงเป็นเรื่องยากต่อการยอมรับซึ่งจะต่างกับเพื่อไทย

พิสูจน์ให้เห็นกันมาแล้วจากการเลือกตั้งที่ผ่านมาคือไม่โดนใจ

2. ปัญหาอีกอย่างหนึ่งของประชาธิปัตย์คือ กปปส. ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ตั้งท่าจะตั้งพรรคการเมือง

ด้วยหลักการสำคัญ 2 อย่าง คือ ปฏิรูปประเทศและหนุน “บิ๊กตู่” เป็นนายกฯ

เมื่อนายอภิสิทธิ์ประกาศท่าทีชัดเจนด้วยไม่ยอมรับแนวทางนี้ และใครคิดอย่างนั้นก็ไม่ต้องเข้าพรรคหรือไสหัวออกไปได้เลย

การเลือกตั้งหัวหน้าพรรคตามวาระอีกไม่นานนี้ก็จะมีผลจากหลักการนี้เพื่อสนับสนุนตัวเขาเองเท่ากับการันตีว่าจะต้องได้เป็นต่อแน่

ตัดทาง กปปส.โดยตรงและสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ กปปส.ระดับแกนนำกลับประชาธิปัตย์โดยดุษณีไม่มีใครกล้าแอะ...ให้กวนใจ

แม้เพื่อไทยโดยเจ้าของพรรคตัวจริงประกาศจากต่างประเทศว่า เพื่อไทยชนะเลือกตั้งแน่ไม่มีปัญหา นี่ก็แค่เป็นการเกริ่นๆกันตามบรรยากาศทางการเมือง

เพราะยังไม่รู้ว่าจะมีการเลือกตั้งหรือเปล่า?

“สายล่อฟ้า”